กระทรวงดิจิทัลของสหราชอาณาจักรประกาศเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่า ตั้งแต่สิ้นปีนี้เป็นต้นไป ผู้ให้บริการโทรคมนาคมต้องไม่ซื้ออุปกรณ์ติดตั้งเครือข่าย 5G ใดๆ จากหัวเว่ย โดยอุปกรณ์ทั้งหมดของหัวเว่ยที่มีอยู่แล้วจะต้องถูกถอดออกภายในปี 2027

การแบนหัวเว่ยจะทำให้สหราชอาณาจักรได้ใช้สัญญาณ 5G ล่าช้าไปประมาณ 2-3 ปี และสร้างภาระต้นทุนให้กับผู้ให้บริการในประเทศราว 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โอลิเวอร์ ดาวเดน รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลกล่าวว่า นี่เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก แต่ก็ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องต่อเครือข่ายโทรคมนาคมของประเทศ ต่อความมั่นคงของชาติ และต่อเศรษฐกิจของเราทั้งตอนนี้และในระยะยาว เขาอ้างอิงรายงานที่ได้จากศูนย์ความมั่นคงด้านไซเบอร์ของ GCHQ หน่วยงานความมั่นคงของสหราชอาณาจักร

หลิว เซียวหมิง เอกอัครราชทูตจีนแสดงความคิดเห็นตอบโต้การแบนหัวเว่ยทันทีโดยกล่าวว่าผิดหวัง ระบุว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด และตั้งคำถามว่า สหราชอาณาจักรได้สร้างสิ่งแวดล้อมที่เป็นธรรมต่อการทำธุรกิจของบริษัทต่างชาติโดยไม่เลือกปฏิบัติหรือไม่ ขณะที่แอนดี เพอร์ดี ผู้บริหารด้านความปลอดภัยของหัวเว่ย ประจำสำนักงานสหรัฐอเมริกากล่าวว่า นี่เป็นข่าวร้ายของหัวเว่ย แต่สหราชอาณาจักรจะต้องเป็นทุกข์มากกว่าจากผลกระทบทางลบที่จะเกิดขึ้น ทั้งทางการเงินและต่อการบริการอย่างเท่าเทียมกันระหว่างพื้นที่ชนบทและในเมือง

โฆษกของวอดาโฟน กรุ๊ป ซึ่งใช้เสาสัญญาณ 4G ของหัวเว่ยทั่งสหราชอาณาจักรกล่าวว่า บริษัทผิดหวังกับการตัดสินใจของรัฐบาล และแผนการขยายสัญญาณ 5G จะล่าช้าไปอีก

ข่าวนี้ทำให้ผู้ให้บริการอุปกรณ์เครือข่าย ซึ่งเป็นคู่แข่งของหัวเว่ยอย่างอิริคสันและโนเกียออกมาแสดงความพร้อมที่จะแทนที่ทันทีและย้ำกว่ามีประสบการณ์ในการสร้างเครือข่าย 5G  ซีอีโอของโนเกียในสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์แถลงว่า โนเกียมีความพร้อมและมีความเชี่ยวชาญสำหรับการแทนที่อุปกรณ์ของหัวเว่ยทั้งหมดในสหราชอาณาจักรทั้งในแง่ขนาดและความเร็ว ส่วนอิริคสันประกาศว่า พร้อมที่จะทำงานกับผู้ให้บริการในสหราชอาณาจักรเพื่อให้บรรลุตามเวลาที่ต้องการ และไม่กระทบต่อผู้ใช้บริการ

หัวเว่ยเรียกร้องให้คณะรัฐมนตรีทบทวนการตัดสินใจอีกครั้งพร้อมระบุว่า บริษัทจ้างพนักงานกว่า 1,600 คนในประเทศ และอ้างว่าเป็นหนึ่งในบริษัทจีนที่ใหญ่ที่สุดที่เข้ามาลงทุน “เราจะทบทวนคำประกาศอย่างละเอียดอีกครั้ง และทำงานกับรัฐบาลของสหราชอาณาจักรเพื่อพิจารณาว่า เราจะทำงานร่วมกันอย่างไรเพื่อสร้างการเชื่อมต่อที่ดีขึ้นในอังกฤษ” อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าไม่กี่วันก่อนหน้านี้กรรมการผู้จัดการหัวเว่ยประจำสหราชอาณาจักรเพิ่งลาออกจากบริษัท ทั้งที่จะหมดวาระอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน

ความสัมพันธ์ระหว่างสหราชอาณาจักรและจีนถดถอยลงในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ โดยเฉพาะตั้งแต่ที่สหราชอาณาจักรวิจารณ์การออกกฎหมายความมั่นคงฮ่องกงของจีน ซึ่งจีนก็ประกาศว่าจะออกมาตรการแสดงความไม่เห็นด้วย การตัดสินใจแบนหัวเว่ยของสหราชอาณาจักรเจริญรอยตามรัฐบาลทรัมป์ ที่เรียกร้องให้กลุ่มสมาชิกพันธมิตรไฟว์อายส์  (Five Eyes alliance) ที่ประกอบด้วยสหราชอาณาจักร แคนาดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ย เพราะสามารถถูกใ้ช้เป็นช่องทางสอดแนมจากรัฐบาลจีนได้ แม้ว่าหัวเว่ยจะปฏิเสธข้อกล่าวหานี้มาโดยตลอด

ที่มา:

https://www.bbc.com/news/technology-53403793

https://www.bbc.com/news/technology-53412678

https://www.japantimes.co.jp/news/2020/07/15/business/corporate-business/ericsson-nokia-uk-ban-huawei-5g

https://www.scmp.com/tech/big-tech/article/3093211/china-reacts-fury-after-uk-bans-huawei-5g-networks

ภาพ: DANIEL LEAL-OLIVAS / AFP

Tags: