เมื่อวันที่ 16 กันยายน ที่ผ่านมา ใครที่เคยสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชั่น GET ไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป เพราะได้มีการประกาศรีแบรนด์เป็น gojek สตาร์ตอัประดับยูนิคอร์นจากอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ ของ GET ในช่วงเริ่มก่อตั้งและทำธุรกิจตลอดกว่า 1 ปีที่ผ่านมา

การรีแบรนด์จาก GET มาเป็น gojek ในครั้งนี้ เพื่อให้ประสบการณ์การใช้งานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ gojek สามารถขึ้นมาเป็นแบรนด์ระดับโลกได้ในอนาคต โดยมีประเทศไทยเป็นฐานกำลังสำคัญรองจากอินโดนีเซีย นอกจากนี้ gojek ยังมีการไปทำตลาดที่เวียดนามและสิงคโปร์อีกด้วย

ภิญญา นิตยาเกษตรวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ gojek ประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจาก GET ได้ดำเนินธุรกิจมาเป็นระยะเวลาปีเศษ ทำให้รู้ว่าความต้องการของคนไทยคืออะไร ซึ่งตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีในการอัปเกรดสู่การเป็นแบรนด์ gojek

ผู้บริหาร gojek ประเทศไทย สรุปสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการออกเป็น 4 ข้อด้วยกัน ได้แก่ 1. Easy to use ต้องเป็นแอปที่ใช้ง่าย ไม่ซับซ้อน ตรงไปตรงมา 2. Speed ความเร็วผู้ใช้งานต้องรออาหารไม่นาน และคนขับสมัครเป็นพาร์ทเนอร์ gojek โดยใช้เวลาเพียง 10 นาที ก็สามารถสมัครและขับได้เลย 3. Promotion ราคาต้องถูก พร้อมโปรโมชั่นดึงดูด และ 4. Variety ความหลากหลายของร้านอาหาร ต้องมีมากเพียงพอ

นอกจากนี้ แอปฯ Gojek ยังประกอบด้วย 3 บริการหลัก ได้แก่ บริการส่งอาหาร (GoFood) บริการเรียกรถจักรยานยนต์ (GoRide) และบริการรับส่งพัสดุ (GoSend) และยังมีบริการอีวอลเล็ต (GoPay) รวมทั้งฟีเจอร์ใหม่ๆ เช่น GoFood Pickup ที่ให้เราสั่งอาหารไว้ล่วงหน้า แล้วไปรับอาหารด้วยตัวเอง หรือจะเป็นการแชตกับผู้ใช้งานด้วยกันหรือเพื่อนและครอบครัวได้ โดยมีฟีเจอร์กดแชร์ร้านอาหารหรือเมนูที่ชอบให้เพื่อนๆ และเก็บเมนูโปรดไว้ในลิสต์ เพื่อต้องการสั่งอีกในคราวหน้า

“ฟีเจอร์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาจากข้อมูลอินไซต์ที่เรามี เช่น GoFood Pickup เราก็พบว่า คนบางกลุ่มโดยเฉพาะในกรุงเทพฯ มักสั่งอาหารแบบเดลิเวอรี แต่บางกลุ่มก็ยังมีความต้องการไปที่หน้าร้านอาหาร เขาต้องการสั่งอาหารไว้ก่อน ไม่อยากรอนาน และเมื่อไปถึงร้านแล้วก็หยิบอาหารที่สั่งไว้ได้เลย”

ภิญญาย้ำว่าเหตุผลที่ต้องรีแบรนด์ เพราะ Gojek ถือเป็นแอปฯ ที่มีคุณภาพในระดับโลก มีฟีเจอร์ที่ผู้ใช้งานใช้ได้ไม่ว่าจะในไทย หรือต่างประเทศในระดับมาตรฐานเดียวกัน และทีมผู้บริหารยังคงเป็นทีมเดิม โดยเน้นกลยุทธ์การทำตลาดแบบ Hyper Localization

สำหรับการให้บริการของ GET ในช่วงปีเศษที่ผ่านมา มีคนดาวน์โหลดแล้วกว่า 3 ล้านคน ออเดอร์รวมทั้งหมดกว่า 20 ล้านออเดอร์ พาร์ทเนอร์คนขับกว่า 50,000 คน และพาร์ทเนอร์ร้านอาหารกว่า 30,000 ราย

ทั้งนี้ผู้ใช้งาน GET จะไม่สามารถใช้งานแอปฯ GET ได้อีกต่อไป แต่เพียงดาวน์โหลดแอปฯ gojek ใหม่เพื่อใช้งานได้ทันที และในช่วงนี้ทาง gojek ได้อัดโปรโมชั่น เช่น แคมเปญ gojek Grand Opening Deals มอบคูปองส่วนลดมูลค่าสูงสุดถึง 2,500 บาทให้กับผู้ใช้งานใหม่ พร้อมดีลส่วนลดค่าอาหารสุดคุ้ม ลดสูงสุดถึง 50% จากพาร์ทเนอร์ร้านและแบรนด์ยอดนิยม และบริการ GoRide ที่ผู้ใช้บริการสามารถกดเก็บคูปองส่วนลดมูลค่า 12 บาท ได้ถึง 5 ใบ เพื่อทดลองใช้บริการเรียกรถจักรยานยนต์

Tags: ,