หลายคนคงคุ้นเคยกับแอปพลิเคชันช็อปปิ้งออนไลน์อย่าง ‘honestbee’ (ออนเนสบี) อยู่บ้าง ที่เรียกว่าช็อปปิ้งออนไลน์ เพราะออนเนสบีไม่ได้เป็นเพียงแอปเพื่อสั่งอาหารเครื่องดื่มเพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถซื้อข้าวของเครื่องใช้ รวมถึงของสดจากซูเปอร์มาร์เก็ตได้อีกด้วย

ออนเนสบีเปิดตัวครั้งแรกในประเทศสิงคโปร์ เมื่อปี 2558 วางตัวเป็นแพลตฟอร์มจัดส่งสินค้าอาหารสดและอาหารปรุงสดใหม่ในเอเชีย และปัจจุบันให้บริการใน 16 เมืองใน 8 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ไทย ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฮ่องกง

แม้ว่าการช็อปปิ้งออนไลน์จะกำลังเติบโตและไปได้ดี แต่การซื้อผ่านหน้าร้านก็ยังมีความสำคัญอยู่ และในยุคที่ธุรกิจต่างๆ นำเทคโนโลยีเข้ามาสังเกตพฤติกรรมผู้บริโภค ออนเนสบีเองก็ลงทุนนวัตกรรม แล้วนำมาใช้กับ ‘habitat by honestbee’ ซึ่งเรียกว่าเป็นร้านค้าปลีกเจนใหม่ ที่จะสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างให้กับการซื้อขาย โดยเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา ณ ประเทศสิงคโปร์

เราจะพาไปดูกันว่า รังผึ้งแห่งนี้เป็นอย่างไรบ้าง

ก่อนจะพูดถึงตัวร้าน คงต้องพูดถึงเรื่องทำเลและการเดินทาง ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวก็คงคุ้นเคยดีกับย่านดัง อย่าง Orchard หรือ Clarke Quay ที่รถไฟฟ้าใต้ดินผ่าน สำหรับแฮบิแททก็เดินทางได้สะดวกไม่แพ้กัน เพียงแค่นั่ง MRT สาย North East Line มาลงที่สถานี HarbourFront แล้วเปลี่ยนเป็นสาย Circle LIne นั่งต่อไปอีกสามสถานี ลงที่สถานี Pasir Panjang เดินต่ออีกนิดหน่อยก็ถึงแล้ว

ก่อนจะเข้าไปด้านใน เงินสดทั้งหมดที่ถือมาต้องพักไว้ก่อน เพราะสิ่งที่ต้องใช้มีเพียงสมาร์ตโฟนและแอปพลิเคชัน ‘honestbee’ และด้วยความที่เราเป็นต่างชาติ พนักงานจะช่วยตั้งค่านู่นนี่นั่นนิดหน่อย เพื่อเปลี่ยนโลเคชั่นจากไทยเป็นสิงคโปร์ และกดเข้าเมนู ‘habitat’ หลังจากนั้นก็ใช้เพียงแค่แอปนี้แหละ เดินเข้าไปสบายๆ ไม่ต้องง้อเงินสด

บรรยากาศด้านใน แว้บแรกคือ ว้าวมาก เพราะมันดูล้ำ แปลก และสะอาดตา ถ้าใครเคยดูซีรี่ส์ใน Netflix อย่าง Black Mirror บอกเลยว่าบรรยากาศใกล้เคียงมาก หลังจากชื่นชมอยู่กับตัวเองสักพักก็พบว่า คนเยอะมาก อาจจะเพราะเป็นวันหยุดพอดี

พื้นที่ภายในแบ่งออกเป็นสี่โซนใหญ่ๆ คือ โซนรีเทลซูเปอร์มาร์เก็ต โซนร้านอาหาร โซนพื้นที่สำหรับนั่งทานอาหารและโซนแคชเชียร์หรือชำระเงิน

บรรยากาศโดยรวมที่ดูแปลกตาจากซูเปอร์มาร์เก็ตขึ้นมานิดหน่อย บวกกับลูกเล่นอย่างสายพานด้านบนที่จะวิ่งส่งของไปยังจุดแพ็คและจัดส่ง ช่วยสร้างมู้ดที่สนุกสนานให้กับฮาบิแททได้เป็นอย่างดี และพื้นที่โดยรอบที่ดูโปร่งจากกระจก ทำให้ภาพของโกดังส่งสินค้าดูทันสมัยและเป็นมิตรขึ้นเยอะเช่นกัน

ในโซนรีเทลหรือร้านค้าปลีก มีสินค้ามากมาย ทั้งของท้องถิ่นสิงคโปร์เองและสินค้าที่น่าสนใจจากต่างประเทศ อาทิ สินค้าจากญี่ปุ่น ที่ผลิตได้ตามฤดูกาลก็ถูกคัดสรรมาไว้ที่นี่ หรือข้าวสารพันธุ์ดีจากทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นข้าวหอมมะลิและข้าวพันธุ์อื่นๆ จากไทย ข้าวจากญี่ปุ่น หรือข้าวจากอเมริกา ก็ถูกรวบรวมมาไว้ที่นี่เช่นกัน

นอกจากนี้ยังมีแผนกย่อยๆ ในโซนรีเทลอีกเยอะ ที่เรียกได้ว่า ซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปมีอะไร ฮาบิแททมีครบหมด และอาจจะรวบรวมไว้เยอะกว่า พิเศษกว่าด้วยในบางหมวด แต่จุดที่ทำให้ฮาบิแททแตกต่างเลยคือ ‘การจ่ายเงิน’ หากเราซื้อของไม่เกิน 10 ชิ้น เราสามารถ Scan and Go ได้เลย เพียงแค่สแกนบาร์โค้ดหรือคิวอาร์โค้ดที่ตัวสินค้า กดยืนยันการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต เป็นอันเสร็จสิ้น ก่อนออกจากฮาบิแททก็เพียงแค่ยื่นใบเสร็จออนไลน์ในแอปให้ดู รับถุงหูหิ้วแล้วก็ใส่ของกลับบ้านได้เลย

แต่ถ้าหากซื้อของเยอะหน่อย ทางร้านมีบริการรถเข็นซูเปอร์มาร์เก็ตให้เช่นกัน และขั้นตอนจ่ายเงินก็เพียงเข็นรถไปที่จุด Check out จะมีพนักงานช่วยดูแล และส่งต่อเข้าเครื่องสแกนสินค้า เพียงแค่กดยืนยันการชำระเงินก็เป็นอันเสร็จสิ้น หากจะให้จัดส่งสินค้าไปยังบ้านก็สามารถทำได้เลย ไม่ต้องถือของให้พะรุงพะรัง แต่หากจะอยู่ช็อปหรือกินข้าวต่อก็กดทำรายการในแอป สินค้าที่เราซื้อทั้งหมดจะถูกแพ็คและย้ายไปเก็บ โดยมีหุ่นยนต์ RoboCollect รอเราอยู่ ก่อนกลับเพียงนำคิวอาร์โค้ดไปสแกนที่หน้าจุดรับของ เจ้าหุ่นยนต์ก็จะหมุนๆๆ แล้ววนนำของทั้งหมดที่เราซื้อไว้มาส่งที่จุดรับ ช่วงที่รอหุ่นยนต์มาส่งของก็สะดวก สนุก และเพลินตา เหมือนกำลังดูเครื่องจักรไฮเทคๆ ทำงานอยู่เลย

ในโซนร้านอาหารและพื้นที่สำหรับนั่งรับประทานอาหาร อาจจะไม่ได้มีร้านให้เลือกเยอะนัก แต่ก็หลากหลายและถือว่าครบครัน ทั้งอาหารท้องถิ่น ต่างประเทศ คาว หวาน เครื่องดื่มต่างๆ ทั้งสมูธตี้ กาแฟ เบียร์ และที่สำคัญคือ ชานมไข่มุกก็มี (อร่อยมาก)

ระบบการสั่งอาหาร ก็เพียงเลือกเมนูอาหารจากแอปในสมาร์ตโฟน จ่ายเงิน เดินเพลินๆ ประมาณ 10-15 นาที พอถึงคิว แอปจะเตือนให้เดินไปรับที่ร้านนั้นๆ แล้วมานั่งทานได้เลย

สำหรับเรื่องความสะดวกสบายและบรรยากาศ แฮบิแททถือว่าทำได้ดีมากทีเดียว เพราะถึงแม้คนเยอะ แต่เรากลับไม่รู้สึกอึดอัดเท่าไหร่ น่าจะเพราะการกระจายพื้นที่สำหรับนั่งทานอาหาร ไม่ให้กระจุกตัวเป็นจุดเดียวจนเกินไป และมีพื้นที่ส่วนกลางและความโปร่งสบายให้ได้ผ่อนคลายสายตาบ้าง

หากมองว่า ฮาบิแทท เป็นศูนย์กระจายสินค้าสำหรับผู้ใช้งานออนไลน์ ที่เพิ่มพื้นที่หน้าร้านขึ้นมาตอบรับพฤติกรรมของลูกค้าอีกกลุ่ม ก็ฟังดูแปลกดี ที่แพลตฟอร์มออนไลน์ลองมาทำออฟไลน์ดูบ้าง ซึ่งก็ถือว่าทำออกมาได้ดี แต่อาจจะต้องตามดูกันอีกสักพักว่า รังผึ้งที่ตั้งใจมอบประสบการณ์การช็อปปิ้งแนวใหม่รังนี้ จะกลายเป็นโมเดลให้กับซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้าปลีกในอนาคตได้หรือไม่

Fact Box

habitat by honestbee ดำเนินการโดย ออนเนสบี ในรูปแบบร้านค้าที่มีการซื้อขายผ่านทางหน้าร้าน เพิ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อ 16 ตุลาคม 2018 ที่ประเทศสิงคโปร์

Tags: , , , ,