ถ้าเปรียบพอร์ตการเงินของตัวเราเหมือนกับร่างกายของเรา โดยปกติ คนทั่วไปจะหันมาสนใจสุขภาพของตัวเองก็ต่อเมื่อตัวเองป่วยเท่านั้น ถ้าร่างกายคือพอร์ตการเงิน กว่าเราจะมาหันมาสนใจ ก็คือตอนที่พอร์ตการเงินเริ่มมีปัญหาแล้วเช่นเดียวกัน

หลายๆ คนอาจจะคิดว่า คำว่าเริ่มมีปัญหาก็คือ การที่เรามีเงินเหลือ ไม่รู้จะเอาไปวางที่ไหน หรือว่าเงินก้อนนี้จะเอาไปซื้ออะไรเพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษี แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่เลย เพราะคำว่าเริ่มมีปัญหาในที่นี้คือ เริ่มรู้สึกว่าที่หามาได้ไม่พอใช้สักเท่าไร รู้สึกว่าเริ่มชักหน้าไม่ถึงหลัง สภาพคล่องเริ่มขาดหาย เพราะรู้ตัวอีกทีก็เป็นหนี้กันแล้ว หรือบางคนรู้ตัวช้าก็เป็นหนี้ท่วมหัวเลยก็มี เพราะต้องยอมรับว่าสมัยนี้การเป็นหนี้นั้นง่ายมาก

บทความนี้ เรามาดูกันดีกว่าถ้าเราเป็นคนที่มีหนี้อยู่ แล้วอยากจะเคลียร์หนี้ให้หมดไป เราจะเริ่มต้นจัดการยังไงได้บ้าง

1. ต้องมีสติเสมอ


ต้องเริ่มจากให้เวลาตัวเอง อย่าคิดฟุ้งซ่าน ทุกปัญหามีทางออกเสมอ การเป็นหนี้ไม่ได้หมายความว่าเราทำผิดกฎหมาย โลกยังไม่แตก เราแค่เป็นหนี้เพราะว่าช่วงชีวิตไม่เป็นใจ หรืออาจจะเพราะว่าไม่รู้ของตัวเราเองเท่านั้น จะแก้หนี้ได้ต้องมีสติให้มากๆ และต้องใช้เหตุผลให้เยอะๆ 

 2. จัดทำบัญชีหนี้ของตัวเอง

การจัดทำบัญชีหนี้ คือการที่เราทำรายการออกมาทั้งหมดว่าปัจจุบันมีหนี้อะไรอยู่บ้าง แล้วหนี้แต่ละอย่างมีภาระดอกเบี้ยเท่าไร จากนั้นก็แบ่งหนี้ทั้งหมดออกเป็นสองส่วน ได้แก่ หนี้ดี และ หนี้เสีย 

จากนั้นก็มาจัดลำดับ ‘หนี้เสีย’ ก่อนเลยว่ามีอะไรอยู่แล้ว ไล่จากภาระดอกเบี้ยมากมาน้อย แล้วก็เริ่มทยอยปิดหนี้เสียที่ภาระดอกเบี้ยเยอะที่สุดก่อน ส่วนใหญ่แล้ว หนี้เสียก็จะเป็นพวกหนี้นอกระบบ หนี้บัตรเครดิต หรือหนีับัตรกดเงินสด เพราะกู้ง่าย ได้เงินเร็ว แต่ดอกเบี้ยมหาโหด แล้วถ้ายังไม่มีเงินสดมาปิดหนี้เสียพวกนี้ แนะนำว่าให้โยกหนี้ดอกเบี้ยสูงๆพวกนี้ไปที่อื่นที่มีภาระดอกเบี้ยน้อยกว่า 

3. ตัด ปรับ ลด รายจ่าย

การลดรายจ่ายก็คือ การประหยัด เราต้องยอมรับว่าช่วงที่เรากำลังเคลียร์หนี้ เราจะใช้ชีวิตสุขสบายเท่าเดิมไม่ได้ ถ้าเราอยากลดรายจ่าย แนะนำว่าให้เริ่มทำบัญชีรายรับรายจ่ายทั้งหมดออกมา เพราะปัญหาของคนที่เป็นหนี้ส่วนใหญ่คือไม่รู้ด้วยซ้ำว่าในแต่ละวันแต่ละเดือนเราใช้จ่ายอะไรออกไปบ้าง

การทำบัญชีรายรับรายจ่าย จะช่วยทำให้เราเห็นว่ารายจ่ายเราว่าหมดไปกับการทำอะไร แล้วเราก็จะรู้ว่าอะไรตัดได้ อะไรที่ปรับลดได้ เพื่อให้เหลือเงินในแต่ละเดือนมากขึ้นเพื่อให้เราเอาไปปิดหนี้ได้ ห้ามลืมเด็ดขาดว่า หนี้เรามีดอกเบี้ยวิ่งตามอยู่ทุกวัน ยิ่งจัดการเร็วเท่าไหร่ ยิ่งดีกับตัวเราเองเท่านั้น

4. หารายได้เพิ่ม

จากข้อ 3 ต้องยอมรับว่าการปรับลดรายจ่ายเราทำได้ประมาณหนึ่งเท่านั้น เพราะสุดท้ายเราก็ยังต้องกินต้องใช้อยู่ดี รายจ่ายที่ปรับลดได้จะเป็นรายจ่ายสิ้นเปลืองเท่านั้น แต่รายจ่ายจำเป็นอาจจะได้แค่ลดบางส่วน แต่ไม่สามารถตัดออกได้

สำหรับคนที่อยากปลดหนี้ สิ่งที่ต้องทำมากที่สุดก็คือการเพิ่มรายได้ เพราะจะเป็นการขยายเพดานออกไปทำให้เรามีเงินไปจ่ายหนี้คืนมากขึ้น

การเพิ่มรายได้อาจจะเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ทันทีเหมือนกันการลดรายจ่าย แต่ก็ยังสามารถทำได้ โดยเราอาจจะเริ่มต้นที่ทำโอทีก่อน จากนั้นก็อาจจะใช้เวลาเสาร์-อาทิตย์ทำงานพาร์ทไทม์ควบคู่กันไป หรืออาจหาตลาดนัดที่มีเปิดให้เช่าพื้นที่ แล้วหาสินค้าไปขายก็ได้ โดยที่เน้นลงทุนไม่เยอะไว้ก่อน ก็ช่วยทำให้เรามีเงินไปจ่ายหนี้คืนได้อีก

5. ขายสินทรัพย์บางอย่างเพื่อเคลียร์หนี้

ต้องบอกว่าข้อนี้เป็นทางเลือกสุดท้ายที่ไม่ค่อยอยากจะแนะนำ แต่ก็เป็นอีกวิธีที่จะช่วยทำให้เราเคลียร์หนี้ได้เร็วมากขึ้น เนื่องจากสินทรัพย์บางอย่างไม่ได้สร้างรายได้ให้กับเรา มีแต่จะเพิ่มรายจ่ายให้กับเรา โดยเฉพาะหนี้เสียบางตัวที่เราโดนดอกเบี้ยอย่างหนักอยู่ทุกวัน

ส่วนจะขายสินทรัพย์ตัวไหนออกไปก่อน อันนี้ขึ้นอยู่กับภาวะการตัดสินใจของแต่ละบุคคลแล้วล่ะ แต่แนะนำว่าเน้นสินทรัพย์ที่พอมีราคาแต่นับวันราคาจะยิ่งถอยลงหรือมีค่าใช้จ่ายในการดูแล แล้วหลังจากที่เราเคลียร์หนี้เสร็จ เราค่อยซื้อกลับมาก็ยังไม่สาย เผลอๆ ได้รุ่นใหม่กว่าและมีประสิทธิภาพมากกว่าอีกด้วย

Tags: , , ,