หลังผลการแข่งขันของทีมชาติไทยในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ไม่เป็นดั่งฝัน ด้วยการจบในตำแหน่ง ‘รองบ๊วย’ ของตาราง มีเพียง 9 คะแนนจากการลงสนามทั้งหมด 8 นัด ผลการแข่งขันเช่นนี้ก่อให้เกิดเสียงวิจารณ์หนาหูจากแฟนบอลเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะรูปแบบการเล่นและการเลือกนักเตะภายในทีมของ อากิระ นิชิโนะ เฮดโค้ชของทีมชาติไทย
หากมองในระดับอาเซียน การจบด้วยอันดับต่ำกว่ามาเลเซียและเวียดนาม ทีมเพื่อนบ้านที่ครั้งหนึ่งเคยมีศักยภาพทัดเทียม เคยไล่บี้กันอย่างสูสีมาโดยตลอด ทว่าในทัวร์นาเมนต์นี้พวกเขาแสดงให้เห็นแล้วว่า คุณภาพของคู่แข่งทั้ง 2 ทีมนี้อยู่ในระดับที่ ‘เหนือกว่า’ เราอย่างชัดเจน
เกิดอะไรขึ้นกับทีมชาติไทย? ทำไมวงการฟุตบอลไทยถึงปล่อยให้ทีมเพื่อนบ้านพัฒนาแซงหน้าไปได้ The Momentum ชวน ‘เจ’ – วรปัฐ อรุณภักดี แฟนบอลชาวไทยเจ้าของเพจ คิดไซด์โค้ง มาพูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก ที่จะสะท้อนถึงวิธีคิดและปัญหา ที่ทำให้วงการฟุตบอลไทยยังย่ำอยู่กับที่
ผลงานของ ‘ทีมชาติไทย’ ในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก
หลังจากที่ อากิระ นิชิโนะ เฮดโค้ชของทีมชาติไทยได้เรียกนักเตะติดทีมชาติมากกว่า 42 คน วรปัฐชวนมองถึงความสมเหตุสมผลของจำนวนนักเตะในทีมว่าจะส่งผลดีผลเสียอย่างไรบ้าง เขายังวิเคราะห์เรื่องการใช้นักเตะของนิชิโนะที่ถูกมองว่า ‘กินบุญเก่า’ ด้วยการเลือกนักเตะจากความสำเร็จในอดีตของตัวเองเพียงเท่านั้น ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนแผนการเล่นให้เข้ากับสถานการณ์ของทีมแต่อย่างใด
“สิ่งที่ผมมองว่าเป็นปัญหามากที่สุดคือการจัดตัวผู้เล่น โค้ชนิชิโนะมีปัญหาในการเลือกผู้เล่นให้เข้ากับระบบของเขา อันดับแรกคือจำนวนผู้เล่นที่ถูกเลือก ทีมชาติไทยชุดสู้ศึกฟุตบอลโลกครั้งนี้ มีนักเตะอยู่ในทีมมากถึง 42 คน ได้ยินตอนแรกอาจจะดีใจตรงที่เรามีตัวเลือกใช้งานเยอะ แต่การทำแบบนี้สำหรับผมมันเป็นดาบสองคม เพราะสิ่งที่ตามมาคือนิชิโนะต้องตอบคำถามให้ได้ว่าเขาเลือกนักเตะเยอะขนาดนี้ไปทำไม จะได้ใช้งานทั้งหมดจริงหรือ เพราะการทำแบบนี้มันจะมีปัญหาตามมา โดยเฉพาะจำนวนสตาฟฟ์ที่ไม่สามารถดูแลนักเตะได้เพียงพอ
“นอกจากนี้ยังมีเรื่องความพร้อมของทีมชุดนี้ ปัญหามันสืบเนื่องมาตั้งแต่ที่ไทยลีกเลือกที่จะเปิดฤดูกาลตามลีกยุโรปแล้ว นักเตะที่เพิ่งเล่นให้กับสโมสรจนปิดฤดูกาล เขาจะมีความเหนื่อยล้ามาก อีกทั้งทีมชาติชุดนี้เองก็ยังมีเวลาเตรียมตัวกันแค่ 2 อาทิตย์เท่านั้น แบบนี้จะไปเรียกความฟิตของนักเตะให้กลับมาสมบูรณ์ได้อย่างไร
“แล้วพอไปถึงที่ยูเออี (สหรัฐอาหรับอามิเรตส์ สนามที่จัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก) พร้อมกับนักเตะจำนวนมากขนาดนี้ ปัญหาที่ตามมาคือ คุณภาพในการดูแลนักเตะของทีมงานและสตาฟฟ์โค้ช มีการเปิดเผยว่าระบบการซ้อมในช่วงนั้น การสื่อสารกันเป็นไปอย่างมีสุญญากาศ นักฟุตบอลไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องทำอะไรบ้างในแต่ละวัน บางวันต้องนั่งรอโปรแกรมการซ้อมกันจนถึงเที่ยงคืน ซึ่งตัวโปรแกรมเองก็เป็นเพียงแค่การสลับรูปแบบการซ้อมจากข้อ 1 เป็นข้อ 3 จากข้อ 3 เป็นข้อ 2 เท่านั้นเอง ไม่มีการประยุกต์ให้เข้ากับนักเตะหรือรูปแบบการเล่นในแต่ละนัดเท่าไร
ผู้ก่อตั้งเพจเฟซบุ๊ก ‘คิดไซด์โค้ง’ มองว่า ตัวนักเตะเองก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญของความล้มเหลวในครั้งนี้
“ต้องออกตัวก่อนว่า ผมยอมรับและเข้าใจดีว่านักเตะทุกคนที่ติดทีมชาติคือยอดฝีมือ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือการเลือกใช้ตัวผู้เล่นที่อาจจะดีไม่พอ ปัญหาของนิชิโนะอย่างหนึ่งคือเขามักจะใช้ผู้เล่นคนเดิมที่เคยเลือก คนเดิมที่เคยพอใจ โดยไม่คำนึงด้วยซ้ำว่ารูปแบบการเล่นจะเปลี่ยนไปอย่างไร หรือความฟิตของนักเตะเหล่านั้นสมบูรณ์หรือเปล่า
“กรณีที่น่าสนใจคือ เอกนิษฐ์ ปัญญา เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่ถูกเพ่งเล็งว่าร่างกายยังไม่พร้อม ตอนที่เล่นกับสโมสรเชียงราย ยูไนเต็ดก็มีอาการบาดเจ็บไปเป็นปี แล้วเพิ่งหายเจ็บกลับมาเล่นช่วงท้ายฤดูกาลเท่านั้น และที่สำคัญ เขาก็ไม่ใช่นักเตะตัวหลักของเชียงรายด้วย หรืออย่าง สุพรรณ ทองสงค์ จากสโมสรสุพรรณบุรี ทีมหนีตกชั้น และสถาพร แดงศรี จากสโมสรตราดเอฟซีที่ตกชั้นไปแล้ว เหล่านี้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสงสัยไม่น้อยของนิชิโนะ
“ผมไม่ได้บอกว่านักเตะเหล่านี้ไม่เก่ง แต่คุณสมบัติมันไม่เพียงพอที่จะเล่นให้กับทีมชาติไทยชุดนี้ หากคุณต้องการนักเตะชุดที่ดีที่สุดในประเทศ การที่คุณเลือกนักเตะจากทีมเหล่านี้ แล้วมองข้ามนักเตะจากทีมที่ประสบความสำเร็จ มันก็ต้องถูกตั้งคำถามเป็นธรรมดา”
วรปัฐยังอธิบายถึงปัญหาของทีมชาติไทยที่ขาดนักเตะตัวเก่งที่ค้าแข้งอยู่ในต่างประเทศอย่าง ธีราทร บุญมาทัน ที่เล่นให้กับโยโกฮามะ เอฟ มารินอส ซึ่งหากธีราทรกลับมาเล่นให้กับประเทศไทย ก็จะต้องหมดสิทธิ์เล่นให้กับต้นสังกัดหลายนัด ทั้งช่วงเวลาที่ต้องกักตัว และช่วงที่ต้องฟิตพร้อมกว่าจะได้ลงตัวจริงให้กับสโมสร ดังนั้น เมื่อคำนวณถึงความปลอดภัยและโอกาสในการค้าแข้ง ธีราทรจึงปฏิเสธข้อเสนอในการติดทีมชาติจากโค้ชนิชิโนะ
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีเสียงวิจารณ์แบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของธีราทร แต่วรปัฐก็เข้าใจและยอมรับการตัดสินใจของนักฟุตบอลผู้นี้ อีกทั้งยังมองว่าโค้ชที่มีความสามารถนั้นจำเป็นต้องหาทางแก้ไขเพื่อรักษามาตรฐานของทีมชาติเอาไว้ให้ได้ แม้จะขาดนักเตะคนใดคนหนึ่งไป
“ปัญหาเรื่องการขาดนักเตะกำลังสำคัญเช่น ธีราทร บุญมาทัน หรือแม้กระทั่ง ธีรศิลป์ แดงดา และชนาธิป สรงกระสินธ์เองก็ตาม ผมมองว่ามันเป็นหน้าที่ของโค้ชที่มีความสามารถ ที่แม้จะหาผู้เล่นที่มีความสามารถทัดเทียมได้ยาก แต่ก็ควรมีระบบและแผนการเล่นที่ทำให้ผู้เล่นคนที่เหลือสามารถแสดงศักยภาพออกมาได้ดีกว่าที่เห็นอยู่ทุกวันนี้”
ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร ผู้เล่นที่สะท้อนให้เห็นความกระตือรือร้นในของฟุตบอลไทย
อีกหนึ่งประเด็นร้อนสำหรับทีมชาติไทยในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกที่ผ่านมา คือการเรียก ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร นักเตะลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส ที่มีดีกรีถึงกองกลางของสโมสรเลสเตอร์ซิตี้ ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ด้วยสภาพแวดล้อมและการฝึกซ้อมที่ดูเหมือนว่า ‘ต้นทุน’ จะดีกว่านักเตะไทยคนอื่นๆ ทำให้ธนวัฒน์มีลีลาการเล่นที่โดดเด่นกว่าผู้เล่นคนอื่นๆ ทั้งพละกำลัง วิสัยทัศน์ในการอ่านเกม จนกลายเป็นความหวังสำคัญสำหรับทีมชาติไทยในครั้งนี้
แต่ขณะเดียวกัน ธนวัฒน์ก็เป็นดาบสองคมที่กำลังทิ่มแทงทีมชาติไทย เพราะในขณะที่ตัวเขากำลังวาดลวดลายบนสนาม บ่อยครั้งผู้เล่นในทีมคนอื่นๆ ก็ตามเกมฟุตบอลของธนวัฒน์ไม่ทัน จนกลายเป็นที่ถกเถียงว่า ฟุตบอลที่เล่นเป็นทีม แต่กลับมีนักเตะหนึ่งคนที่เล่นไม่เข้ากับเพื่อนร่วมทีม แม้จะเล่นดีกว่าก็ตาม เป็นเรื่องเหมาะสมหรือไม่
“ผมมองว่าธนวัฒน์ก็ต้องปรับตัวเข้าหาเพื่อน นักฟุตบอลที่เก่งและเซนส์ดีจริงๆ คือคนที่ต้องเล่นร่วมทีมได้กับทุกคนไม่ว่าจะเป็นใคร แต่ต้องยอมรับว่าเด็กคนนี้พื้นฐานดีกว่าทุกคนจริงๆ ซึ่งเป็นผลประโยชน์จากการเติบโตในระบบที่เอื้อต่อการเล่นฟุตบอล ทั้งการซ้อม การพัฒนาร่างกาย รวมถึงคุณภาพของพื่อนร่วมทีมและคู่แข่ง แต่การที่จะให้นักฟุตบอลอีก 10 คนที่เหลือปรับตัวตามเขาในช่วงฟุตบอลโลกที่มีเวลาเตรียมตัวไม่ถึง 2 อาทิตย์นั้นเป็นเรื่องที่ยาก ดังนั้น การให้เขาปรับตัวหาเพื่อนร่วมทีมจึงเป็นทางออกที่เหมาะสมที่สุดในสถานการณ์แบบนี้
