ผู้หญิงญี่ปุ่นต้องสวมรองเท้าส้นสูงไปทำงาน เหมือนกับเป็นเครื่องแบบอย่างหนึ่งไปแล้ว เมื่อต้นปี ยูมิ อิชิกาวะ นักแสดงและนักเขียนฟรีแลนซ์ ทวีตข้อความตั้งข้อสังเกตถึงนโยบายนี้ของนายจ้างว่าทำให้ผู้หญิงต้องทนกับอาการปวดหลัง
นอกจากนี้เธอยังทวีตข้อความแสดงความไม่พอใจกับการบังคับให้ผู้หญิงที่ทำงานโรงแรมต้องใส่รองเท้าส้นสูง ข้อความของเธอกลายเป็นไวรัล จนเธอริเริ่มแคมเปญรณรงค์ยกเลิกกฎที่บังคับให้ผู้หญิงต้องใส่รองเท้าส้นสูง โดยมีขบวนการเคลื่อนไหว #Metoo เป็นแรงบันดาลใจ เพราะรู้สึกว่าผู้หญิงต่างประสบปัญหาแบบเดียวกัน
แคมเปญนี้ใช้ชื่อว่า #KuToo เป็นการเล่นคำในภาษาญี่ปุ่นคือ kutsu ที่แปลว่ารองเท้า และ kutsuu ที่แปลว่าเจ็บปวด มีผู้ลงชื่อแล้ว 18,856 คน แคมเปญนี้ยังจุดประกายให้ผู้หญิงหลายคนโพสต์รูปแผลจากรองเท้ากัด หรือประสบการณ์ความเจ็บปวดจากการใส่รองเท้าส้นสูงของตัวเอง
ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่บัณฑิตจบใหม่กำลังเริ่มหางานในบริษัทต่างๆ พอดี อิชิกาวะได้ยื่นคำร้องต่อกระทรวงแรงงานได้ยื่นจดหมายร้องเรียนเพื่อเรียกร้องให้มีกฎหมายห้ามไม่ให้นายจ้างบังคับให้ผู้หญิงใส่รองเท้าส้นสูง เพราะว่าเป็นการเลือกปฏิบัติทางเพศหรือละเมิดสิทธิ
อิชิกาวะให้สัมภาษณ์ว่า เจ้าหน้าที่ของกระทรวงบอกกับเธอว่า เห็นใจกับข้อเสนอของเธอในฐานะที่เป็นผู้หญิงเหมือนกัน และบอกว่านี่เป็นครั้งแรกที่มีการพูดถึงเรื่องนี้เข้ามาที่กระทรวง อย่างไรก็ตาม กระทรวงยังไม่แสดงความเห็นใดๆ ต่อเรื่องนี้
อิชิกาวะมองว่านี่เป็นความก้าวหน้าอีกขั้นหนึ่ง “นี่เป็นปัญหาที่ผู้หญิงหลายคนเชื่อว่าเป็นเรื่องส่วนตัว เพราะว่าโดยทั่วไปแล้วการสวมรองเท้าส้นสูงถูกมองว่าเป็นมารยาทที่ดี” เธอกล่าวระหว่างการแถลงข่าว
เธอยังบอกด้วยว่า สังคมควรจะเปลี่ยนค่านิยมใหม่ ให้ผู้หญิงที่สวมรองเท้าส้นเตี้ยแบบสุภาพกลายเป็นมาตรฐาน
สำหรับเธอการบังคับให้สวมรองเท้าส้นสูงก็เหมือนกับการมัดเท้าผู้หญิงยุคใหม่ ขณะเดียวกันก็มีหลายคนเรียกร้องให้ผ่อนปรนการบังคับให้ผู้ชายญี่ปุ่นต้องสวมสูทไปทำงานด้วยเช่นกัน
ที่มา:
http://time.com/5548873/japan-kutoo-high-heels-metoo/
Tags: ญี่ปุ่น, #KuToo