ราคาหุ้นของบริษัทอีสต์แมนโกดักเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวเมื่อวันอังคาร หลังจากบริษัทฯ ประกาศเข้าร่วมวงการสกุลเงินดิจิทัล (คริปโตเคอร์เรนซี – cryptocurrency) เป็นรายล่าสุด

โกดักแถลงว่าจะออกสกุลเงินดิจิทัลที่ชื่อ ‘KODAKCoin’ สำหรับให้บรรดาช่างภาพไว้ใช้ในแพล็ตฟอร์มจัดการลิขสิทธิ์ภาพถ่าย ‘KODAKOne’ ซึ่งเป็นการร่วมมือทางธุรกิจกับ WENN Digital บริการจัดหาภาพถ่ายสำหรับสื่อและเว็บไซต์ต่างๆ

แพล็ตฟอร์มนี้ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน เทคโนโลยีซึ่งเป็นกระดูกสันหลังของบิตคอยน์ อีกสกุลเงินดิจิทัลสุดฮิตที่ช่วงนี้ราคาแรงจนหลายฝ่ายกังวลว่าจะนำไปสู่วิกฤตฟองสบู่

สำนักงานใหญ่อีสต์แมนโกดักในนิวยอร์ก REUTERS/Adam Fenster

สำนักงานใหญ่อีสต์แมนโกดักในนิวยอร์ก REUTERS/Adam Fenster

ส่วนบริษัทอื่นอีกหลายบริษัทที่ประกาศปรับเปลี่ยนตัวเองเข้าสู่ธุรกิจสกุลเงินดิจิทัลก่อนหน้านี้ ก็ได้รับผลให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้นเช่นเดียวกัน แม้จะขัดสายตานักลงทุนบางกลุ่มว่ามันดูไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย เช่นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพที่เปลี่ยนชื่อบริษัทให้มีคำว่าบล็อกเชน และประกาศว่าจะทำธุรกิจที่พุ่งเป้าไปที่บิตคอยน์เป็นหลัก กระทั่งบริษัทผลิตเครื่องดื่มชาเย็น Long Island Iced Tea ก็เปลี่ยนชื่อมาเป็น Long Blockchain Corp. และได้รับผลตอบรับที่ดีในตลาดหุ้น

ไม่เพียงแค่บริษัทใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทสตาร์ตอัปหลายแห่งก็เริ่มหันไปซบสกุลเงินดิจิทัล เพื่อเป็นหนทางแก้ปัญหาเงินขาดมือ ด้วยการออกสกุลเงินไว้ใช้ในแพล็ตฟอร์มของตัวเอง ระดมทุนจากนักลงทุนรายย่อยเข้ามาเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้ธุรกิจได้ไปต่อ แม้ว่าบางสกุลเงินที่ว่านั้นจะยังไม่มีมูลค่าใดๆ เลยก็ตาม

ด้านนักลงทุนในหลักทรัพย์สกุลเงินดิจิทัลได้ออกมาแนะนำบริษัทเหล่านี้ว่า ให้ใช้สกุลเงินดิจิทัลเหล่านี้ดึงดูดเงินลงทุนจาก venture capital ด้วย “เพราะมันเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่ามีนักลงทุนระยะยาวคอยประคองบริษัทเอาไว้ ไม่ใช่แค่นักลงทุนที่หวังจะซื้อมาขายไปอย่างเดียว”

ที่มา:
https://in.reuters.com/article/eastman-kodak-stocks/eastman-kodak-unveils-cryptocurrency-stock-soars-idINKBN1EY2AH
https://www.wired.com/story/is-your-startup-stalled-pivot-to-blockchain
https://www.kodak.com/US/en/kodakone/default.htm?cid=go&idhbx=kodakone