XPENG X9 MPV ไฟฟ้าสุดไฮเทค ที่ใช้ความอเนกประสงค์เป็นจุดขาย

หากเราสังเกตกันให้ดี ปัจจุบันรถยนต์บนท้องถนนเริ่มมีรูปร่างหน้าตาที่หลากหลายมากขึ้น จากการเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนที่เข้ามาตีตลาดแข่งขันกับรถยนต์บ้านญี่ปุ่น ไม่เพียงแต่ ‘แบรนด์’ เท่านั้นที่มีความหลากหลาย หากแต่ยังหมายถึง ‘ประเภท’ เองด้วยเช่นเดียวกัน

เป็นผลจากไลฟ์สไตล์ของผู้คนยุคปัจจุบันเริ่มมีความหลากหลายมากขึ้น ดังนั้นรถยนต์จะต้องไม่ตอบโจทย์ด้าน ‘รูปลักษณ์ภายนอก’ แต่อย่างเดียว ต้องสามารถใช้งานได้หลากหลายมากขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน จึงไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมรถยนต์ประเภทเอสยูวี (SUV) หรือแม้แต่รถตู้เอ็มพีวี (MPV) ก็ได้รับความนิยมมากขึ้น

ต้องบอกกันก่อนว่า ปกติแล้วผู้ใช้รถยนต์ประเภทนี้ส่วนใหญ่จะมีครอบครัวใหญ่และมีการเดินทางอยู่บ่อยครั้ง รถจึงต้องการรถที่สามารถบรรทุกทั้งคนและของได้มากในเวลาเดียวกัน อีกทั้งยังต้องมอบประสบการณ์ความสะดวกสบายและความปลอดภัยของการขับขี่อย่างเต็มขั้น

ล่าสุดไม่นานมานี้ รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนอย่าง ‘XPENG’ ได้ส่ง ‘XPENG X9’ รถตู้ (Multi-Purpose Vehicle: MPV) ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าเข้ามาเปิดหน้าสู้ในสังเวียนเดือดนี้เช่นเดียวกัน

สำหรับ XPENG หรือที่อ่านว่า ‘เอ็กซ์เผิง’ ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้าจีนที่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2014 โดยความร่วมมือของ 3 ผู้ร่วมก่อตั้ง เหอ เสี่ยวเผิง (He Xiaopeng), เฮนรี่ เซีย (Henry Xia) และเหอ เต่า (He Tao) ที่มีวิสัยทัศน์ว่า เทคโนโลยีจะเป็นสิ่งที่สร้างการเปลี่ยนแปลงต่อรูปแบบการเดินทางในอนาคต และได้พัฒนารถยนต์ SUV ออกมาจำหน่ายตัวแรกอย่าง XPENG G3 ในปี 2018 ประชันหน้ากับ Tesla Model X ของอีลอน มัสก์ (Elon Musk)

และเมื่อ XPENG ได้เปิดตัว X9 ออกมา The Momentum ไม่รอช้าที่จะไปทดลองขับ เพื่อสัมผัสประสบการณ์ของรถยนต์คันนี้

ความรู้สึกแรกทันทีที่เห็นรูปลักษณ์ภายนอก หลายคนอาจจะรู้สึกว่ารถยนต์คันนี้มีลักษณะคล้ายกับยานอวกาศ ตามคอนเซปต์การออกแบบ ‘Starship’ ที่ให้ความรู้ลึกล้ำและมีเอกลักษณ์ อีกทั้งยังจะมีความยาวรถยนต์อยู่ที่ 5.2 เมตร ทำให้เป็นรถที่ยาวที่สุดในตลาดเดียวกัน

ขณะที่การขับเคลื่อนของ XPENG X9 (ที่นำเข้าในประเทศไทย) จะขับเคลื่อนด้วยระบบขับเคลื่อนล้อหน้า (Front-Wheel Drive: FWD) แต่มีระบบเลี้ยว 4 ล้ออัตโนมัติ (Standard Active Rear Wheel Streering) ที่จะทำให้ล้อหลังทำมุมเลี้ยวได้สูงสุด 5 องศา ส่งผลให้วงเลี้ยวของรถคันนี้แคบกว่ารถในกลุ่มเดียวกัน

ด้านการออกแบบภายใน รถยนต์คันนี้จะมีด้วยกันทั้งหมด 7 ที่นั่ง (นับรวมคนขับ) โดยไฮไลต์สำคัญจะอยู่ที่เก้าอี้ขนาดใหญ่ 2 ตัวกลางที่จะมาพร้อมกับระบบ Zero Gravity ที่สามารถปรับเบาะเป็นแนวระนาบ เสริมความสบายให้กับผู้โดยสาร

สำหรับการออกแบบสีภายใน XPENG X9 ยังทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ให้ความรู้สะอาด สบายสายตาด้วยการใช้โทนสีครีม ภายในยังมีการใส่ตู้แช่เย็นเข้ามาสำหรับใส่น้ำดื่มหรือเครื่องดื่มต่างๆ ระหว่างการเดินทาง

ในเรื่องของระบบความบันเทิงภายในยังได้มีการติดตั้ง Central Control Screen หรือจอกลางขนาด 21.4 นิ้วมาเป็นศูนย์ควบคุมและให้ความบันเทิงต่างๆ ที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการ ‘XMART OS’ ที่ทาง XPENG เป็นผู้พัฒนาขึ้นเอง และใช้ชิปเซต Qualcomm Snapdragon SA8295P มาเป็นขุมพลัง ทั้งนี้ระบบความบันเทิงนี้ยังถูกเสริมด้วยระบบเสียง ‘Xopera’ ที่มีชุดลำโพงกว่า 23 ตัว การันตีถึงคุณภาพเสียงระหว่างการเดินทางได้เป็นอย่างดี

ในส่วนของพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถก็มีขนาดกว้างขวาง เพียงพอต่อการใช้งานด้วยความจุกว่า 755 ลิตร และสามารถเพิ่มได้สูงสุดถึง 2,554 ลิตรหากมีการพับเก็บ 3 เบาะหลังลงไป ขยายความให้เห็นภาพง่ายๆ ว่า สามารถบรรจุกระเป๋าเดินทางขนาดปกติได้กว่า 7 ใบ

จากความรู้สึกของตัวผู้เขียนที่ได้สัมผัสประสบการณ์การเดินทางระหว่างการขับขี่ของ XPENG X9 พบว่า รถยนต์คันนี้ให้ความรู้สึกแน่น หนึบ และนุ่มสบาย โดยรถสามารถทำอัตราเร่งได้จาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 7.7 วินาทีเท่านั้น

นอกจากนั้น XPENG X9 ยังคงจัดเต็มในเรื่องของเซนเซอร์รอบคันรถ ทำให้สามารถเข้าถึงระบบ XPILOT ที่ทำให้รถยนต์สามารถขับขี่อัตโนมัติได้ด้วยตัวเอง รวมทั้งยังมีระบบเซนเซอร์และกล้องที่คอยจับภาพ บันทึกพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ขับให้ปลอดภัยได้อยู่เสมอ

เนื่องจาก XPENG X9 เป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า ความกังวลของใครหลายๆ คนอาจจะมีคำถามว่า การขับขี่ของรถยนต์คันนี้สามารถขับขี่ได้ไกลมากน้อยเพียงใด ต้องบอกว่า XPENG X9 สามารถขับได้ไกลถึง 600-700 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐานการวัดระยะทางรถยนต์ไฟฟ้าของทางยุโรป (New European Driving Cycle: NEDC) เนื่องจากมีการใช้ 800V SiC Architecture เป็นแพลตฟอร์มจ่ายพลังงาน ทำให้รถวิ่งได้ยาวนานมากกว่ารถยนต์ไฟฟ้าในตลาด โดยทาง XPENG อ้างในประเด็นนี้ไว้ว่า “ชาร์จไฟ 10 นาที ได้ระยะทางวิ่งสูงสุด 280 กิโลเมตร”

โดย XPENG X9 มีรุ่นที่จำหน่ายในประเทศไทยทั้งหมด 2 รุ่นนำเข้าจากประเทศจีนโดย ‘นีโอ โมบิลิตี้ เอเชีย’ ได้แก่ รุ่น XPENG X9 Luxury Long Range FWD สนนราคาอยู่ 2,749,000 บาท และ XPENG X9 Premium Standard Range FWD สนนราคาอยู่ 2,399,000 บาท

มาจนถึงจุดนี้ต้องบอกว่า ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า รวมถึงการออกแบบที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่XPENG X9 ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจของคนที่กำลังมองหารถยนต์คันใหม่ที่สามารถพาครอบครัวหรือเพื่อนฝูงไปทำกิจกรรมต่างๆ ตามไลฟ์สไตล์ที่ต้องการ

ด้วยรถ MPV ตัวใหม่รายนี้ อาจทำให้คู่แข่งในตลาดต้องหันกลับมาจับตา XPENG X9 อย่างจริงจัง และเร่งเครื่องพัฒนายานยนต์ของตัวเองให้ก้าวทัน เพราะการแข่งขันในโลกของ EV วันนี้ ไม่ได้วัดกันแค่เทคโนโลยี แต่รวมถึงความเข้าใจในไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานอย่างแท้จริง