เรารู้ดีอยู่แล้วว่าท่าทางการเล่าเรื่องของจักรวาลหนัง Marvel ค่อนข้างสดใสและสนุกสนาน ไม่ได้ถูกเซ็ตมาให้จริงจังขมึงขึงใช้โทนภาพอึมครึมแบบจักรวาลหนัง DC แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่คิดมาก่อนว่าผู้กำกับ เจมส์ กันน์ จะพาหนังบล็อกบัสเตอร์ซูเปอร์ฮีโร่ใหญ่ยักษ์อย่าง Guardians of the Galaxy Vol. 2 เดินทางข้ามจักรวาลสู่การเป็นหนังตลกได้สุดทางอย่างไม่เคอะเขิน

ส่วนตัวรู้สึกว่า Ant-Man (2015) ของ เพย์ตัน รีด ที่ได้ชื่อว่าฮาสุดๆ ในจักรวาลหนัง Marvel ยังต้องชิดซ้าย

เรื่องราวของ Guardians of the Galaxy Vol. 2 เริ่มขึ้นหลังจากทีมผู้พิทักษ์จักรวาลทั้งห้าอย่าง สตาร์-ลอร์ด หรือ ปีเตอร์ ควินน์ (คริส แพรตต์), กาโมรา (ซูอี ซัลดานา), แดร็กซ์ (เดฟ บัลติสตา), ร็อกเก็ต (แบรดลีย์ คูเปอร์) และเบบี้กรูต (วิน ดีเซล) ปราบ โรแนน (ลี เพียช) ที่ได้รับ Power Stone มาจาก ธานอส (จอช โบรลิน) ได้ในภาคที่แล้ว แต่ดันจับพลัดจับผลูมารับงานจาก อเยชา (เอลิซาเบธ เดบิกกี) ผู้นำชนชั้นสูงชาวดาวโซเวอเรียนผู้เย่อหยิ่ง จนสุดท้ายโดนนายจ้างไล่ล่า ต้องหนีตายแบบไม่คิดชีวิต ก่อนจะได้ อีโก้ (เคิร์ต รัสเซลล์) ผู้เป็นพ่อของสตาร์-ลอร์ด มาช่วย แต่ถึงจะรอดพ้นเงื้อมมือชาวโซเวอเรียนมาได้ ก็ยังต้องเผชิญภัยร้ายระดับจักรวาลครั้งใหม่ที่คาดไม่ถึงอีกชั้น

Photo: Marvel Studios

ที่สำคัญคือเราจะเข้าใจต้นกำเนิดของสตาร์-ลอร์ดที่ยังเป็นปริศนายิ่งขึ้นกว่าเดิม

ถึงแม้ภารกิจของแก๊ง Guardians of the Galaxy ในภาคนี้มีสเกลใหญ่ยักษ์ระดับจักรวาลไม่ต่างจากภาคแรก แต่ประเด็นหลักที่ เจมส์ กันน์ เลือกมาสื่อสารกับคนดูในภาค 2 กลับเป็นเรื่องเล็กๆ อย่างสายสัมพันธ์ระหว่างคนกับคน (ถึงแม้ส่วนใหญ่จะเป็นมนุษย์ต่างดาวก็เถอะ) ที่เพิ่มระดับความลุ่มลึกมากขึ้นกว่าภาคแรก จนอาจจะจัด Genre ของหนังให้อยู่ในกลุ่มหนังตลกครอบครัวได้อย่างไม่ยาก

แน่นอนว่าเราจะได้เห็นการสานสัมพันธ์กันระหว่างสตาร์-ลอร์ดและอีโก้ที่พลัดพรากจากกันมานาน จนทำให้มุมหนึ่งในจิตใจของพระเอกสุดเกรียนนั้นปิดกั้นผู้เป็นพ่อและไม่ค่อยไว้เนื้อเชื่อใจความรักที่ผู้เป็นพ่อมอบให้สักเท่าไร

แต่ที่น่าสนใจคือความสัมพันธ์ระหว่างสตาร์-ลอร์ดกับยอนดู (ไมเคิล รูเกอร์) ที่มองเผินๆ เหมือนกับเป็นศัตรูที่หักหลังกันไปมาตามประสาโจรสลัดอวกาศ ทว่าหากมองการกระทำของยอนดูทั้งสองภาคให้ลึกลงไป จะเห็นว่าเขาไม่ได้เกลียดหรือโกรธแค้นสตาร์-ลอร์ดเลย ออกจะรู้สึกห่วงหาอาทรเหมือนพ่อห่วงลูกเสียด้วยซ้ำ แถมบางครั้งยังรู้สึกได้ถึงความรักความห่วงใยของยอนดูที่มีมากกว่าอีโก้เสียอีก ซึ่งความสัมพันธ์ที่ยุ่งเหยิงระหว่างสตาร์-ลอร์ด ยอนดู และอีโก้ ซึ่งลากยาวมาตั้งแต่ภาคก่อน จะถูกคลี่คลายในภาคนี้

เช่นเดียวกับความผูกพันระหว่าง กาโมรา กับ เนบิวลา (คาเรน กิลแลน) สองลูกเลี้ยงของธานอสที่ถูกหล่อเลี้ยงด้วยความแค้นและต้องการชิงดีชิงเด่นไล่ฆ่ากันมาตั้งแต่ภาคแรก ก็จะถูกจัดการให้ลงตัว พร้อมกับเผยสาเหตุและปมติดค้างในใจของเนบิวลา รวมทั้งสาเหตุที่ทำให้ร็อกเก็ตเป็นคนปากร้ายชอบกระแนะกระแหนแบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม ก็จะกระจ่างขึ้นในภาคนี้

Photo: Marvel/Disney

จะว่าไป Guardians of the Galaxy Vol. 2 เหมือนกับเป็นการพักจากการต่อสู้กับตัวร้ายหลักของจักรวาล Marvel อย่างธานอส ไปจัดการความสัมพันธ์ที่ปูกันมาตั้งแต่ภาคแรกของเหล่าผู้พิทักษ์จักรวาลทั้งห้า เพราะ เจมส์ กันน์ เลือกขยี้ปมความสัมพันธ์ของทุกตัวแบบเน้นๆ แล้วตัวหนัง ก็แทบจะไม่มีส่วนไหนเลยที่เกี่ยวโยงกับการตามหาอัญมณี แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เสน่ห์ของ ‘นักสู้พิทักษ์จักรวาล’ จางหายไปเลย ไม่ว่าจะเป็นความตลกจากนิสัยพิลึกพิลั่นของตัวละครที่เพิ่มขึ้นจากเดิมสองเท่า รวมถึงความน่ารักไร้เดียงสาของเบบี้กรูตและแมนทิส (พอม เคลเมนเทียฟ) เอเลียนสาวพลังจิตแรง

โดยเฉพาะเพลงและดนตรีประกอบที่ยังคงเพราะไม่แพ้ภาคแรก เชื่อเถอะว่าดูหนังเสร็จปุ๊ป ต้องรีบเข้า iTunes หรือไม่ก็ YouTube เพื่อหาเพลงมาฟังกันต่อแน่ๆ

Tags: ,