นับแต่จีนประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงในฮ่องกง ระบบการศึกษาเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่ต้องกระชับวงล้อม ทางการขอคืนพื้นที่การเรียนรู้ด้วยการสั่งพักการเรียนเด็กกิจกรรม เลิกจ้างครูที่เห็นอกเห็นใจขบวนการประชาธิปไตย แก้ไขตำราให้เน้นปลูกฝังความภักดีต่อแผ่นดินใหญ่ 

กฎหมายความมั่นคงที่ประกาศใช้เมื่อเดือนมิถุนายนกำลังส่งผลสะเทือนต่อระบบการศึกษาในฮ่องกง รัฐบาลปักกิ่งเพ่งเล็งมรดกภูมิปัญญาที่ถูกทิ้งไว้ในอดีตเขตเช่าของอังกฤษแห่งนี้มานานแล้วในฐานะที่เป็นแหล่งบ่มเพาะความคิดวิพากษ์วิจารณ์ ในสายตาของจีน เหตุประท้วงตลอดปีที่แล้วคือการล้ำเส้น จึงถึงเวลาต้องจัดระเบียบสิ่งตกค้างจากยุคอาณานิคมเสียที 

กำจัด ‘ปลาเน่า’ ออกจากข้อง

ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา โรงเรียนและมหาวิทยาลัยหลายแห่งในฮ่องกงเริ่มปรับปรุงตัวเองให้สอดคล้องกับกฎหมายความมั่นคง ซึ่งกำหนดโทษจำคุกตลอดชีวิตสำหรับความผิดฐานแบ่งแยกดินแดน ล้มล้างการปกครอง ก่อการร้าย หรือสมคบกับต่างชาติบ่อนทำลายความมั่นคงของรัฐ 

อิป คินหยวน สมาชิกสภานิติบัญญัติผู้มีแนวคิดประชาธิปไตย บอกว่า การศึกษากำลังถูกแปรเป็นเครื่องมือควบคุมความคิด การต่อต้านจีนถูกมองว่าได้รับอิทธิพลจากต่างชาติ โรงเรียนและมหาวิทยาลัยเป็นแหล่งพร่ำสอนอุดมคติแบบตะวันตก ไม่ปลูกฝังความรู้สึกเป็นคนจีน 

รองประธานสหภาพครูอาชีพฮ่องกงผู้นี้บอกอีกว่า ด้วยเหตุที่มองว่าเยาวชนก่อการต่อต้านเพราะถูกชักจูงปลุกปั่น รัฐบาลจึงชี้นิ้วโทษครู ตำราเรียน หลักสูตร รวมถึงข้อสอบที่เปิดให้เด็กอภิปรายถึงประเด็นอ่อนไหวต่างๆ

ผู้บริหารฮ่องกง แคร์รี หลำ ดูจะยืนยันมุมมองเช่นนี้ เธอกล่าวในงานสัมมนาด้านการศึกษาแห่งหนึ่งว่า ในจำนวนผู้ถูกจับกุมในการประท้วงเมื่อปีก่อนราว 7,500 คน มีนักเรียนนักศึกษารวมอยู่ด้วยกว่า 3,000 คน เกือบครึ่งมีอายุยังไม่ถึง 18

น่าวิตกอย่างยิ่ง ความคิดต่อต้านรัฐบาล ต่อต้านประเทศชาติ ถูกฝังเข้าไปในดวงใจของคนหนุ่มสาว เราอดไม่ได้ที่จะถามว่า ทำไมระบบการศึกษาของเราจึงเป็นแบบนี้” 

มุมมองดังกล่าวดูจะเป็นที่มาของปฏิบัติการปรับทัศนคติในสถานศึกษา รัฐมนตรีด้านความมั่นคงของฮ่องกง จอห์น ลี ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ต้ากุงเป้าที่นิยมจีนว่าความคิดของเด็กๆ ถูกปั่นมานานหลายปี ตอนนี้เรามีกฎหมายความมั่นคงแล้ว รัฐบาลสามารถชี้แนะ กำกับดูแล จัดการ และส่งเสริมความมั่นคงแห่งชาติได้ในหลายช่องทาง

ลีบอกว่า ฮ่องกงต้องกำจัดปลาเน่าออกจากระบบโรงเรียน

พักการเรียนเด็ก-ปลดครู

แผนกำจัดปลาเน่าที่สร้างความเสื่อมเสียแก่โรงเรียนดูจะเริ่มขึ้นแล้ว นักเรียนชายคนหนึ่งของโรงเรียนมัธยมฯ ฮวงโตเป็นรายแรกที่ถูกลงโทษพักการเรียนเป็นเวลา 1 สัปดาห์ เพราะแสดงคำขวัญปลดปล่อยฮ่องกง ปฏิวัติในยุคของเราในภาพโปรไฟล์ตอนที่เรียนออนไลน์ ทางโรงเรียนขู่ว่า เขาจะถูกไล่ออกถ้าเข้าร่วมการประท้วงอีก

ครูสตรีคนหนึ่งผู้สอนวิชาดนตรีในโรงเรียนเดียวกัน ไม่ได้รับการต่อสัญญาจ้าง เพราะเธอไม่ได้ห้ามปรามเมื่อนักเรียนเล่นเพลง ‘Glory to Hong Kong’ ซึ่งเป็นบทเพลงของขบวนการประท้วง ในระหว่างการสอบ

ครูหลายคนมีความเสี่ยงที่จะประสบชะตากรรมแบบเดียวกันนี้ ทบวงการศึกษาของฮ่องกงระบุว่า ในช่วงเวลา 12 เดือนนับจนถึงเดือนมิถุนายน ทางทบวงได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมไม่เหมาะสมของครูเป็นจำนวน 222 เรื่อง หน่วยงานที่รับผิดชอบได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว 117 กรณี เกือบครึ่งหนึ่งถูกว่ากล่าวตักเตือน อีกครึ่งหนึ่งอยู่ระหว่างสอบสวน แต่ทางทบวงปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดของข้อร้องเรียน

หลังจากกระแสต่อต้านจีนขึ้นสู่กระแสสูงในหมู่นักเรียนนักศึกษา คนฮ่องกงในปีกที่นิยมจีนดูจะเริ่มตอบโต้ เมื่อเดือนพฤษภาคม คนเหล่านี้จัดตั้งกลุ่มที่ใช้ชื่อว่า ‘Help Our Next Generation’ คอยสอดส่องโรงเรียน ครูบาอาจารย์ และสื่อการสอน 

เดวิด กว๋อ ประธานกลุ่ม เปิดเผยว่า สามารถรวบรวมอาสาสมัครได้ 800 คนแล้ว มีทั้งพ่อแม่ผู้ปกครอง ครู นักเรียนเราขอให้ผู้แจ้งเบาะแสช่วยรวบรวมหลักฐาน ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับทางโรงเรียน ถ้าเด็กๆ ถูกฝังหัวด้วยความคิดต่อต้านรัฐบาล ครูไม่สมควรถูกลงโทษหรือ” 

ครูสตรีในช่วงวัย 20 ของโรงเรียนประถมคนหนึ่ง ซึ่งขอเปิดเผยเฉพาะชื่อแซ่ว่า ตั้ง บอกว่า เธอกำลังถูกทบทวนสัญญาจ้างหลังจากผู้ปกครองคนหนึ่งร้องเรียนว่า เธอขอให้เด็กๆ อภิปรายเกี่ยวกับความจำเป็นของกฎหมายความมั่นคง ทางโรงเรียนได้เรียกเธอไปสอบถาม พร้อมกับทำหนังสือขอโทษไปยังผู้ปกครองคนนั้น

บรรยากาศของความหวาดหวั่น 

กฎหมายความมั่นคงกำลังสร้างความหวาดผวาในสถาบันการศึกษา ครูชายคนหนึ่ง ซึ่งขอเปิดเผยเฉพาะชื่อว่า ลีโอ บอกว่าผลกระทบต่ออาชีพการงานทำให้รู้สึกสับสนงุนงงว่า ในชั้นเรียน อะไรพูดได้ อะไรพูดไม่ได้ผมต้องเลิกพูดความจริง เพื่อไม่ให้ผิดกฎระเบียบ การศึกษาไม่อาจเป็นไปอย่างตรงไปตรงมาอีกแล้ว ซึ่งทำให้ขาดความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างครูกับนักเรียน

ไบรอัน ชาน ครูใหม่วัย 23 ที่เพิ่งเริ่มงานภายใต้บรรยากาศปิดกั้นเสรีภาพ บอกว่า รู้สึกวิตกว่าจะพูดอะไรผิด วิชาศิลปศาสตร์ที่เขาได้รับมอบหมายให้สอนนั้น มุ่งให้ผู้เรียนรู้จักคิดวิเคราะห์ เขาอยากสอนเหตุการณ์ปัจจุบันตามความเป็นจริง แต่เกรงว่า พอพูดถึงประวัติศาสตร์จีนหรือฮ่องกง ต้องสอนเฉพาะเวอร์ชั่นที่ผ่านการเซ็นเซอร์แล้ว

เวลานี้ บรรดาครูกำลังถูกกะเกณฑ์ให้เข้ารับการอบรมเกี่ยวกับกฎหมายความมั่นคงที่จะต้องสอนในห้องเรียน ตำราเรียนถูกแก้ไข โดยไม่เอ่ยถึงหลักการแบ่งแยกอำนาจหรือกลุ่มการเมืองของนักกิจกรรม คำบรรยายเกี่ยวกับการปิดกั้นเสรีภาพในการพูดถูกแทนที่ด้วยคำบรรยายเกี่ยวกับโอกาสทางเศรษฐกิจที่จีนมอบให้แก่ฮ่องกง

หนังสือที่มีความอ่อนไหวทางการเมือง เช่น เล่มที่เขียนโดยโจชัว หว่อง นักเรียกร้องประชาธิปไตย หรือเล่มที่เขียนเกี่ยวกับเหตุการณ์เทียนอันเหมิน เล่มที่เขียนเกี่ยวกับการปฏิวัติวัฒนธรรมในจีน ถูกเก็บออกจากห้องสมุด  

การประลองระหว่างอุดมการณ์สองขั้ว ความมั่นคงแห่งชาติกับสิทธิเสรีภาพของปัจเจกชน จะดำเนินไปอย่างไร ศึกนี้จะจบในรุ่นเราหรือไม่ อย่างไร ต้องติดตาม

อ้างอิง :

Financial Times, 9 September 2020

Los Angelis Times, 11 September 2020

Tags: ,