วันที่ 22 พฤษภาคม 2023 สื่อหลายสำนักรายงานสถานการณ์ของ วินีซีอุส จูเนียร์ (Vinícius Júnior) นักฟุตบอลสัญชาติบราซิล จากสโมสรเรอัลมาดริด (Real Madrid) หลังได้แสดงความเห็นถึงลีกฟุตบอลสเปน ลาลีกา (La Liga) ว่าเป็น ‘แหล่งรวมการเหยียดเชื้อชาติ’ จนเป็นเรื่องปกติ

ดาวรุ่งทีมชาติบราซิลตกเป็นประเด็นทันที เมื่อกรรมการในสนามฟุตบอลไล่เขาออกจากสนาม ในการแข่งขันระหว่างเรอัลมาดริด กับบาเลนเซีย (Balencia) คืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังเขาได้ลงไม้ลงมือกับ อูโก ดูโร (Hugo Duro) นักเตะทีมคู่แข่ง 

สาเหตุที่วินีซีอุสต้องทำเช่นนี้ มีการตั้งข้อสังเกตว่า มาจากแฟนบอลบาเลนเซียตะโกนถ้อยคำเหยียดเชื้อชาติอย่างหยาบคายใส่ วินิซีอุสจึงชี้ไปยังแฟนบอลเหล่านั้นในระหว่างการแข่งขัน จนทำให้เกมหยุดไปถึง 10 นาที ก่อนทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติ แต่ไม่นานนัก เรื่องราวชุลมุนก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อแข้งคนสำคัญของราชันชุดขาวได้รับใบแดงครั้งแรกในชีวิตจากกรรมการ และโดนไล่ออกจากสนาม หลังจากกระโจนตบหน้าใส่กองหน้าตัวเป้าของบาเลนเซีย

(ที่มา: Reuters)

หลังจากจบเกม วินีซีอุสโพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวและทวิตเตอร์ ถึงความรู้สึกอันน่าอึดอัดที่ต้องเผชิญมาตลอด 

นี่มันไม่ใช่ทั้งครั้งแรก ครั้งที่สอง หรือครั้งที่สามที่มีเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้น การเหยียดผิวเป็นเรื่องปกติในลาลีกาไปแล้ว กรรมการก็มองว่ามันเป็นเรื่องปกติ สหพันธ์ฟุตบอลสเปนก็ด้วย รวมถึงคู่แข่งก็ชอบใจสิ่งนี้มาก

“รางวัลที่ครั้งหนึ่ง โรนัลดินโญ โรนัลโด คริสเตียโน และเมสซี เคยครอบครอง เป็นของพวกเหยียดผิวนี่เอง

“ประเทศอันแสนสวยงามที่เคยต้อนรับผม และผมก็รักมัน แต่ตอนนี้กลับยอมรับการส่งออกภาพลักษณ์ประเทศแห่งการเหยียดเชื้อชาติในสายตาชาวโลก ผมขอโทษคนสเปนที่ไม่เห็นด้วย แต่วันนี้ ในมุมมองของคนบราซิล นี่คือประเทศที่เต็มไปด้วยผู้คนที่เหยียดชาติพันธุ์

“ผมแข็งแกร่ง และผมจะสู้กับการเหยียดเชื้อชาตินี้ แม้ว่ามันจะห่างไกลมากก็ตาม” 

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่วินีซีอุสต้องพบเจอการเหยียดเชื้อชาติจากแฟนบอลชาวสเปน ที่ผ่านมา เขาต้องเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาโดยตลอด และนักเตะชาวบราซิลก็ยังเรียกร้องให้ลาลีกามีมาตรการที่เข้มงวด เพื่อจัดการกับกลุ่มเหยียดเชื้อชาติอยู่เสมอ

“พวกเหยียดผิวยังมีหน้านั่งดูสโมสรที่ใหญ่ที่สุดในโลก และลาลีกากลับไม่ทำอะไรเลย” วินีซีอุสทวีตข้อความดังกล่าว ในช่วงต้นฤดูกาลของการแข่งขันฟุตบอลลีกสเปน ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ในครั้งนี้หลายเดือน

แต่ดูเหมือนเรื่องการเหยียดเชื้อชาติก็ยังปรากฏให้เห็นอย่างต่อเนื่อง มีรายงานว่า ลาลีกาต้องดำเนินการกับผู้ก่ออาชญากรรมสนับสนุนความเกลียดชังทางเชื้อชาติกับวินีซีอุสถึง 10 ครั้งในฤดูกาลนี้ โดยเหตุการณ์ที่รุนแรงที่สุด คือแฟนบอลจากทีมแอตเลติโกมาดริด (Atletico Madrid) แขวนคอหุ่นจำลองของเขาที่สวมใส่เสื้อเรอัลมาดริดบนสะพานนอกที่ฝึกซ้อม

(ที่มา: BBC)

ปฏิกิริยาและความคิดเห็นของคนใกล้ชิดของวินีซีอุส: เรอัล มาดริดและทีมชาติบราซิล

เรื่องนี้ คาร์โล อันเชลอตติ (Carlo Ancelotti) ผู้จัดการทีมเรอัลมาดริด ออกโรงสนับสนุนลูกทีม พร้อมประณามการกระทำอันป่าเถื่อนของแฟนบอลและปัญหาของลีกลูกหนังแห่งสเปน

(ที่มา: Reuters)

“ผมไม่อยากพูดเรื่องฟุตบอล ไม่ใช่ตอนนี้ ผมต้องการจะพูดบางอย่างที่มีความสำคัญมากกว่านั้น

“เรากำลังตกอยู่ในปัญหา ลาลีกามีปัญหา เราต้องหยุดเกม ผมบอกได้เลยว่าถ้าเราชนะพวกเขาด้วยสกอร์ 3-0 เราจะไม่เห็นคนทั้งสเตเดียมกลายเป็นพวกเหยียดชาติพันธุ์ และทำพฤติกรรมน่ารังเกียจอย่างการตะโกนว่า ไอลิง ไอลิง ไอลิง” อันเชลอตติกล่าว 

กุนซือชาวอิตาเลียนยิ่งเดือดดาลกว่าเดิม หลังจากนักข่าวชาวสเปนพยายามโต้แย้งความเห็นของเขาว่า “ก่อนหน้านี้คุณมีปัญหากับภาษาสเปน ผมจะบอกให้ แฟนบอลบาเลนเซียไม่ได้ตะโกนคำว่าลิงนะ (mono) เขาตะโกนคำว่า ‘งี่เง่า’ (tonto) ต่างหาก 

“ไม่ว่าจะเป็นคำว่า ‘ลิง’ หรือ ‘งี่เง่า’ แต่กรรมการควรหยุดเกมเพื่อจัดการกับพวกเหยียดเชื้อชาติ คุณคิดว่าถ้าพวกเขาพูดแค่คำว่า ‘งี่เง่า’ กรรมการจะหยุดเกมไหมครับ” อันเชลอตติเถียงในประเด็นนี้อย่างทันควัน

“ผมคุยกับวินีซีอุสในระหว่างเกม เพราะบรรยากาศมันรุนแรง มันแย่มากๆ ผมถามเขาว่า “คุณอยากเล่นต่อไหม”

“ความจริงคือ เขาคิดว่าผมต้องเปลี่ยนตัวเขาออก เพราะมลพิษที่เต็มไปด้วยการเหยียดเชื้อชาติ นั่นมันไม่ดีเลย

สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ มันเกิดขึ้นมาหลายครั้งในก่อนหน้าแล้ว แต่มันไม่เหมือนกับวันนี้ นี่เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ลาลีกามีปัญหา ไม่ใช่วินีซีอุส เขาเป็นแค่เหยื่อคนหนึ่ง ปัญหาของลีกนี้มันร้ายแรงอย่างเหลือเชื่อจริงๆ”  ผู้จัดการทีมราชันชุดขาวอธิบาย 

นอกจากนี้ ยังมีแข้งร่วมชาติคนอื่นๆ ที่ออกมาให้กำลังใจวินิซีอุสอย่างล้นหลาม ไม่ว่าจะเป็นคาเซมิโร (Casemiro) กัปตันป้ายแดงของทีมชาติบราซิล เอแดร์ มิลิเตา (Eder Militao) เพื่อนร่วมทีม รวมไปถึง ริชาร์ริซอน (Richarison) เพื่อนร่วมชาติบราซิล อีกทั้งรัฐบาลบราซิลเองก็ได้ออกมาเรียกร้องให้ทางการสเปนตรวจสอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะถือว่าเป็น ‘การโจมตีทางเชื้อชาติ’

“วินิซีอุสได้รับใบแดง เพราะไม่สามารถอดกลั้นต่อสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ใบแดงนั่นสมควรหยิบยื่นให้กับกลุ่มคนเหยียดเชื้อชาติมากกว่า” มาเรีย ลอรา ดา โรชา (Maria Laura da Rocha) รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศบราซิล แสดงความคิดเห็น

“มันไม่ยุติธรรมเลยสำหรับเด็กหนุ่มผู้น่าสงสารที่เขาชนะทุกอย่างในชีวิต เป็นหนึ่งในนักเตะที่เก่งที่สุดในโลก และเก่งที่สุดในเรอัลมาดริด แต่กลับได้รับการโจมตีจากสนามที่เขาไปเยือน” ลูลา ดา ซิลวา (Luiz Inácio Lula da Silva) ประธานาธิบดีบราซิล แสดงความคิดเห็นในการประชุม G7 โดยหวังว่า ฟีฟ่า (FIFA) ลาลีกา หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินมาตรการป้องกันการเหยียดเชื้อชาติและลัทธิฟาสซิสม์ รวมถึงเสริมว่า รัฐมนตรีหลายคนจะหนุนหลังแข้งคนสำคัญของราชันชุดขาว

“ก็เขายั่วยุคนอื่นก่อน” ถึง “การกระทำของเขาไร้รสนิยม” หลากคำวิจารณ์ของคนไม่เห็นด้วยกับการกระทำของวินีซีอุส 

แม้จะมีบางส่วนเห็นอกเห็นใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับวินีซีอุส แต่หลายคนสวนกระแส ออกโรงกล่าวโทษถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม อันเป็นต้นเหตุให้เกิดการดูหมิ่นเชื้อชาติ โดยเฉพาะกลุ่มรายการวิเคราะห์ฟุตบอลของสเปน ซึ่งมีความเห็นมากมาย

“เขาพูดกับแฟนบอลบาเลนเซียว่า พวกแกจะต้องตกชั้นแน่ (ในตอนที่เขาโดนไล่ออก)

“เราควรยืนหยัดต่อต้านการเหยียดสีผิวนะ แต่เราก็ควรพูดว่าเขาไม่ได้บริสุทธิ์ใสสะอาดขนาดนั้น เขาไม่ได้สมบูรณ์แบบ บางครั้งก็เขายั่วยุทีมอื่น

“หลังจากถูกเหยียดเชื้อชาติ เราสามารถบอกได้เลยว่าเขาไม่ใช่นักบุญ เขาทำผิดพลาดเสมอ”

“การเหยียดเชื้อชาติต่อวินีซีอุสไม่ถูกต้องก็จริง แต่เราควรย้อนดูพฤติกรรมของเขา” 

สำนักข่าวหนึ่งถึงกับพาดหัวว่า “วินีซีอุสกำลังอยู่ในศูนย์กลางของความขัดแย้งอย่างเงียบๆ” หลังจากหลายส่วนแสดงความคิดเห็นว่า พฤติกรรมของเขาที่กระทำต่อแฟนบอลบาเลนเซีย ‘ไร้รสนิยม’ มาก และกำลังระบายความโกรธแค้นในทางที่ผิด

รวมถึงประธานฟุตบอลลาลีกา จาเวียร์ เตบาส (Javier Tebas) ก็แสดงความคิดเห็นที่หลายคนมองว่ากำลังโยนความผิดให้เหยื่ออยู่

“สำหรับการอธิบายกับคุณว่า สิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไร และลาลีกาควรทำอย่างไรในการเหยียดเชื้อชาติ เรา (ลาลีกา) พยายามอธิบายด้วยตัวเองแล้ว แต่คุณ (วินิซีอุส) ไม่ปรากฏตัวในวันที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกัน

“ก่อนจะมาวิจารณ์หรือใส่ร้ายลาลีกา คุณควรบอกตัวเองให้ปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสม @vinijr. อย่าให้ตัวเองโดนชักนำ และมั่นใจว่าคุณจะเข้าใจกันและกันเป็นอย่างดี รวมถึงงานที่พวกคุณต้องทำร่วมกันด้วย” เขาทวีตข้อความ

นั่นจึงทำให้แฟนบอลหลายคนทวีตข้อความด้วยความเดือดดาลว่า เตบาสกำลัง ‘Gaslighting’ หรือปั่นหัว และ ‘เบลมเหยื่อ’ (Victim Blaming) อยู่

“จาเวียร์ เตบาสกำลังปั่นหัว และโยนความผิดใส่วินีซีอุสอยู่ หรือแม้แต่นักข่าวก็บอกว่าแฟนบอลไม่ได้เหยียดผิว หรือตะโกนป่าวประกาศอะไรอย่างสักอย่างอยู่ นี่มันถอยหลังลงคลองสุดๆ ไม่มีพื้นที่สำหรับการเหยียดเชื้อชาติที่ไหนก็ตาม” แอ็กเคานต์ @CrisAlexESPN

จากวิลล์ สมิธ ถึงวินีซีอุส จูเนียร์: เมื่อความรุนแรงบดบังการกดทับประเด็นเหยียดเชื้อชาติ

เหตุการณ์ของวินีซีอุสทำให้ย้อนกลับไปนึกถึง ‘การตบหน้าสะเทือนโลก’ ในงานประกาศรางวัลออสการ์ปี 2022 หลังจาก วิลล์ สมิธ (Will Smith) ตบหน้านักแสดงตลก คริส ร็อก (Chris Rock) เมื่อเขาเอ่ยปากแซะ จาดา สมิธ (Jada Smith) นักแสดงสาวและภรรยาของวิลล์ ถึงอาการผมร่วง (Alopecia) เพราะความหมั่นไส้ เนื่องจากเธอเคยประกาศตนว่า จะไม่เข้าร่วมพิธีประกาศรางวัลออสการ์ เนื่องจากมีแต่คนขาวได้รับรางวัล 

แน่นอน พฤติกรรมดังกล่าวนำมาสู่ทั้งกระแสเห็นด้วยและข้อครหามากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การตราหน้าถึง ‘ผู้ชายผิวดำที่ใช้ความรุนแรง’

“เราไม่ยอมรับการใช้ความรุนแรงดังกล่าว”

“การลงไม้ลงมือไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้อง” ความคิดเห็นของชาวเน็ตผิวขาวในเหตุการณ์นั้น 

แม้ว่าการทำร้ายร่างกายไม่ใช่การกระทำที่เหมาะสม และสมควรกับการประณาม แต่นั่นก็ไม่ใช่ความชอบธรรมที่จะโยนความผิดต่อเหยื่อฝ่ายเดียวเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปฏิเสธไม่ได้ว่า นักแสดงตลกกำลังเหยียดเชื้อชาติด้วยอาการผมร่วงของจาดา ซึ่งเป็นหนึ่งในอาการของผู้หญิงผิวดำที่จะต้องพบเจอในชีวิต รวมถึงการลดทอนการต่อสู้ของคนผิวดำกับ ‘อภิสิทธิ์คนขาวในรางวัลออสการ์’ หลังจากเขาถากถางว่า นักแสดงสาวออกมาแสดงความเห็นเป็นเพราะสามีของเธอไม่ได้เข้าร่วมชิงรางวัลในปี 2016 

