อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี 3 สมัยกล่าวสุนทรพจน์ ในพิธีจบการศึกษา มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประจำปี 2019 เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2019 แมร์เคิลเรียกร้องให้บัณฑิตฮาร์วาร์ดที่เป็นคนยุคใหม่ ‘ทลายกำแพงแห่งความเขลา (ignorance) และจิตใจที่คับแคบ’ ที่หล่อเลี้ยงลัทธิชาตินิยมและการอยู่โดดเดี่ยว รวมทั้งเตือนว่า “ประชาธิปไตยไม่ใช่สิ่งที่เราคิดเองว่ามันมีอยู่แล้ว (take it for granted)”
แมร์เคิลเตือนถึงอันตรายของชาตินิยม และวิจารณ์ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์โดยที่ไม่ได้เอ่ยชื่อเขา เธอบอกว่า “ถ้าเราทำอะไรเพียงลำพัง เราทำอะไรสำเร็จไม่ได้มากนัก” เธอเรียกร้องให้บัณฑิตใหม่ ‘ทลายกำแพง’
นักฟิสิกส์ควอนตัมวัย 64 ปีผู้ที่กลายมาเป็นผู้นำหญิงที่ทรงอิทธิพลคนหนึ่งของโลกในยุคนี้เริ่มจากการเล่าถึงประวัติชีวิตในวัยเด็กของเธอ แมร์เคิลเกิดในเยอรมันตะวันออกและเติบโตผ่านช่วงกำแพงเบอร์ลินพังทลาย ไปจนถึงการรวมชาติเยอรมัน จนเธอได้รับเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี
กำแพงเป็นคำสำคัญที่เธอใช้เล่าเรื่อง แมร์เคิลกล่าวว่า ชีวิตในเยอรมันตะวันออกเป็นการอยู่ภายใต้ระบอบเผด็จการและคิดเอาเองว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงได้ ทุกวันที่เธอเดินทางจากบ้านไปที่ทำงาน เธอคิดว่าเดินทะลุกำแพงคอนกรีตเหล็กที่ตั้งตระหง่านออกไป แต่ก็ ‘หันหลังให้กับเสรีภาพ’ ในนาทีสุดท้าย “กำแพงเบอร์ลินจำกัดโอกาสของฉัน มันตั้งอยู่ตรงทางเดินของฉันเลย อย่างไรก็ตาม มีสิ่งที่กำแพงเบอร์ลินทำไม่ได้ มันไม่สามารถจำกัดความคิดของฉันได้ ตัวตน ความฝันและจินตนาการของฉัน ข้อห้ามต่างๆ ไม่สามารถจำกัดสิ่งเหล่านี้ได้”
เมื่อกำแพงพังลงในปี 1989 แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปทันที ความปรารถนาถึงเสรีภาพแพร่กระจายไปทั่วยุโรป คนหนุ่มสาวออกมาเดินขบวนในหลายประเทศ
“ฉันมีประสบการณ์ตรงว่าไม่มีอะไรที่อยู่ไปตลอด บัณฑิตที่รักประสบการณ์นี้เป็นสิ่งแรกที่ฉันอยากจะบอก ทุกอย่างที่ดูเหมือนจะถูกทำให้กลายเป็นหิน หรือเปลี่ยนไม่ได้ จริงๆ แล้วเปลี่ยนได้ ทุกการเปลี่ยนแปลงเริ่มต้นได้จากความคิด”
บัณฑิตต่างพากันปรบมือ โห่ร้องตอนที่แมร์เคิลพูดถึงการเมืองในยุคทรัมป์ เธอบอกกับบัณฑิตว่า ลัทธิคุ้มครองทางการค้าและความขัดแย้งทางการค้าเป็นอันตรายต่อการค้าเสรีของนานาชาติ “สงครามและลัทธิก่อการร้ายก่อให้เกิดการไร้ถิ่นฐานและทำให้มีผู้อพยพที่ไร้ทางเลือก การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศเป็นภัยคุกคามต่อทรัพยากรของโลก “เราทำได้ และต้องทำทุกอย่างเท่าที่มนุษย์ทำได้เพื่อจัดการกับความท้าทายที่มนุษย์เผชิญ
ผู้ฟังลุกขึ้นพร้อมกับเสียงปรบมือดังยาวนานมากๆ ตอนที่เธอบอกว่า “เราต้องซื่อสัตย์ต่อตัวเองและผู้อื่น นั่นหมายความว่า ไม่บอกว่าการโกหกเป็นความจริง และไม่ให้ความจริงโกหก”
แมร์เคิลยังได้กล่าวถึงความรับผิดชอบทางประวัติศาสตร์ของเยอรมนี โดยมีการให้อภัยเป็นแก่นความคิดหลัก โดยยังกล่าวว่า “ความสัมพันธ์ระหว่างเยอรมนีและสหรัฐอเมริกาก็แสดงให้เห็นแล้วว่า ศัตรูก็กลายมาเป็นมิตรได้”
“คนรุ่นใหม่ที่รัก พวกคุณมีโอกาสทำสิ่งเหล่านี้มากกว่าคนรุ่นฉัน สมาร์ตโฟนของพวกคุณมีระบบประมวลผลที่ดีกว่าคอมพิวเตอร์ IBM ปลอมซึ่งผลิตในสหภาพโซเวียตของฉัน ตอนที่ฉันใช้ทำวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกปี 1986 ที่เยอรมันตะวันออก” เธอบอกว่า ขึ้นอยู่กับพวกคุณแล้วว่าจะใช้โอกาสนี้อย่างไรเพื่อเปลี่ยนแปลง
“ฉันคิดว่าเราต้องเตรียมพร้อมต่อการสิ้นสุดของสิ่งต่างๆ เพื่อให้รู้สึกถึงความมหัศจรรย์ของการเริ่มต้นใหม่ และเพื่อให้มีโอกาสที่ดี เป็นประสบการณ์จากการเป็นนักเรียนและนักการเมืองของฉัน” แมร์เคิลทิ้งท้ายว่า
“พังกำแพงแห่งความเขลาและจิตใจที่คับแคบที่มีให้กับสิ่งที่ไม่ได้อยู่เช่นนั้นตลอดไป”
มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดมอบดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขานิติศาสตร์ให้นายกรัฐมนตรีเยอรมัน ผู้ที่ตัดสินใจวางมือในปี 2021 แมร์เคิลกล่าวสุนทรพจน์ด้วยภาษาเยอรมัน และมีผู้แปลทันที ในระหว่างที่เธอพูด แมร์เคิลต้องหยุดหลายครั้ง เพื่อรอให้เสียงปรบมือที่ดังกึกก้องที่มีเป็นระยะจบลง ผู้ฟังยังยืนปรบมือยาวนานหลังจากเธอกล่าวจบ
ที่มา:
https://www.youtube.com/watch?v=9ofED6BInFs
https://www.nytimes.com/2019/05/30/world/europe/merkel-harvard-speech.html
https://www.dw.com/en/angela-merkel-tells-harvard-grads-to-tear-down-walls/a-48981123
ภาพ: REUTERS/Brian Snyder
Tags: เยอรมนี, สุนทรพจน์, การศึกษา, อังเกลา แมร์เคิล, ฮาร์เวิร์ด