โฆษณาทำแท้งมีอยู่ทุกที่
หากผู้ใหญ่ยังคงพูดอยู่ว่าหนังสือพวกนี้เกินไปสำหรับเด็ก
ก็คงพูดได้แค่ว่าความรู้ด้านเพศศึกษาของพวกเขาเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่

หลายปีที่ผ่านมาวัยรุ่นจีนต้องเจอกับระบบการศึกษาเรื่องเพศสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ ในขณะที่ตัวเลขของการมีเพศสัมพันธ์ในหมู่วัยรุ่นจีนเพิ่มจำนวนขึ้น หลายคนขาดความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยในการมีเพศสัมพันธ์นำไปสู่การเพิ่มจำนวนของการแพร่เชื้อไวรัส และโรคเอดส์ (HIV) อีกทั้งวัยรุ่นหลายคนยังไม่มีความรู้เรื่องการคุมกำเนิด แต่เลือกที่จะทำแท้งแทน

ผลสำรวจของปีที่แล้วพบว่า 10% ของนักเรียนหญิงจีนยอมรับว่าได้ทำแท้งอย่างน้อย 1 ครั้ง!

แน่นอนว่าการมีเพศสัมพันธ์ในวัยรุ่นหรือวัยเด็กเป็นปัญหาที่พ่อแม่และผู้ปกครองทุกคนยอมรับไม่ได้ด้วยเหตุผลหลายข้อตามที่เข้าใจกันได้โดยทั่วไป พ่อแม่หลายคนเลือกปกป้องลูกโดยห้ามมีเพศสัมพันธ์ แต่ไม่ได้ให้ความรู้ความเข้าใจกับเด็กมากเท่าที่ควร ซึ่งอาจนำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ถูกวิธี และก่อให้เกิดความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็น การตั้งครรภ์ การทำแท้ง หรือการติดเชื้อไวรัส

ประเทศจีนจึงพัฒนาหลักสูตรการเรียนรู้เรื่องเพศสำหรับนักเรียนโรงเรียนประถมศึกษา ซึ่งในหลักสูตรใหม่นี้ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จะได้เรียนรู้เรื่องความเท่าเทียมทางเพศ และเป้าหมายในชีวิตของพวกเขาที่สามารถทำได้ เช่น ผู้หญิงก็สามารถเป็นตำรวจที่ดีได้ รวมทั้งเป็นนักบินอวกาศได้ด้วย ส่วนผู้ชายก็สามารถเป็นพยาบาลและคุณครูเด็กอนุบาลได้เช่นกัน

อีกทั้งพวกเขาจะได้เรียนรู้ด้วยว่าคนตั้งครรภ์ได้อย่างไร เด็กทารกเกิดมาได้อย่างไร

แต่ผลที่ตามมาคือ มีพ่อแม่บางส่วนรู้สึกไม่พอใจหลักสูตรใหม่นี้เท่าไรนัก

นอกจากเรื่องดังกล่าว เด็กนักเรียนจะได้เรียนรู้ถึงความเข้าใจเกี่ยวกับเพศหลายอย่าง อาทิ เรื่องการป้องกันตัวจากการถูกแตะเนื้อต้องตัวที่ไม่เหมาะสมจากคนแปลกหน้าหรือแม้กระทั่งคนใกล้ตัว เมื่อเผชิญสถานการณ์ดังกล่าว เด็กจะต้องรีบปลีกออกจากสถานการณ์ตรงนั้น และต้องกลับไปบอกเล่าให้พ่อแม่หรือผู้ปกครองรับรู้ เป็นต้น

ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 นักเรียนจะได้เรียนรู้เรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น เชื้อไวรัสเอดส์ และการใช้ถุงยางอนามัยระหว่างการมีเพศสัมพันธ์จะช่วยลดการติดต่อหรือแพร่เชื้อได้ดีที่สุด ผ่านภาพประกอบที่เป็นภาพนักเรียนที่มีทั้งคู่ชายหญิงและคู่เกย์ เพื่อชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของถุงยางอนามัย ถ้าหากพวกเขาคิดจะมีเพศสัมพันธ์ แน่นอนว่าเนื้อหาไม่ได้เน้นแค่เกย์หรือคู่ชายหญิง แต่รวมถึงคู่รักเพศอื่นๆ ด้วย

ขณะที่ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีเนื้อหาบางส่วนสอนว่า ไม่ว่าจะเป็นเพศอะไรก็สามารถมีชีวิตรักที่โรแมนติกได้ แต่งงานได้ และมีสิทธิ์ที่จะสร้างครอบครัวแบบพ่อแม่ลูกได้ โดยนักเรียนจะได้รับการสอนให้ตระหนักว่า ในบางประเทศการแต่งงานของคนเพศเดียวกันเป็นเรื่องถูกกฎหมาย ถึงแม้ว่าในประเทศจีนตอนนี้การแต่งงานของคนเพศเดียวกันจะยังไม่ถูกกฎหมายก็ตาม

ภาพประกอบคู่รักเกย์และเลสเบี้ยนที่กำลังดูแลลูก

หนังสือเรียนหลักสูตรใหม่ดังกล่าวได้กลายเป็นข้อถกเถียงแห่งชาติ หลังจากแม่ของเด็กประถมศึกษาชั้นปีที่ 2 ในหางโจว สงสัยว่าหนังสือพวกนี้เป็นของปลอมและโพสต์รูปภาพหนังสือของลูกชายบน Weibo เว็บไซต์โซเชียลมีเดียชื่อดังของจีน

“มันสมเหตุสมผลแล้วหรือที่จะเรียบเรียงหนังสือออกมาเป็นแบบนี้? ฉันรู้สึกอายตัวเองเวลาที่มองเห็นมัน”

ขณะที่ผู้ใช้เว็บไซต์ Weibo บางคนเห็นด้วยกับข้อความของคุณแม่คนนี้ “รูปภาพที่โชว์ผู้ชายกับผู้หญิงกำลังมีเพศสัมพันธ์กันอยู่เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้แน่นอน”

อย่างไรก็ตาม คนอื่นก็แสดงความชื่นชมหลักสูตรใหม่ในการสอนเรื่องเพศสัมพันธ์ เรียกว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงระยะยาว และกล่าวว่า “การให้ความรู้เด็กเกี่ยวกับเรื่องเพศจะเป็นภูมิคุ้มกันพวกเขาที่ดีในอนาคต”

โพสต์หนึ่งในเว็บไซต์ Weibo ที่เขียนโดยคุณหมอคนหนึ่งได้แสดงความชื่นชมหนังสือ โดยมีข้อความว่า “โฆษณาทำแท้งมีอยู่ทุกที่ หากผู้ใหญ่ยังคงพูดอยู่ว่าหนังสือพวกนี้เกินไปสำหรับเด็ก ก็คงพูดได้แค่ว่าความรู้ด้านเพศศึกษาของพวกเขาเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่

“การรู้เรื่องเพศศึกษาจะช่วยป้องกันเด็กจากการถูกข่มเหงทางเพศ และเป็นเรื่องที่ดีกว่าถ้าเราจะพูดคุยเรื่องนี้กับเด็กอย่างตรงไปตรงมา” คุณหมอกล่าวเสริม

หนังสือเรียนหลักสูตรใหม่เล่มนี้ของจีนอาจมีเนื้อหาในแบบที่เด็กไม่เคยรับรู้มาก่อน ผู้ใหญ่หลายคนอาจรู้สึกกังวล แต่หากยอมรับกันว่าเรื่องเพศเป็นเรื่องธรรมชาติ และตระหนักถึงปัญหา เช่น การทำแท้ง หรือการติดโรคทางเพศสัมพันธ์ ที่จะเกิดขึ้นตามมาจากความไม่รู้แล้วละก็

บางทีการให้ความรู้ว่าอะไรเป็นอะไรอาจเป็นเรื่องที่ดีกว่า

กรณีหนังสือเพศศึกษาสำหรับเด็กที่เกิดขึ้นในเมืองจีนนี้อาจดูเป็นเรื่องน่าประหลาดใจ แต่ไม่ใช่เรื่องประหลาดในยุโรป เพราะหลายประเทศในภูมิภาคนี้ได้ให้ความรู้และพูดถึงเรื่องดังกล่าวกันเป็นเรื่องปกติ เหมือนที่ครั้งหนึ่ง ลักขณา ปันวิชัย (คำ ผกา) นักเขียน-พิธีกรชื่อดัง คอลัมนิสต์ประจำเว็บไซต์ The Momentum เคยให้สัมภาษณ์เรื่องวรรณกรรมเด็กในต่างประเทศไว้ว่า

“ในยุโรป วรรณกรรมเยาวชนของประเทศโซนแถบสแกนดิเนเวียเขาค่อนข้างจะไปไกลมาก กล้านำเสนอประเด็นที่แหลมคมและมองข้ามเรื่องเพศ ไม่มานั่งพูดว่าเด็กต้องมีพ่อมีแม่ แต่เด็กต้องมีปัญหาสารพัดสารเพ แม่เป็นกระหรี่ พ่อเป็นฆาตกร เขียนกันเป็นเรื่องออกมาให้เด็กสามารถรับมือกับความยากลำบากในชีวิตของตัวเองได้ แต่วรรณกรรมเยาวชนไทยมันยังไม่สามารถไปถึงจุดนั้น ก็นับเป็นปัญหาเหมือนกัน”

จากกรณีหนังสือเพศศึกษาในจีนและยุโรปนี้ น่าสนใจว่า หากในอนาคตผู้ใหญ่ในประเทศไทยเปิดใจและกล้าผลิตผลงานนำเสนอเรื่องราววรรณกรรมสำหรับเยาวชนในมุมมองที่ดาร์คขึ้น สมจริงขึ้น และสอนให้เด็กรู้จักรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ มากขึ้น ผลที่ได้รับจะทำให้เด็กไทยมีวัคซีนต่อต้านปัญหาต่างๆ ในชีวิตได้มากน้อยแค่ไหน ถึงเวลานั้นเราคงจะได้ทราบกัน

ภาพประกอบ: Karin Foxx
Photo: shanghaiist.com

อ้างอิง:

Tags: ,