เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ‘โมฮัมเหม็ด บินซาลมาน’ มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบียไม่ปรากฏตัวในการประชุมระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ถูกตั้งข้อสงสัยว่าอาจจะเกิดจากความไม่พอใจระหว่างกษัตริย์และเจ้าชายซึ่งอาจจะถูกยึดอำนาจทางการเมืองและเศรษฐกิจบางส่วนไป

ตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มกุฎราชกุมารแห่งซาอุฯ ไม่ได้เข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีทั้ง 2 ครั้งหลังสุดที่นำโดยกษัตริย์ซัลมาน พ่อของเขา รวมถึงไม่ได้เข้าร่วมการเจรจาระดับสูงกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงอื่นๆ อาทิ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย นายกรัฐมนตรีเลบานอน ทูตจากอินเดียและจีน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญให้หลายฝ่ายเกิดความสงสัยว่าอาจจะมีปัญหาเกิดขึ้นระหว่างความสัมพันธ์ของกษัตริย์และเจ้าชาย

เมื่อประกอบกับข่าวแพร่หลายที่ว่ากษัตริย์ได้ขอให้เจ้าชายเข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ แต่เจ้าชายไม่ได้มาร่วมด้วย รวมถึงมีรายงานว่าอาจมีการ ‘โยกย้าย’ เพื่อจำกัดความรับผิดชอบของเจ้าชายเกิดขึ้น และมีการแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ โดยไม่มีการเปิดเผยต่อสาธารณชน ทำให้หลายฝ่ายยิ่งทวีความสงสัยในความสัมพันธ์ที่อาจจะมีปัญหา

อย่างไรก็ตาม สถานทูตซาอุดิอาระเบียในกรุงวอชิงตันได้ปฏิเสธที่จะให้ความคิดเห็นหลายต่อหลายครั้ง เช่นเดียวกับที่โฆษกของรัฐบาลซาอุดิอาระเบียในวอชิงตันปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการขาดงานหรือให้ข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่ของเจ้าชาย

โดยเมื่อสัปดาห์ก่อน เดอะการ์เดียนได้เริ่มรายงานถึงร่องรอยของความแตกแยกระหว่างกษัตริย์สูงวัยกับลูกชายของเขา ซึ่งความตึงเครียดดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากเจ้าชายโมฮัมเหม็ดประกาศให้เจ้าหญิง รีมา บินต์ บันดาร์ อัล ซาอุด เสด็จทำหน้าที่ทูตซาอุดิอาระเบียในสหรัฐอเมริกาและปรับเปลี่ยนตำแหน่งในกระทรวงกลาโหมของเจ้าชาย คาลิด บิน ซัลมาน  โดยปราศจากความเห็นชอบจากกษัตริย์ผู้พ่อที่เดินทางออกจากประเทศได้เพียง 2 ชั่วโมง เพื่อไปเยือนอียิปต์อย่างเป็นทางการ และหลังจากนั้นเจ้าชายก็ไม่ได้เดินทางไปต้อนรับพ่อของเขากลับบ้านที่สนามบินตามธรรมเนียมปฏิบัติของซาอุดิอาระเบีย

ในขณะที่โฆษกของสถานทูตซาอุดิอาระเบียในวอชิงตันดีซี เผยว่า “มันเป็นเรื่องธรรมดาที่กษัตริย์ซาอุดิอาระเบียจะออกคำสั่งที่มอบอำนาจในการบริหารกิจการของรัฐให้กับมกุฎราชกุมาร เมื่อใดที่กษัตริย์เดินทางออกนอกประเทศ … ความไม่ลงรอยกันใดๆ ไม่มีมูลความจริงเลย”

ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างกษัตริย์และเจ้าชายอยู่ภายใต้ความสงสัยมากมาย ตั้งแต่เหตุการณ์การฆาตกรรมที่ดังก้องโลก “จามาล คาช็อกกี” นักข่าวชาวซาอุดิอาระเบียที่หายตัวไปอย่างเป็นปริศนา ซึ่งรายงานของซีไอเอสรุปว่ามีความเป็นไปได้ระดับปานกลางถึงระดับสูงที่เจ้าชายโมฮัมเหม็ดจะเป็นผู้สั่งให้สังหารคาช็อกกีที่สถานกงสุลซาอุดิอาระเบียในอิสตันบูล และนานาชาติได้เรียกร้องให้มีการประณามการกระทำดังกล่าว แต่ถึงอย่างนั้นรัฐบาลซาอุดิอาระเบียก็ได้ยืนกรานปฏิเสธข้อกล่าวหานี้อย่างเด็ดขาด

ท่ามกลางผู้เชี่ยวชาญในตะวันออกกลางที่คาดว่าทั้งเหตุการณ์ฆาตกรรมคาช็อกกีและบทบาทของซาอุดิอาระเบียบนความขัดแย้งในเยเมน อาจจะนำไปสู่ความตึงเครียดใจกลางของราชสำนักลับ ซึ่งผู้สังเกตการณ์ส่วนใหญ่คาดว่าเจ้าชายโมฮัมเหม็ดจะเดินเข้าสู่บัลลังก์ โดยมีสัญญาณบางอย่างที่แสดงให้เห็นว่ากษัตริย์พยายามที่จะประคองลูกชายของเขาภายใต้การถกเถียงของสังคม ในระหว่างที่ซาอุดิอาระเบียกำลังเผชิญหน้ากับการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนมากมายจากนานาชาติ

 

ที่มา

https://www.theguardian.com/world/2019/mar/18/saudi-crown-prince-allegedly-stripped-of-some-authority

https://www.thedailybeast.com/saudi-crown-prince-mohammed-bin-salmans-powers-have-been-stripped-report

Tags: