ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญของวงการดนตรี หลังสมาชิกวง Oasis ทั้ง เลียม กัลลาเกอร์ (Liam Gallagher) และโนล กัลลาเกอร์ (Noel Gallagher) ตัดสินใจกลับมาร่วมแสดงดนตรี และเตรียมจัดคอนเสิร์ตรียูเนียน เป็นทัวร์ทั่วยุโรปและสหรัฐฯ สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนๆ ชาวบริตป็อป (BritPop) เป็นอย่างมาก
หากมีอะไรสักอย่างที่ช่วยพาสองพี่น้องตระกูลกัลลาเกอร์กลับมาได้ วันนี้พิสูจน์แล้วว่า คงเป็นดนตรีที่พวกเขารัก ทว่าอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นเหมือนความสนใจร่วม เป็นสิ่งที่พวกเขาจะไม่มีวันทะเลาะกันด้วยเช่นกัน คือความรักที่มีสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้ (Manchester City) ทีมฟุตบอลในเมืองเกิดที่พวกเขาหลงรักมาตั้งแต่เด็ก
ความรักของเลียมและโนลที่มีต่อทีมเรือใบสีฟ้า ชัดเจนจนถึงขนาดที่หลังประกาศรวมวง โซเชียลมิเดียของสโมสรถึงกับทำวิดีโอโปรโมต ด้วยไฮไลต์แมตช์การแข่งขันที่แมนฯ ซิตี้ เอาชนะแอสตันวิลล่า (Aston Villa) ในนัดสุดท้ายของพรีเมียลีกฤดูกาล 2021-22 ซึ่งถือเป็นการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ ไม่ต่างกับการกลับมาของวง Oasis ในครั้งนี้
ย้อนกลับไปจุดเริ่มต้นของเรื่องราว โนลเคยเล่าผ่านสื่อว่า จุดเริ่มต้นของการเชียร์แมนฯ ซิตี้เป็นเพราะ โทมัส กัลลาเกอร์ (Thomas Gallagher) ผู้เป็นพ่อ ชวนไปดูการแข่งขันทีมโปรดของพวกเขา
“ต้องย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 1971 เลยนะ ตอนนั้นพ่อของพวกเราพาไปดูเกมระหว่างแมนเชสเตอร์ซิตี้ กับนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ที่สนามเมนโร้ด (Maine Road) คือตอนนั้นแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (Manchester United) ยังเล่นในดิวิชั่น 2 อยู่เลย ส่วนแมนเชสเตอร์ซิตี้ตอนนั้นเป็นทีมชั้นนำของเมืองมาตลอด”
แต่หลังจากนั้นไม่นาน หลัง Oasis ประสบความสำเร็จกับอัลบั้ม Definitely Maybe (1994) และ (What’s the Story) Morning Glory? (1995) กลับเป็นช่วงเวลาที่แมนฯ ยูไนเต็ดก้าวขึ้นมาเป็นสโมสรชั้นนำของโลกและเมืองแมนเชสเตอร์ ภายใต้การคุมทีมของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน (Sir Alex Ferguson) ทำให้เขาถึงกับเปรยว่า เป็นความผิดของพ่อที่ทำให้เขาเชียร์และหลงรักสโมสรเรือใบสีฟ้า
“ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ที่แมนเชสเตอร์ซิตี้ต้องดิ้นรน แต่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดกลับเป็นทีมชั้นนำ ทำให้บางทีผมก็สงสัยเหมือนกันนะว่า ทำไมพ่อถึงพาผมไปที่เมนโร้ดแทนที่จะเป็นสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด
“ส่วนเหตุผลที่พ่อของผมเชียร์แมนฯ ซิตี้ แทนที่จะเป็นแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เพียงแค่พ่อผมเกลียดพี่น้องของตัวเองที่เชียร์ยูไนเต็ด เลยตัดสินใจเชียร์แมนฯ ซิตี้แทน เพราะแค่อยากสร้างความไม่พอใจให้กับพวกเขาเท่านั้นเลย ทั้งที่ความเป็นจริงผมกับเลียมควรจะเชียร์แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด หากพิจารณาจากการเชียร์ฟุตบอลของตระกูลเรา”
ถึงแม้จะบอกว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดูไม่เต็มใจเท่าไรนัก แต่พวกเขายังเป็นแฟนบอลเดนตาย เชียร์สโมสรอันดับ 2 ของเมืองแมนเชสเตอร์ในขณะนั้น และมีโอกาสได้ร่วมงานกับสโมสรมาโดยตลอด เช่นในฤดูกาล 2011-12 เลียมมีโอกาสถ่ายโปรโมตชุดทีมเหย้าของ Umbro ให้กับสโมสร หรือการที่โนลได้เป็นนายแบบให้กับชุดเหย้าและชุดเยือนของทีมชายร่วมกับ แวงซองต์ กอมปานี (Vincent Kompany) นักเตะคนเก่งของทีมในฤดูกาล 2012/13
รวมถึงการที่ทั้งคู่สวมชุดของสโมสรแมนฯ ซิตี้ในกิจกรรมต่างๆ หลายครั้ง เช่น การถ่ายภาพร่วมกับเควิน คัมมิงส์ (Kevin Cummings) ที่ทั้งคู่สวมเสื้อของสโมสรพร้อมโพสท่าทางหน้าป้ายโฆษณา แสดงเจตจำนงชัดแจ้งว่า เป็นแฟนฟุตบอลทีมไหน รวมถึงการสวมชุดใน ‘Soccer Six’ แมตช์ฟุตบอลการกุศลปี 1996 ที่ทีมของ Oasis ต้องปะทะกับทีม Blur หัวหน้าทีมอย่างเลียมและโนล ยังสั่งตัดชุดของแมนฯ ซิตี้ให้ลูกทีมใส่แข่งขันกับทีม Blur ที่มาพร้อมกับชุดของสโมสรเชลซีด้วยเช่นกัน
หลังจาก ชีก มานซูร์ (Sheikh Mansour) และกลุ่มทุนอาบูดาบีเข้าซื้อสโมสรในปี 2008 ผนวกกับการเข้ามาคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา (Pep Guardiola) หลังจากนั้นทำให้แมนฯ ซิตี้ก้าวขึ้นมาเป็นทีมชั้นนำของโลกในเวลาต่อมา จนทำให้เรามักจะเห็นการโพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ของพี่น้องกัลลาเกอร์ ทั้งสนับสนุนทีมที่รักและเยาะเย้ยทีมที่ชังอยู่บ่อยครั้ง
จนปัจจุบันเราก็มักจะเห็นภาพของสองพี่น้อง และโพสต์ข้อความไปนั่งชมการแข่งขันของสโมสรที่รักอยู่เสมอ จนถึงขนาดที่ เออร์ลิง ฮาลันด์ (Erling Haaland) กองหน้าของทีมแมนฯ ซิตี้กล่าวว่า ความสำเร็จของสโมสรต้นสังกัด อาจเป็นหนึ่งเหตุผลที่ช่วยเยียวยาแผลใจ ให้พวกเขากลับมาเล่นดนตรีด้วยกันอีกครั้งหนึ่ง
ที่มา
Tags: โอเอซิสรียูเนียน, โอเอซิสรวมวง, Oasis, แมนเชสเตอร์ซิตี้, โอเอซิส, Entertainment