“ประตูมีกลอน คนคอนมีปืน” คนมักพูดประโยคนี้เมื่อกล่าวถึงจังหวัดนครศรีธรรมราช และยังถูกหยิบยกมาใช้หนังเรื่อง ‘เขาชุมทอง คะนองชุมโจร’ หนังตลกแอ็กชันจาก Netflix ที่มีฉากหลังเป็นนครศรีธรรมราชในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 กำกับโดย วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง เขียนบทและแสดงนำโดย หม่ำ จ๊กมก-เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา ในบท ‘โกหว่า ทุ่งสง’ จอมโจรแห่งเมืองคอนกับภารกิจปล้นทองจากกองทัพญี่ปุ่น
พร้อมด้วย แบงค์-ธิติ มหาโยธารักษ์, พีพี-ปุญญ์ปรีดี คุ้มพร้อม รอดสวาสดิ์, นิกกี้-ณฉัตร จันทพันธ์, นัท-มีเรีย เบนเนเดดตี้, นิล-ชิงดวง ดอยเกอร์ส, ปอนด์-โอภาภูมิ ชิตาพัณณ์ และบ่าววี-วีรยุทธิ์ นานช้า ร่วมแสดงด้วย
หม่ำคิด วิศิษฏ์ทำ (เพราะเมา)
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่วิศิษฏ์และหม่ำร่วมงานกัน เพราะก่อนหน้านี้ในปี 2566 หม่ำเป็นนักแสดงนำในภาพยนตร์ ‘เมอร์เด้อเหรอ ฆาตกรรมอิหยังวะ’ หนังแนวสืบสวนระทึกขวัญ ตลกร้ายที่นำเสนอภายใต้ภาพหนังสีสันสดใสสไตล์วิศิษฏ์ที่หลายชื่นชอบตั้งแต่เรื่องฟ้าทะลายโจร (2543) หรือหมานคร (2547) และแน่นอนว่า มีคนไม่น้อยที่รอชมภาพสีฉูดฉาดอันเป็นซิกเนเจอร์ของวิศิษฏ์ในเรื่องเขาชุมทอง คะนองชุมโจร
หลังจากที่การถ่ายทำภาพยนตร์เขาชุมทอง คะนองชุมโจรจบลง วิศิษฏ์กล่าวในงานแถลงข่าวว่า จุดเริ่มต้นของภาพยนตร์เรื่องนี้คือ การที่หม่ำได้เจอกับโกหว่า ทุ่งสง และโกหว่าได้เล่าเรื่องราวของโจรปักษ์ใต้ให้หม่ำฟัง หลังจากนั้นหม่ำจึงบอกวิศิษฏ์ให้กำกับหนังเรื่องนี้ให้ ซึ่งวิศิษฏ์ได้ตอบตกลงรับทำด้วยอาการมึนเมา
อย่างไรก็ตาม เขาชุมทอง คะนองชุมโจรได้นำเสนออัตลักษณ์และบุคลิกภาพของคนนครฯ ที่สอดคล้องวัฒนธรรมออกมาได้แบบ ‘หรอยแรง’ อีกทั้งชื่อตัวละครยังได้นำชื่ออำเภอในนครศรีธรรมราชมาเป็นนามสกุลขอตัวละครทั้งโกหว่า ทุ่งสง, จง ลานสกา, ญาดา นบพิตำ, ดำ สิชล, มนต์ ร่อนพิบูลย์ ประกอบกับเพลงชุมทางเขาชุมทอง ของระพิน ภูไท ที่พรรณนาถึงสถานีชุมทางเขาชุมทอง ยิ่งได้กลิ่นอายของความเป็นภาคใต้ที่นิยมเดินทางด้วยรถไฟ ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของหนังเรื่องนี้
ปืน ป่า โจรในเมืองพระ
