ในปี 2549 เป็นอีกปีที่ฉันเกลียดมากและยังจำความรู้สึกได้จนถึงวันนี้ เพราะในโทรทัศน์จะมีรายการหนึ่งโผล่ขึ้นมาแทรกช่วงเวลาดูการ์ตูนในแต่ละวัน เป็นรายการที่น่าเบื่อ ไม่เคยอยากดู แต่ไม่อาจเปลี่ยนช่องหนีได้

ภาพคนยืนหรือนั่งเรียงหน้ากระดาน ณ ตอนนั้นรู้เพียงว่าเป็นทหารเพราะใส่เสื้อสีเขียว และรู้ว่าเป็นตำรวจจากเสื้อสีกากี 

โตมาพอรู้ความในปี 2557 ยิ่งเกลียดเข้าไปใหญ่ เพราะชีวิตช่วงวัยสาวของฉันเติบโตมาพร้อมกับมีมันอยู่ข้างๆ แม้ไม่เคยต้องการเลยก็ตาม และผลกระทบจากข้าราชการที่นั่งเรียงหน้ากระดานเหล่านั้นก็ยังฝากรอยแผลจน ณ วันนี้

ผลกระทบที่ว่านั้นกลายเป็นรอยแผลเหวอะหวะเกินกว่าจะอธิบายได้ในคราเดียว ทั้งผลกระทบด้านเศรษฐกิจ ความเชื่อมั่น การลงทุน และงบประมาณต่างๆ ถูกนำไปใช้กับการทหารมากขึ้น เช่น การซื้ออาวุธ รถถัง และเรือดำน้ำ หากให้ใกล้ตัวมาอีกสักนิด สภาพเศรษฐกิจที่คนรุ่นใหม่ตกงานมากมาย ก็เป็นแผลที่ฟกช้ำจากการรัฐประหารครั้งนั้น

ฉันเกิดปี 2540 เติบโตมาพร้อมกับประสบการณ์ฟังเพลงชาติมากกว่า 3 ครั้งต่อวัน แถมด้วยเพลงปลุกใจระหว่างวันอีกมากมาย เช่น แผ่นดินของเร เดินหน้าประเทศไทย และเพลงสรรเสริญพระบารมี 

แต่เมื่อไรกันที่เพลงชาติที่ควรเป็นของประชาชน กลับเปิดโดยคนที่หันกระบอกปืนมาหาประชาชน ซึ่งนับเป็นเรื่องตลก เพราะในแต่ละวันที่ต้องฟังหรือร้องเพลงชาติวันละหลายๆ ครั้ง ในขณะนั้นเองสิทธิเสรีภาพของเราก็ค่อยๆ มลายหายไป

ในปี 2559 ฉันโตขึ้น พอจะมีความรู้ ความเข้าใจบ้างในช่วงรัฐประหาร คสช. นอกจากความเสียหายในภาพใหญ่ของประเทศที่ไม่รู้ต้องใช้อีกกี่ปีในการฟื้นฟู ในขณะที่ประเทศย่ำแย่ ค่อยๆ ล่มจมอีกหนึ่งในความเจ็บปวดใกล้ตัวของฉัน คงหนีไม่พ้นการที่เพื่อนพ้องน้องพี่เริ่มถูกจับเข้าคุกทีละคนสองคน นานวันเข้าหลายคนก็ถูกขังลืมจนตอนนี้ยังไม่ได้รับการปล่อยตัว และมากไปกว่านั้นหลายคนต้องลี้ภัยไปต่างประเทศ ห่างบ้าน ไกลครอบครัวและเพื่อนฝูง เพื่อดิ้นรนให้มีชีวิตรอดหลังการรัฐประหาร

ความทรงจำของฉันเป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งในความทรงจำร่วมในเหตุการณ์รัฐประหารเพียง 2 ครั้ง แต่ ณ วันนั้นจนถึงตอนนี้ ความรู้สึกยังเหมือนเดิม เหมือนในแง่ที่ว่า ประเทศไทยแม่งไม่ไปไหนเลย คล้ายกับการเดินไปข้างหน้า 1 ก้าว และถอยหลัง 5 ก้าว

จากเหตุการณ์การเมืองในปัจจุบัน ที่มีคนบางกลุ่มออกมาให้ความเห็นว่า ต้องแก้ปัญหาความผิดพลาดของรัฐบาลด้วยการ ‘รัฐประหาร’ หรือใช้นิติรัฐประหารในการจัดการ 

ฉันขอยืนยันและใช้พื้นที่นี้ส่งเสียงว่า การเรียกร้องให้มีรัฐประหารไม่ใช่ทางออก เพราะการกระทำดังกล่าวขัดกับรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข และจะส่งผลถึงปัญหาในวงกว้างทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มอำนาจให้กับคนเพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอีกด้วย

ฉันเกิดปี 2540 ส่วนคนที่เกิดก่อน คงเผชิญเหตการณ์รัฐประหารอื่นๆ มาแล้ว ท่านคงทราบกันดีว่า ผลของการรัฐประหารนั้นเลวร้ายเพียงไร ส่วนคนที่ยังสนับสนุนรัฐประหาร และเรียกร้องให้ทหารลงถนน บางครั้งลองนึกย้อนดูสักนิด ถ้ามันดีจริงทำไมต้องเกิดซ้ำๆ เกิดขึ้นอีกแทบจะทุกสิบปี 

ฉันเกิดปี 2540 ช่วงชีวิตนี้ขอให้ไม่เจอรัฐประหารอีก

และขอให้นับจากนี้ อำนาจการปกครองแผ่นดินกลายเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง

Tags: , , , , ,