“ในการแข่งขัน เราจะเห็นได้ว่าธนวัฒน์เคลื่อนที่เยอะมาก คอยเข้าไปช่วยต่อบอลกับเพื่อนในทุกตำแหน่ง แต่มันก็ทำให้ตำแหน่งที่เขาเล่นนั้นไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ยกตัวอย่างเกมที่เจอกับอินโดนีเซีย ซึ่งเขาเล่นตำแหน่งกองกลางตัวรุก แต่ในความเป็นจริง เขาต้องลงไปล้วงบอลจากแดนหลัง เมื่อบอลไม่สามารถเคลื่อนมาสู่แดนหน้าได้ นั่นเลยเป็นเหตุที่ทำให้ตำแหน่งกองกลางตัวรุกว่างไป และทำให้กองหน้าอย่าง อดิศักดิ์ ไกรษร มีโอกาสได้ครองบอลและทำประตูน้อยลง ดังนั้นในมุมกลับกัน หลังจากนี้ไทยก็ต้องพัฒนานักเตะให้ได้คุณภาพเทียบเท่ากับธนวัฒน์ด้วยเช่นกัน”
ฟุตบอลรุ่นใหญ่คือความสำเร็จเพียงชั่วครู่ หากคุณไม่มีรากฐานเยาวชนที่ดีในการต่อยอดมา
สุดท้าย วรปัฐได้อธิบายถึงปัญหาของฟุตบอลทีมชาติไทยในภาพรวม โดยยกตัวอย่างผลงานในการแข่งขันครั้งนี้ ที่สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาที่ฝังรากหยั่งลึกมายาวนาน กับการสร้างระบบเยาวชนแบบขอไปที ไม่มีการวางเป้าหมาย การวัดผล หรือการปรับเปลี่ยนที่แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการเท่าไรนัก
“ปัญหาของวงการฟุตบอลไทยแบ่งเป็น 2 ประเด็น อันดับแรกคือเราต้องหยุดคิดกันได้แล้วว่า การจ้างโค้ชชาวต่างชาติที่มีฝีมือจะช่วยยกระดับฟุตบอลไทยได้ทั้งวงการ เพราะถ้าความคิดแบบนี้ถูกฝังอยู่ในวงการฟุตบอลไทย เวลาที่ผลงานไม่ดี โค้ชก็จะเป็น ‘แพะ’ เพียงคนเดียวที่ถูกโจมตี แต่ในความเป็นจริง ปัญหามันฝังรากอยู่ในระบบตั้งแต่ไหนแต่ไร ก่อนที่โค้ชคนไหนๆ จะเข้ามาคุมทีมชาติไทยด้วยซ้ำ
“สิ่งที่ผมคาดหวังคือต้องรักษามาตรฐานให้ได้เสียก่อน อย่างเช่นผลงานระดับอาเซียนที่เป็นตัวเต็งมาตลอด แต่ปีนี้กลับไม่ได้เข้ารอบสุดท้ายเลยสักรุ่น ยกเว้นรุ่นอายุต่ำกว่า 23 ที่เราเป็นเจ้าภาพ มันเกิดอะไรขึ้น โครงสร้างมีปัญหาตรงไหน ระบบเยาวชนดีพอหรือยัง ซึ่งเหล่านี้จะสะท้อนให้เห็นเลยว่า การวางโร้ดแมปหรือประกาศว่าสมาคมฟุตบอลไทยกำลังดำเนินการอย่างไรนั้นมันไม่เพียงพอ มันต้องมีเป้าหมาย ต้องมีตัวชี้วัด เวลาล้มเหลวจะได้รู้ว่าแก้ตรงไหน ไม่ใช่เอะอะก็ไล่โค้ช โทษนักเตะกันลูกเดียว”
หลังจากนี้ ทีมชาติไทยภายใต้การคุมทีมของอากิระ นิชิโนะ จะได้สิทธิ์เข้าไปเล่นในศึกเอเอฟซี เอเชียน คัพ 2023 รอบคัดเลือก โดยจะทำการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ดังนั้น แฟนบอลชาวไทยจึงต้องติดตามกันต่อว่า ในอนาคตข้างหน้า จะมีการปรับเปลี่ยนนักเตะและแผนการเล่น รวมไปถึงเก้าอี้ตำแหน่งเฮดโค้ชหรือไม่
Tags: Game On, คิดไซด์โค้ง, ฟุตบอลไทย, ทีมชาติไทย, ฟุตบอล