เรื่องเล่าของโกหว่าเกี่ยวกับ ‘เสือ’ ที่ไม่ใช่สัตว์แต่เป็นคำเรียกโจรในพื้นที่ภาคใต้ เชื่อว่าคนใต้หลายคนอาจเคยได้ฟังเรื่องราวที่คล้ายคลึงนี้กันจากปู่ย่าตายายของตัวเอง เพราะเรื่องเสือ ปืน และการปล้นฆ่าได้ถูกสอดแทรกอยู่ในประวัติศาสตร์ท้องถิ่นภาคใต้ในหลายชุมชน โดยมีผู้เฒ่าผู้แก่เป็นผู้บอกเล่าส่งต่อกันมา
เพราะเมื่อมองถึงสภาพแวดล้อมของนครฯ รวมถึงภาคใต้จังหวัดอื่นในอดีตเต็มไปด้วยป่า แม้กระทั่งปัจจุบันที่ประชากรหนาแน่นมากขึ้นแล้ว พื้นที่รอบบ้านในหลายๆ เมืองยังแวดล้อมด้วยป่ายางสูงใหญ่ จึงเป็นการยากที่จะปกป้องตัวเองจากโจร อีกทั้งความเป็นป่ากว้างใหญ่ยังเอื้อให้สมัครพรรคพวกเสือเข้ามาพำนักกบดาน ซึ่งเสือก็มักมาพร้อมอาวุธประจำกายอย่างปืน ด้วยเหตุนี้การอาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่อการโดนปล้นฆ่าตลอดเวลา บ้านคนใต้หลายบ้านจึงจำเป็นต้องมีปืนไว้ป้องกันตัว นอกจากนี้วิถีชีวิตที่อยู่ติดป่ายังทำให้เกิดการล่าสัตว์ เพื่อยังชีพหรือเป็นกิจกรรมเพื่อความสนุก และแน่นอนว่าต้องใช้ปืน
แม้ปัจจุบัน เราจะอยู่ในโลกที่มีตำรวจ มีกล้องวงจรปิด มีเพื่อนบ้านที่เฝ้าระวังภยันตรายให้แก่และกัน ชีวิตมีความปลอดภัยมากขึ้น แต่ปืนไม่ได้หายไปไหน อีกทั้งปืนถูกกฎหมายหลายกระบอกและถูกส่งต่อในบ้านจากรุ่นสู่รุ่น ปืนจึงกลายเป็นมรดกและภาพแทนของบรรพบุรุษในตระกูล และได้ซึมซาบสู่ทัศนคติของหลายคนว่า ปืนเป็นอาวุธสำคัญที่จำเป็นต้องมี
เมื่อความผูกพันของคนนครฯ กับปืนมีมากจนเกินไป จนกระทั่งอยู่ในมือของผู้คึกคะนอง จึงได้เกิดข่าวสลดบ่อยครั้งจนเป็นภาพจำของนครศรีธรรมราช แต่สุดท้ายแล้วความอันตรายในจังหวัดก็ถูกแปรเปลี่ยนให้กลายเป็นเรื่องแสนขบขันด้วยมุกตลกอย่าง ‘ประตูมีกลอน คนคอนมีปืน’ และเป็นมุกที่หม่ำเล่นในเรื่องนี้ด้วย
คำบอกเล่าของโกหว่าเกี่ยวกับเสือหรือโจร คือสิ่งที่เชื่อมโยงปืนสู่วิถีชีวิตของคนนครฯ จนถึงทุกวันนี้ แม้หนังจะตั้งใจสะท้อนออกมาหรือไม่ก็ตาม แต่อย่างน้อยการมีภาพยนตร์ที่แฝงประวัติศาสตร์ชุมชน แม้เพียงแค่เศษเสี้ยวก็มีคุณค่าต่อการทำความเข้าใจวัฒนธรรมของแต่ละพื้นที่และปรากฏการณ์ทางสังคม
ภาพ: Netflix
Tags: เน็ตฟลิกซ์, Entertainment, หม่ำ จ๊กม๊ก, เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา, เขาชุมทองคะนองชุมโจร, Netflix, วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง, หนัง, โกหว่า ทุ่งสง, ภาพยนตร์, คนนครฯ, นครศรีธรรมราช, หนังตลก