นี่คือหนังสือวรรณกรรมเยาวชน (Young Adult) ที่จะมอบความกล้าให้แก่วัยรุ่น ผู้กำลังสับสนในการค้นหาอัตลักษณ์ทางเพศ รวมไปถึงปลอบประโลมเควียร์ที่กำลังรู้สึกโดดเดี่ยวหรือแปลกแยกทางสังคม เพราะแม้สังคมส่วนใหญ่ยอมรับ แต่บางพื้นที่ก็ยังคงต่อต้าน จนนำไปสู่การเหยียดเพศ โดยเฉพาะสถานที่ทางศาสนาที่เคร่งครัด แถมมีผู้คนหลากหลายชาติพันธุ์รวมตัวกันอยู่ จึงเป็นเรื่องยากสำหรับการสำรวจอัตลักษณ์ทางเพศของตัวเอง และเป็นเรื่องยากต่อการแสดงออกรสนิยมทางเพศ

คู่มือลับฉบับเลสเบี้ยนในโรงเรียนคาทอลิกเล่าถึงชีวิตปกติธรรมดาของ ‘ยามีเล็ต’ เลสเบี้ยนชาวเม็กซิกันที่จับพลัดจับผลูเข้ามาโรงเรียนคาทอลิก ซึ่งรายล้อมไปด้วยลูกเศรษฐีผิวขาว และต้องเผชิญหน้าทั้งการเหยียดเชื้อชาติ ศาสนา และเพศสภาพ จนยากที่จะเป็นตัวเองในสภาพแวดล้อมที่ทุกคนล้วนจับตามองเพื่อต่อต้าน ยังไม่รวมถึงความคาดหวังของครอบครัวในฐานะพี่สาวคนโต ที่ต้องรับหน้าที่เป็นตัวอย่างที่ดีของน้องชาย เป็นผู้นำแทนพ่อที่ถูกเนรเทศ และพยายามเป็นลูกสาวหญิงแท้เพื่อให้แม่ภาคภูมิใจ 

1

บทบาทการเป็นพี่สาวคนโตในฐานะเลสเบี้ยน

ยามีเล็ตพยายามอ่านหนังสือ วางตัวในฐานะลูกที่อยู่ในกรอบระเบียบ และดิ้นรนหางานเพื่อเก็บเงินไว้เช่าอะพาร์ตเมนต์ เพราะกลัวแม่จะไล่ออกจากบ้านเมื่อรู้ว่าเป็นเลสเบี้ยน เนื่องจากเป็นครอบครัวคาทอลิกที่มีแม่รับหน้าที่เลี้ยงดูครอบครัวเพียงคนเดียว แม่จึงอุทิศแรงกายแรงใจมุ่งหาเงินอย่างเต็มเวลา แม้แลกมาด้วยค่าแรงที่น้อยจนต้องหางานพิเศษทำ

หน้าที่การดูแลน้องชายจึงตกเป็นของเธอไปโดยปริยาย บ่อยครั้งแม่ให้ความสำคัญกับน้องชายก่อนเสมอ ทุกการพูดคุยวนเวียนอยู่กับเรื่องของน้องชาย ยามีเล็ตไม่มีโอกาสพูดเรื่องของตัวเอง ทั้งเรื่องในชีวิตประจำวัน และเรื่องที่เธออยากบอกแม่ใจแทบขาดว่า เธอเป็นเลสเบี้ยน 

แต่ชุดสะสมไม้กางเขนกับแกลเลอรีภาพพระเยซูบนผนังของแม่ เป็นความเงียบที่ไม่ต้องเอ่ยปากก็รับรู้ว่า แม่จะรู้สึกอย่างไร

“พระเยซูทรงเห็นทุกอย่าง”

เสียงบ่นของแม่เข้ามาในหัวทุกครั้งที่ยามีเล็ตจ้องมองพระเยซู แต่เห็นชัดว่าพระเยซูเพียงองค์เดียวไม่ศักดิ์สิทธิ์พอที่จะขู่ให้กลัวจนกลับมาเป็นหญิงแท้ได้ ถึงอย่างไรเธอก็อยากแสดงออกถึงความเป็นเลสเบี้ยนและโหยหาการยอมรับโดยไร้เงื่อนไข

การเปิดตัวเรื่องเพศสภาพกับครอบครัว เป็นด่านสำคัญที่จะสร้างเจตคติทางเพศแก่วัยรุ่น หากครอบครัวออกอาการเกลียดหรือกลัวผู้มีความหลากหลายทางเพศ ก็มีส่วนที่ทำให้ลูกรู้สึกสูญเสียคุณค่าและความเชื่อมั่นในตัวเอง จนนำไปสู่การเกิดภาวะซึมเศร้า หรืออาจเลวร้ายจนถึงขั้นคิดฆ่าตัวตาย

ยามีเล็ตภาคภูมิใจกับการเป็นเลสเบี้ยน แต่กรอบครอบครัวคาทอลิกและสภาพแวดล้อมในโรงเรียนคาทอลิก ทำให้เธอรู้สึกแปลกประหลาดที่จะเป็นตัวเอง รวมถึงการรับบทบาทหน้าที่ผู้นำแทนพ่อก็มีส่วนสร้างความกดดันสูง เสมือนแม่คาดหวังให้ลูกสาวคนโตเข้มแข็งเกินกว่าจะเป็นวัยรุ่นที่มีสิทธิลองผิดลองถูก บางครั้งเธออดเปรียบเทียบตัวเองกับน้องชายไม่ได้ สุดท้ายจึงพยายามอดกลั้นความเป็นเลสเบี้ยนเพื่อความคาดหวังของครอบครัว จนละเลยความสุขของตัวเอง

2

การบังคับเปิดเผยตัวตนของเควียร์

หลังจากยามีเล็ตสารภาพรักกับเพื่อนสนิทถึงความรู้สึกดีๆ ที่เริ่มก่อตัวระหว่างทั้งคู่ เธอคาดหวังว่า เพื่อนจะเปิดใจยอมรับการเป็นเลสเบี้ยนของเธอ อาจมีโอกาสพัฒนาความสัมพันธ์ต่อ หรือกลับไปเป็นเพื่อนสนิทเหมือนเดิม แต่ความจริงไม่สวยหรูเหมือนอย่างที่คิด เมื่อเพื่อนสนิทเป็นโฮโมโฟเบีย (Homophobia) เธอปฏิบัติกับยามีเล็ตจากหน้ามือเป็นหลังมือ รวมทั้งยังนำ ‘เรื่องที่เธอเป็นเลสเบี้ยน’ ไปเล่าต่อในกลุ่มเพื่อนสนิทจนแพร่กระจายไปทั่วโรงเรียน นับว่าโชคยังเข้าข้างที่ยามีเล็ตมีโอกาสแก้ตัวที่โรงเรียนใหม่ เธอจึงตั้งกฎพื้นฐาน 2 ข้อ เพื่อให้ตัวเองอยู่รอดในสภาพแวดล้อมใหม่ คือหาเพื่อนใหม่ให้ดีที่สุด และจงเป็นหญิงแท้ รวมทั้งคอยดูแลน้องชายไม่ให้ก่อเรื่อง 

ประเด็นคือการเปิดเผยเรื่องเพศสภาพ ไม่ใช่เรื่องของความกดดันให้อีกฝ่ายออกมาพูด หรือลดทอนคุณค่า โดยการนำไปเล่าเป็นเรื่องตลก ควรรอให้บุคคลที่นิยามอัตลักษณ์ของตนเอง หรือผู้ที่กำลังค้นหาอัตลักษณ์ทางเพศเป็นฝ่ายพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ มีสิทธิในการเลือกสถานที่และเวลาในการเปิดเผยเรื่องราวของตนเอง สิ่งหนึ่งที่คนนอกสามารถทำได้คือการสร้างพื้นที่ปลอดภัย รับฟังโดยไร้เงื่อนไข และโอบรับทุกความหลากหลาย อย่าปล่อยให้เควียร์ต้องเผชิญหน้าอยู่เพียงลำพัง 

มีอีกหลายกรณีที่เควียร์ถูกสถานการณ์บีบบังคับ ให้ออกมาเปิดตัวเรื่องเพศสภาพในขณะที่ไม่มีความพร้อม เช่น กรณีของ คิต คอนเนอร์ (Kit Connor) นักแสดงจากซีรีส์ Heartstopper ที่ถูกกดดันให้เปิดตัว ซึ่งมีสาเหตุมาจากบุคคลที่ไม่มีความเข้าใจเรื่องเพศสภาพ น่าเสียดายที่ซีรีส์ Heartstopper ก็ไม่สามารถสร้างความตระหนักรู้ให้แก่ผู้ชมบางส่วนได้ 

นอกจากการเปิดตัวต้องรอให้พร้อมในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมแล้ว การเปิดตัวไม่ใช่เพียงแค่พูดครั้งเดียวแล้วจบ บางครั้งเควียร์ก็ถูกบังคับทางอ้อมให้เปิดตัวบ่อยๆ เพราะไม่ได้อยู่ในกรอบเดียวกับสังคม เช่น รสนิยมทางเพศหรือการแสดงออกทางเพศที่ไม่ตรงกับเพศสภาพของตัวเอง นำมาสู่การตั้งคำถามจากอีกฝ่าย จนท้ายที่สุดก็ไม่ต่างจากการบีบคั้นให้เปิดตัวอยู่ดี

ยกตัวอย่างจากสถานการณ์ของโบ อีกหนึ่งตัวละครหลักของเรื่องที่ต้องแสดงออกหลายรอบว่า ตัวเองเป็นเลสเบี้ยนเลือดแท้ 100% ถึงแม้จะมีเข็มกลัดสนับสนุนไพรด์และใส่รองเท้าแวนสีรุ้ง แต่ทุกคนก็อยากได้ยินจากปากของโบว่า เธอเป็นเลสเบี้ยนจริงหรือไม่ หรืออีกหนึ่งตัวละครหลักที่ไม่สามารถระบุชื่อเพราะจะเป็นการสปอยล์เนื้อหา การที่ตัวละครนั้นเป็นไบเซ็กชวลที่สามารถคบทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่เมื่อเลิกคบกับผู้หญิงแล้วมีรักครั้งใหม่กับผู้ชาย หรือเลิกคบกับผู้ชายแล้วกลับไปรักผู้หญิงอีกครั้ง จะเกิดการตั้งคำถามว่า เป็นไบเซ็กชวลจริงหรือไม่ 

เพราะเรื่องเพศสภาพเป็นเรื่องที่ผิดจากกรอบเพศชายหญิงของสังคม เมื่อพบจุดที่เป็นข้อแตกต่างจึงเกิดการตั้งคำถามที่หากไม่เฝ้าระวังคำพูด ก็อาจเสมือนการบีบบังคับให้เควียร์ต้องเปิดตัวอีกรอบ อีกรอบ และอีกรอบ ขณะที่เควียร์บางส่วนยังไม่พร้อมเปิดตัวอาจรู้สึกอึดอัดในสถานการณ์แบบนี้ ดังนั้น หากพบเจอสิ่งใหม่ที่อยู่นอกเหนือจากการรับรู้ทางสังคม สิ่งที่ควรปฏิบัติเบื้องต้น คือการปรับมุมมองความเข้าใจ มองความลื่นไหลทางเพศเป็นเรื่องปกติ อย่าซักไซ้จนทำให้ฝ่ายตรงข้ามรู้สึกอึดอัด หลักการง่ายๆ ที่แสดงความเท่าเทียมในฐานะมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง

3

วิธีรับมือแบบหญิงแท้

มันยากที่จะเสแสร้งเป็นหญิงแท้โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในห้องเรียนที่มีโบ เลสเบี้ยนที่แสดงออกอย่างเปิดเผยในโรงเรียนคาทอลิก โบทั้งเรียนเก่ง ฉลาด มีพรสวรรค์ และกล้าแสดงความคิดเห็นของตัวเอง เป็นเลสเบี้ยนที่ยืนหยัดสู้เพื่อสิทธิของเพศหลากหลายต่อกฎคร่ำครึ แตกต่างจากยามีเล็ต นั่นจึงทำให้เธอมีความรู้สึกยุบยิบขึ้นมาในใจ อยากประกาศให้โลกรู้ว่า ตัวเองเป็นเลสเบี้ยนเหมือนที่โบทำ และหัวใจที่เรียกร้องให้ทำอะไรอย่างไม่ยั้งคิด

แต่ยามีเล็ตก็มีอดีตอันเลวร้ายเป็นบทเรียนของชีวิต คือการบอกชอบเพื่อนสนิทจนทำให้ชีวิตพังลงไป ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเธอจะไม่มีทางยอมให้เกิดความผิดพลาดซ้ำรอยเดิม เพราะถ้าข่าวลือหลุดไปถึงหูแม่ผู้เคร่งครัดว่าเธอเป็นเลสเบี้ยน คงไม่ได้แค่ถูกกักบริเวณเท่านั้น แต่อาจถึงขั้นตัดแม่ตัดลูกก็มีโอกาสเป็นไปได้ ยามีเล็ตจึงคิดหาหนทางตลอดเวลาว่า ในสถานการณ์แบบนี้หญิงแท้จะทำตัวอย่างไร 

วรรณกรรมเยาวชนส่วนใหญ่จะมีมิตรภาพและความรักเป็นส่วนประกอบสำคัญเพื่อช่วยให้เห็นพัฒนาการของตัวละคร เรื่องนี้ก็เช่นเดียวกัน แต่ความยากคือยามีเล็ตปฏิเสธการเป็นเลสเบี้ยนตั้งแต่เริ่มต้น ทั้งยังพยายามทำตัวเป็นหญิงแท้สุดทาง เรื่องราวจึงไม่ง่ายเป็นเส้นตรง โดยเฉพาะยิ่งเมื่อเธอมีแฟนผู้ชายหลอกๆ ที่เปิดตัวกับแม่เรียบร้อย 

เพศสภาพเป็นเรื่องลื่นไหลแต่ไม่ได้หมายความว่า การที่เลสเบี้ยนอยู่ใกล้ชิดกับผู้ชาย จะสามารถเปลี่ยนเป็นหญิงแท้ได้ทันที เรื่องเพศซับซ้อนและละเอียดอ่อนเสมอ โดยเฉพาะกับคนที่สังเกตและนิยามตัวเองอย่างชัดเจน ในกรณีนี้กล่าวถึงยามีเล็ตที่พยายามทำตัวเป็นหญิงแท้ เพื่ออยากกลับเป็นส่วนหนึ่งของสังคม อยากถูกมองเป็นปกติเหมือนผู้หญิงคนอื่น แต่การพยายามทำตัวแบบหญิงแท้ คิดแบบหญิงแท้ ทำให้เธอไม่สามารถสนิทใจกับใครจริงๆ เหมือนทุกคนรักที่เธอเป็นหญิงแท้ แต่บางครั้งยามีเล็ตก็สับสนที่ต้องเลือกระหว่างเฉือนตัวตนของตัวเองไปเรื่อยๆ พยายามเป็นคนอื่นในแบบที่สังคมรัก กับแสดงความเป็นเลสเบี้ยนอย่างเต็มที่ แม้ลึกๆ เธอจะรู้ว่า สุดท้ายทุกคนจะหนีจากเธอไปเสมอเมื่อพวกเขารู้ความจริง แต่การเปิดตัวล่าสุดกับเพื่อนสนิทที่ไว้ใจที่สุดไม่ได้สวยงามเหมือนอย่างที่คิด เธอเลยจำต้องทนฝืนตัวตนในฐานะหญิงแท้ต่อไป

ขณะเดียวกันในความเป็นจริงก็ยังคงมีเควียร์หลายคน ที่สวมบทบาทเป็นสเตรทเพื่อหน้าที่การงาน ครอบครัว หรือเพื่อความอยู่รอดในสังคม จนนำไปสู่คำถามถึงความเท่าเทียมทางเพศว่ามีอยู่จริงหรือไม่ เพราะการที่เควียร์จะสามารถเปิดตัวก็ต้องแลกมาด้วยการพิสูจน์ตัวเอง ถึงความเหมาะสมในการเป็นเควียร์ภายใต้เงื่อนไขต่างๆ เช่น เรียนเก่ง กตัญญู หรือหน้าที่การงานมั่นคง ราวกับสังคมโยนบททดสอบอีกมากมายเมื่อผิดจากกรอบทางเพศ

หนังสือเล่มนี้จึงเป็นมากกว่าเรื่องราวความรักและการต่อสู้ของเลสเบี้ยนเม็กซิกัน แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งในการมอบความกล้าหาญให้แก่เควียร์ที่กำลังค้นหาตัวเอง รวมถึงมีส่วนสนับสนุนการค้นหาความหมายของเพศสภาพในแบบที่ตัวเองรู้สึกสบายใจ และการสร้างความเข้าใจเรื่องพื้นที่ระหว่างเควียร์กับคนรัก ถึงแม้ระหว่างทางจะเต็มไปด้วยช่วงเวลามืดมน แต่ก็จบลงด้วยความสุขและความหวัง ราวกับเป็นหลุมหลบภัยที่จะปกป้องเควียร์วัยรุ่นจากโลกที่ไม่พร้อมเผชิญหน้า เฝ้ารอเวลาที่เหมาะสมในการเปิดตัวตามฉบับของตัวเอง เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็ง และพร้อมเป็นส่วนหนึ่งของสังคมต่อไป

Fact Box

  • คู่มือลับฉบับเลสเบี้ยนในโรงเรียนคาทอลิก เขียนโดย โซโนรา เรเยส, ตีพิมพ์เป็นภาษาไทยโดยสำนักพิมพ์ lily house., จำนวน 321 หน้า, ราคา 390 บาท
  • หนังสือเล่มนี้ตีพิมพ์มาแล้วใน 8 ประเทศ และได้รับรางวัลหนังสือแห่งปีจากหลายสำนัก เช่น Goodreads Choice Award Nominee for Best Young Adult Fiction (2022)
Tags: