เสียงร้องไห้โวยวายลั่นบ้านของหลานวัยอนุบาล-ประถม คงมีแต่คุณน้าคุณอาที่แอบอมยิ้มอยู่ข้างๆ ในฐานะจำเลย โทษฐานทำหลานร้องไห้ ชวนให้สมาชิกในครอบครัวปวดหัวกับการแกล้งกันของน้า-หลานที่เป็นเหมือนเพื่อนต่างวัย จนต้องห้ามปรามด้วยประโยคที่เหล่าน้าอาได้ยินบ่อยๆ คือ ‘เล่นกันดีๆ ได้ไหม’ หรือ ‘อย่าแกล้งหลาน’

สถานการณ์ข้างต้นเกิดขึ้นในหลายครอบครัวที่มีพี่สาวพี่ชายแต่งงานมีลูกไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนผู้เป็นน้องก็ทำหน้าที่ช่วยดูแลหลานแบบเลี้ยงไปเล่นไป และเมื่อหลานเข้าสู่วัยที่ต่อกรกับเราได้ เราก็เริ่มอยากหยอกอยากแกล้ง เช่น จูงมือพากันออกไปซื้อขนม แต่แกล้งบอกว่าให้หลานจ่ายเงินเอง หรือนอนดูทีวีด้วยกันแต่ดันเปิดเรื่องผีแกล้งหลาน ตอนแรกเล่นกันอยู่ดีๆ แต่ก็อยากแกล้งให้ร้องไห้ซะงั้น เพราะน้ำตาเด็กมันช่างหอมหวานยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด

ต้องบอกว่า การแกล้งให้หลานร้องไห้ไม่ได้หมายความว่า ต้องการสร้างปมในใจให้หลานแต่อย่างใด เพราะเป็นการแกล้งแบบที่น้าอาเปลี่ยนสถานะตัวเองให้เป็นเพื่อนหลาน และทำตัวเป็นเด็กในร่างผู้ใหญ่ อีกทั้งในมุมมองของหลานบางคนก็คิดว่า น้าเรามีอายุสมองเท่ากัน ไม่ได้มองเป็นผู้ใหญ่เสียด้วยซ้ำ

ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือ ทำไมน้าจึงทำตัวเป็นเด็กเพื่อเล่นกับหลาน

เพราะบางทีน้าอาเองก็เพิ่งผ่านพ้นวัยเด็กมาหมาดๆ การได้เล่นสนุกกับหลานแบบเด็กๆ จึงไม่ใช่เรื่องแปลก แถมบางคนก็อยากย้อนวัยกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง

พฤติกรรมเลียนแบบเด็กๆ ของน้าอาเลยกลายเป็นเรื่องน่าเอ็นดูในสายตาคนในบ้าน ซึ่งไม่ได้ถูกมองว่าไร้สาระเลยสักนิด! ที่สำคัญการมีเด็กเล็กๆ ในบ้านทำให้บรรยากาศคึกคักมีชีวิตชีวาขึ้นเป็นกอง ความน่ารักไร้เดียงสาของเจ้าตัวเล็กช่วยให้ทุกคนในบ้านสดชื่นหัวใจ โดยเฉพาะน้าอาที่ไม่ได้มีภาระต้องเลี้ยงดูมากมายเหมือนพ่อแม่ เลยยิ่งผ่อนคลายและสนุกกับการเล่นกับหลานได้อย่างสบายใจ

คำถามถัดไปคือ เล่นกันปกติได้ไหม ทำไมต้องทำให้หลานมีน้ำตา

รู้ไหมว่าบางทีที่เด็กๆ ร้องไห้ ไม่ใช่เพราะเศร้าหรือต้องการความช่วยเหลือเสมอไป แต่เป็นเพราะเขายังไม่รู้วิธีแสดงอารมณ์ที่หลากหลายต่างหาก และแม้ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่นอนว่า ทำไมเรารู้สึกดีตอนเห็นเด็กร้องไห้ และสิ่งนี้เป็นความผิดปกติของมนุษย์หรือไม่ แต่บางคนก็มองว่า ‘ความฟิน’ นี้อาจเป็นการชำระแค้นในวัยเด็กก็เป็นได้ จากน้องที่เคยโดนพี่แกล้ง เมื่อพี่มีลูกจึงหันมาแกล้งลูกของพี่แทน (แน่นอนว่าเป็นการแกล้งแบบน่ารักๆ ไม่ได้ทำร้ายรุนแรง) ทว่าการแกล้งเด็กในบ้าน ไม่ได้เกิดขึ้นแค่กับความสัมพันธ์น้าหลานเท่านั้น

แกล้งเด็กแล้วสนุก ทำไมพ่อแม่ชอบแกล้ง

เพราะพ่อแม่หลายบ้านก็ชอบแกล้งลูกอยู่บ่อยครั้ง เพื่อทดสอบว่าเด็กจะตอบสนองต่อสถานการณ์ต่างๆ อย่างไร ซึ่งเราจะได้เห็นคลิปแกล้งลูกของพ่อแม่ในโซเชียลมีเดียมากมายจากคนหลากหลายเชื้อชาติ

อย่างชาเลนจ์ ‘Poop Prank’ ใน Tiktok ที่เอาเนยถั่วหรือช็อกโกแลตมาป้ายบนร่างกายลูก แล้วแกล้งบอกลูกว่า นี่คืออุจจาระ หรือเสิร์ชใน Tiktok ว่า ‘Toddler Prank’ จะพบเจอคลิปแกล้งเด็กมากมายที่มาจากครอบครัวยิ่งสะท้อนว่า พฤติกรรมชอบแกล้งลูกหลานไม่ได้เป็นแค่คนไทยเท่านั้น 

แต่บางครอบครัวก็แกล้งจนเกินพอดี อย่างชาเลนจ์ ‘Cracking Prank’ ตอกไข่ไก่บนหน้าผากของเด็กที่ได้รับการวิจารณ์อย่างหนัก เพราะเป็นการแกล้งที่ทำลายความเชื่อใจของลูก 

อย่างไรก็ตาม ถึงน้าอาจจะห้ามความรู้สึกอยากแกล้งหลานไม่ได้ แต่ควรตระหนักถึงจิตใจของเด็กเสมอ ต้องไม่ใช่การแกล้งที่สร้างปมในใจ

นอกจากนี้ในอีกแง่หนึ่ง การแกล้งอาจเป็นการสร้างความผูกพันในช่วงเวลาที่ยังทำได้ เพราะบรรดาน้าอาคงแกล้งหลานตัวเองได้แค่ไม่กี่ปี เมื่อหลานเริ่มโตก็เริ่มรู้ทันและไม่ยอมตกเป็นเหยื่ออีกต่อไป หรือวันหนึ่งที่น้ามีลูกเป็นของตัวเองและหลานเข้าสู่วัยรุ่น มุมมองที่มีต่อน้าอาก็เปลี่ยนไปด้วย จากเคยคิดว่าเป็นเพื่อนกันก็เข้าใจว่า เป็นความสัมพันธ์ระดับที่ต้องให้ความเคารพ และอาจห่างเหินกันไปโดยปริยาย

Tags: , , , ,