เชื่อว่าหลายคนรอคอยภาพยนตร์จากฝีมือ พัค ชานอุค (Park Chan-Wook) ผู้กำกับชาวเกาหลีใต้ ที่ฝากผลงานน่าจดจำอย่าง Decision to Leave (2022) และ The Handmaiden (2016) ซึ่งในปีนี้เขาได้กลับมาพร้อมภาพยนตร์แนวตลกร้ายเรื่อง No Other Choice นำแสดงโดย อี บยองฮอน (Lee Byung-Hun) และซน เยจิน (Son Ye-Jin) โดยทั้งคู่รับบทเป็นสามีภรรยากัน 

ภาพยนตร์เรื่องนี้ปรับบทมาจากนวนิยายในปี 1997 เรื่อง The Ax ของ โดนัลด์ อี เวสต์เลค (Donald E. Westlake) นักเขียนชาวอเมริกัน ซึ่งได้ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์สัญชาติฝรั่งเศสแล้วครั้งหนึ่งโดย คอสตา กาวราส (Costa-Gavras) ในชื่อเรื่อง The Axe (2005) 

สำหรับ No Other Choice เล่าเรื่องราวของชายวัยกลางคนที่ทำงานในโรงงานกระดาษมาทั้งชีวิต และเป็นบุคคลสำคัญในวงการกระดาษ แต่ชีวิตผกผันเมื่อการควบรวมกิจการทำให้เขากลายเป็นคนตกงาน ในฐานะหัวหน้าครอบครัวที่ต้องหาเลี้ยงสมาชิกทั้งภรรยา ลูกชาย ลูกสาว กับหมาอีก 2 ตัว เขาใช้ความพยายามหางานทำในโรงงานกระดาษแห่งอื่นเป็นเวลาหลายเดือน จนกระทั่งเจอตำแหน่งที่เหมาะสม ทว่าตำแหน่งนี้มีผู้สมัครคนอื่นที่เขาอาจสู้ไม่ได้ เขาจึงไม่มีตัวเลือกอื่นนอกจากตามเก็บผู้สมัครที่เหนือกว่า

ความสนุกของภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ที่การชวนคนดูตั้งคำถามว่า ไม่มีตัวเลือกอื่นแล้วจริงหรือ ต้องละทิ้งความมนุษย์เลยหรือ เพราะตัวละครหลักทะนงในตัวตนของตัวเองที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกระดาษ จนลืมไปว่าตนเองมีความสามารถด้านอื่น และยังมีลู่ทางอื่นอีกมากมาย

หนังไม่เพียงแค่สื่อสารเรื่องการต่อสู้แก่งแย่งตำแหน่งงานอย่างตรงไปตรงมา อีกหนึ่งความน่าสนใจของหนังตลกร้ายเรื่องนี้ คือการสะท้อนภาพของระบบปิตาธิปไตย หรือชายเป็นใหญ่ในมิติครอบครัว

เมื่อครอบครัวเผชิญวิกฤต สามีภรรยาควรช่วยกันคิดวิถีทางรอดเพื่อผ่านพ้นปัญหาไปด้วยกัน ทว่าสามีในเรื่องกลับติดหล่มคำว่า ‘หัวหน้าครอบครัว’ หรือ ‘ช้างเท้าหน้า’ หากภรรยาเริ่มก้าวเข้ามาช่วยเสนอทางเลือกแก้ปัญหา กลับกลายเป็นการสั่นคลอนความเป็นชายในตัวสามี เขาจึงต้องการแบกรับทุกอย่างไว้บนบ่าตนเองแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเป็นการกระทำที่ลดทอนบทบาทของผู้หญิงในครอบครัว ไม่ว่าสามีจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม

นอกจากนี้ในทัศนะของผู้เขียนมองว่า ‘บอนไซ’ ต้นไม้ที่สามีปลูกเลี้ยงไว้เต็มบ้าน กระทั่งสร้างโรงเรือนเพาะเลี้ยงในบริเวณบ้านแฝงสัญญะของการ Manipulate หรือบงการ ควบคุม จัดการสมาชิกในครอบครัวเอาไว้ด้วย เนื่องจากการบอนไซต้นไม้ต้องใช้คำว่า ‘เลี้ยง’ ไม่ใช่การปลูกต้นไม้ทั่วไปที่แค่รดน้ำ ใส่ปุ๋ยแล้วปล่อยให้เจริญเติบโตตามธรรมชาติ หากแต่ต้องดัดด้วยลวดให้เติบโตไปในทิศทางที่ต้องการ หรือเป็นทรวดทรงที่ผู้เลี้ยงชื่นชอบ นี่อาจสะท้อนถึงนิสัยเจ้าบงการแบบลับๆ ของสามี แม้ฉากหน้าจะดูเป็นพ่อและสามีผู้ใจเย็น แต่เขาค่อยๆ กระทำบางอย่างที่กัดเซาะความมั่นใจของสมาชิกในครอบครัว กดให้อยู่ภายใต้อำนาจของตนเองอย่างค่อยเป็นค่อยไป 

มีภาพยนตร์หลายเรื่องที่ตัวละครหลักนิสัยไม่ดี กระทั่งเลวร้าย บางเรื่องอาจทำให้คนดูกลืนไม่เข้าคายไม่ออก และน้ำท่วมปาก แต่ก็ด่าตัวละครไม่ลงเมื่อได้รู้แรงขับเคลื่อน เห็นแง่งามหรือความดีแม้เพียงน้อยนิดแต่กล่าวได้ว่าเนื้อหาของ No Other Choice อาจเปิดโอกาสให้คนดูได้ระบายอารมณ์ใส่ตัวละครอย่างเต็มที่

อย่างไรก็ตาม No Other Choice เป็นหนังอีกเรื่องหนึ่งที่ควรค่าแก่การชมสักครั้ง เพราะได้คว้ารางวัลจากเทศกาลภาพยนตร์หลายแห่ง เช่น เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติสตอกโฮล์ม (Stockholm International Film Festival) เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตรอนโต (Toronto International Film Festival) เทศกาลภาพยนตร์แอดิเลด (Adelaide Film Festival)

สำหรับประเทศไทย ในเวลานี้สามารถชมในโรงภาพยนตร์บางแห่ง เช่น House Samyan 

Tags: , , , ,