การเข้าสู่สังคมสูงวัยแถมยังมีอัตราคนเกิดใหม่น้อยอย่างที่ประเทศญี่ปุ่น ทำให้รัฐบาลต้องคิดหนักเรื่องปัญหาขาดแคลนแรงงาน ล่าสุด เมื่อตีสี่ของเช้าวันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม 2018 รัฐสภาญี่ปุ่นเพิ่งผ่านกฎหมายการตรวจคนเข้าเมืองฉบับใหม่ ซึ่งจะสร้างความเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านแรงงานครั้งสำคัญของประเทศ

การประชุมรัฐสภาเมื่อวันศุกร์ที่ 7 ธ.ค. ต่อเนื่องมาจนถึงเช้าวันเสาร์ เพื่อพิจารณากฎหมายควบคุมคนเข้าเมืองฉบับใหม่ที่เสนอโดยพรรคเสรีนิยมและพรรคโคเม และได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกพรรคฝ่ายค้านจำนวนหนึ่ง สมาชิกรัฐสภาลงมติผ่านกฎหมายนี้ด้วยคะแนน 161 ต่อ 76 ท่ามกลางการคัดค้านของพรรคฝ่ายค้าน

กฎหมายนี้ออกแบบมาเพื่อดึงดูดแรงงานกึ่งฝีมือ (semiskilled workers) จากต่างชาติให้เข้ามาทำงานในอุตสาหกรรมที่ขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก เช่น งานก่อสร้าง ธุรกิจโรงแรม งานทำความสะอาดและการดูแลคนชรา โดยจะมีผลบังคับใช้ในเดือนเมษายน 2019 โดยรัฐบาลญี่ปุ่นจะให้วีซ่า 2 ประเภทคือ วีซ่า 5 ปีสำหรับชาวต่างชาติในโครงการฝึกงานที่สำเร็จการศึกษาหรือมีทักษะตามที่ต้องการและใช้ภาษาญี่ปุ่นได้ วีซ่าประเภทนี้ไม่อนุญาตให้พาครอบครัวมาอยู่ด้วย โดยจะรับแรงงาน 345,150 คน ใน 14 ธุรกิจที่ขาดแคลนแรงงาน

วีซ่าอีกประเภทหนึ่ง เป็นวีซ่า 1-3 ปีสำหรับแรงงานที่มีทักษะสูงกว่า และสามารถต่ออายุได้ไม่จำกัดหากมีการจ้างงานระยะยาว และพาครอบครัวมาได้

การเป็นสังคมผู้สูงอายุและมีอัตราการเกิดลดลงหลายสิบปี เป็นแรงกดดันให้รัฐบาลญี่ปุ่นพยายามแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานหลายวิธี เช่น การส่งเสริมให้มีการจ้างผู้หญิงและผู้สูงอายุ รวมทั้งใช้หุ่นยนต์ให้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังต้องการแรงงานต่างชาติเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ดี พรรคประชาธิปไตยรัฐธรรมนูญและพรรคฝ่ายค้านอื่นๆ พยายามยับยั้งการผ่านร่างกฎหมาย เรียกร้องหลายครั้งให้มีการอภิปรายปัญหาจากโครงการฝึกงาน และระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมาธิการได้ชี้ว่า มีแรงงานต่างชาติฆ่าตัวตายหรือเสียชีวิตในที่ทำงาน 69 คนระหว่างปี 2015-2017

อาเบะยืนยันว่าโครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานและไม่เหมือนกับการรับผู้อพยพ รัฐบาลจะจัดทำแนวนโยบายเบื้องต้นภายในเดือนธันวาคม และรัฐบาลสามารถยุติโครงการได้ทันทีที่ไม่มีปัญหาการขาดแคลนแรงงานแล้ว จะมีการกำหนดจำนวนตัวเลขการจ้างงานในแต่ละอุตสาหกรรม จะยกเลิกการออกวีซ่าได้หากว่ามีแรงงานมาเร็วเกินไป รัฐมนตรีที่รับผิดชอบในแต่ละอุตสาหกรรมจะขอให้รัฐมนตรียุติธรรมตัดสินใจ

คาดว่าคนส่วนใหญ่ที่จะได้รับวีซ่าใหม่อยู่ที่ญี่ปุ่นอยู่แล้วภายใต้โครงการฝึกงาน ซึ่งจ่ายค่าแรงถูก มีรายงานมากมายเกี่ยวกับค่าจ้างที่ต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำตามที่กฎหมายกำหนด ผิดกฎหมายและการล่วงละเมิดในที่ทำงาน

งานส่วนใหญ่ในโครงการนี้มีค่าแรงต่ำ แรงงานทักษะต่ำในโรงงานที่โตเกียวได้เงินเดือนประมาณ 2,406 เหรียญสหรัฐ ขณะที่ฮ่องกงอยู่ที่ 1,992 เหรียญสหรัฐ และสิงคโปร์อยู่ที่ 1,630 เหรียญสหรัฐ

นอกจากนี้ ยังมีความท้าทายหลายด้านที่รออยู่ ปัญหาใหญ่ที่สุดสำหรับรัฐบาลคือเรื่องกำแพงภาษา รัฐบาลท้องถิ่นต้องมีภาระที่เพิ่มขึ้นจากการสอนภาษาญี่ปุ่นและงานธุรการ ญี่ปุ่นยังต้องทำระบบทดสอบเพื่อกรองใบสมัครจากวีซ่าประเภททักษะสูงด้วย อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญยังเตือนว่าแรงงานส่วนใหญ่จะหางานในโตเกียวและเมืองใหญ่ๆ มากกว่าในชนบทซึ่งแรงงานขาดแคลนที่สุด

 

ที่มา:

Tags: , , , ,