เช่นเดียวกับวินีซีอุส จูเนียร์ หลายคนกลับมองว่า เขาแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม แฟนบอลบางกลุ่มถึงกับเอาคลิปวิดีโอที่เขากล่าวถ้อยคำหยาบคายกับกรรมการมาฉายซ้ำตอกย้ำว่า นี่คือพฤติกรรมอันไม่เหมาะสม และไม่คู่ควรกับเสื้อสีขาวของหนึ่งในสโมสรที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างเรอัลมาดริด

แต่หากมองย้อนดูดีๆ ประเด็นการใช้ความรุนแรงเหล่านี้ บดบัง ‘ความเจ็บปวด’ ต่อสิ่งที่พวกเขาเผชิญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่ามกลางมายาคติ ‘คนดำเป็นพวกหัวรุนแรง’ และถูกซ้ำเติมวาทกรรมจากการเรียกร้องของสังคมให้พวกเขา ‘ทำตัวเรียบร้อย’ และ ‘มีความอดทนอดกลั้น’ กับสิ่งที่เกิดขึ้นไปอย่างง่ายดาย

อีกทั้งยังปรากฏหลักฐานว่า วินีซีอุสก็เป็นเหยื่อการใช้ความรุนแรงของคนผิวขาวเช่นเดียวกัน หลังจากสหพันธ์ฟุตบอลสเปนและทีมผู้ตัดสินประกาศไล่ผู้ช่วยผู้ตัดสิน VAR ออกอย่างเป็นทางการ เพราะเลือกปฏิบัติ โดยไม่ยอมส่งภาพตอนที่อูโก ดูโร ล็อกคอแข้งบราซิลเลี่ยนแห่งเรอัลมาดริด ก่อนที่เขาจะลงไม้ลงมือตอบโต้ในเวลาต่อมา

การตัดสินครั้งนี้ ในมุมหนึ่งก็ถือเป็นเรื่องดีๆ ที่วินีซีอุสจะได้รับความยุติธรรมจากทางการฟุตบอลสเปน หรือได้รับความเห็นอกเห็นใจจากเพื่อนในวงการลูกหนังหรือแฟนบอลด้วยกัน 

แต่นั่นก็เป็นเรื่องราวส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีเหยื่อจากการเหยียดเชื้อชาติจำนวนมากที่ไม่ได้รับความยุติธรรม โดยเฉพาะการแปรเปลี่ยนความรุนแรงที่ได้รับเหลือเพียงการกระทำอันไร้วุฒิภาวะและบั่นทอนสติปัญญา ทันทีที่พวกเขาตัดสินใจปกป้องตนเอง

เพราะสุดท้ายแล้ว การเหยียดเชื้อชาติในวงการลูกหนังและเวทีดังระดับโลกเป็นเพียงสิ่งที่สะท้อนความคุกรุ่นต่อปัญหาความเกลียดชังทางเชื้อชาติที่ดำเนินอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่ได้จบลงที่การทะเลาะวิวาท แต่ยังรวมถึงความตายของผู้คนอีกด้วย

 

อ้างอิง

https://www.dailymail.co.uk/sport/football/article-12108803/Vinicius-Jr-shown-RED-CARD-striking-Hugo-Duro-claiming-racially-abused.html

https://www.reuters.com/sports/soccer/vinicius-jr-calls-laliga-spain-racist-chants-after-sending-off-2023-05-21/

https://www.mirror.co.uk/sport/football/news/vinicius-junior-racism-real-madrid-30039190

https://www.reuters.com/sports/soccer/brazil-condemns-racist-attacks-brazilian-player-spain-2023-05-22/

https://www.mirror.co.uk/sport/football/news/real-madrid-valencia-vinicius-racism-30037794

https://www.football.london/tottenham-hotspur-fc/news/richarlison-reece-james-vinicius-racist-26963955

https://www.sportbible.com/football/breaking-six-var-referees-sacked-vinicius-jr-valencia-767476-20230522

https://workpointtoday.com/will-smith-oscar/

https://www.theguardian.com/commentisfree/2022/mar/29/white-outrage-about-will-smiths-slap-is-rooted-in-anti-blackness-its-inequality-in-plain-sight

Tags: , , , , , , , , , ,