ยุโรปเจอคลื่นความร้อนรอบสอง ปารีส เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี เบลเยียม ทุบสถิติร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์

หลังจากยุโรปเพิ่งจะเจอคลื่นความร้อนที่สูงที่สุดในรอบ 16 ปี เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ล่าสุด คลื่นความร้อนระลอกสองปกคลุมทวีปยุโรปอีกครั้ง อุณหภูมิสูงสุดทำลายสติถิของเดือนมิถุนายน

โดยเฉพาะที่ปารีสในวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีอุณหภูมิสูงถึง 42.6 องศาเซลเซียส ทุบสถิติกลายเป็นวันที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ของปารีสไปเลยทีเดียว ในขณะที่อุณหภูมิสูงสุดทั้งประเทศที่เคยบันทึกไว้ได้อยู่ที่ 46 องศาเซลเซียส ในแถบหมู่บ้าน Verargues ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส

เช่นเดียวกับเนเธอร์แลนด์ที่มีอุณหภูมิสูงถึง 39.4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุดที่เคยบันทึกไว้ได้คือ 38.6 องศาเซลเซียส ในปี 1944 เยอรมนีวัดอุณหภูมิสูงสุดได้ถึง 40.5 องศาเซลเซียส ณ เมือง Geilenkirchen ซึ่งสูงกว่าที่เคยวัดได้ 40.3 องศาเซลเซียสที่แคว้นบาวาเรียในปี 2003 และเบลเยียมวัดอุณหภูมิสูงสุดได้ 40.4 องศาเซลเซียสในเมือง Bertem

ในขณะที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษมีรายงานว่าบริเวณสนามบินฮีทโธรว์มีอุณหภูมิสูงถึง 36.8 องศาเซลเซียส ในขณะที่แถบเคมบริดจ์นั้นสูงถึง 38 องศาเซลเซียส แม้จะไม่ใช่วันที่อากาศร้อนที่สุดเท่าที่เคยบันทึกไว้ได้ แต่ก็ถือว่าเป็นวันที่อากาศร้อนที่สุดอันดับสองในประวัติศาสตร์อังกฤษเลยทีเดียว

ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับสถิติในอดีต มีการคาดการณ์ว่าอาจมีประชาชนอย่างน้อย 5 คนในฝรั่งเศสที่เสียชีวิตจากเหตุคลื่นความร้อนในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม แต่ละประเทศได้มีมาตรการช่วยเหลือประชาชนทั้งการแจ้งเตือน เฝ้าระวัง รวมไปถึงบริการต่างๆ การเปิดสปริงเคิลน้ำ ลานน้ำพุหรือให้บริการน้ำดื่มในที่สาธารณะ แม้กระทั่งการแบนการขนส่งสัตว์ในช่วงเวลากลางวันในฝรั่งเศส เพื่อป้องกันการเสียชีวิตที่อาจจะเกิดขึ้นในระหว่างการขนส่ง