***มีการเปิดเผยเนื้อหาซีรีส์ Black Mirror ตอน Loch Henry***
ช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา Netflix ปล่อย Original Content อย่างซีรีส์ Black Mirror ซีซันที่ 6 ออกมาทั้งสิ้น 5 ตอน พร้อมอัดแน่นประเด็นล้อเลียนและเสียดสีจริยธรรมของมนุษย์ต่อเทคโนโลยีได้ยอดเยี่ยม จนได้รับการตอบรับที่ดีจากแฟนคลับเช่นเคย
แต่ภายหลัง มีคำถามสงสัยตามมากับตอนที่ชื่อว่า Loch Henry ที่ผู้ชมมองว่า คอนเซปต์ที่เกิดขึ้นภายในเรื่องดันหลุดจากขนบความเป็น Black Mirror
Loch Henry เล่าถึงเรื่องราวของคู่รักนักศึกษาภาพยนตร์ ที่เดินทางกลับมาเยี่ยมครอบครัวของฝ่ายชาย ภายในเมืองที่อยู่ใกล้กับทะเลสาบ Loch Henry ประเทศสกอตแลนด์ (ชื่อทะเลสาบดังกล่าวถูกสมมติขึ้นมา โดยมีการถ่ายทำจริงที่อุทยานแห่งชาติ Loch Lomond ในประเทศสกอตแลนด์) โดยทั้งคู่มีแผนเดินทางไปถ่ายทำสารคดีเกี่ยวกับนักสะสมไข่ที่อยู่ในเมืองใกล้เคียง แต่เมื่อแฟนสาวได้รับรู้ถึงตำนานคดีฆาตกรรมของ เอียน บะแดร์ (Iain Adair) ที่เกิดขึ้น ณ Loch Henry เธอจึงเปลี่ยนใจหันมาถ่ายทำเรื่องราวของฆาตกรรายนี้ กระทั่งนำไปสู่ความจริงชวนขนหัวลุกว่า พ่อและแม่แฟนหนุ่มของเธอนั้น คือผู้สมรู้ร่วมคิดคดีฆาตกรรม
แม้บทสรุปจะปรากฏว่า หญิงสาวผู้โชคร้ายเสียชีวิต รวมไปถึงแม่ของแฟนหนุ่มที่ถูกเปิดเผยความชั่วร้ายตัดสินใจฆ่าตัวตาย แต่สารคดีเรื่องดังกล่าวกลับเข้ารับการชิงรางวัล ทำให้แฟนหนุ่มของเธอกลายสถานะเป็นผู้กำกับชื่อดังที่ทั้งนายทุน ผู้ผลิต และผู้ชมให้ความสนใจ สาเหตุเพราะสารคดีสามารถถ่ายทอดเรื่องราวได้ครบรส ด้วยองค์ประกอบศิลป์อันสวยงาม มีการเจ็บจริงและตายจริงระหว่างการถ่ายทำ
ถึงตรงนี้ผู้ชมหลายคนเริ่มตั้งคำถามถึง ‘แก่น’ ของซีรีส์ตอนนี้ ว่ามีความไซไฟ (Sci-i) หรือเกี่ยวข้องกับด้านมืดของเทคโนโลยีอย่างไร ในเมื่อตลอดทั้งเรื่องปรากฏฉากหลังเป็นเพียงเหตุฆาตกรรม ในเมืองชนบทเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม หากลองพิจารณาถี่ถ้วนจะพบว่า Loch Henry เป็นซีรีส์ไม่กี่ตอนของ Black Mirror ที่ถ่ายทอดด้านมืดของการใช้เทคโนโลยีได้สมจริงและใกล้เคียงกับพฤติกรรมของมนุษย์ทุกวันนี้มากที่สุด เพราะสามารถสะท้อนพฤติกรรมของมนุษย์ที่นิยมชมชอบกับเหตุการณ์ระทึกขวัญ และมักให้ความสนใจมากเป็นพิเศษหากเหตุการณ์นั้นอุดมด้วยความรุนแรง มีการสูญเสียจริง รวมไปถึงวิธีการบอกเล่าผ่านความเป็นภาพยนตร์ ที่ผู้กำกับบดบังความหม่นหมองของเนื้อหาด้วยการจัดฉากเน้นความสวยงามแทบทุกเฟรม
“แนวคิดของซีรีส์ตอนนี้เริ่มขึ้นตอนที่ผมดูสารคดีเกี่ยวกับอาชญากรรมเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นในสกอตแลนด์กับภรรยา ผมประหลาดใจมากที่ในการถ่ายทอดเรื่องราวสยองขวัญเช่นนี้ กลับใช้โดรนบินเก็บภาพแทบทุกฉาก ตั้งแต่ทิวเขาจรดทะเลสาบ พลันเกิดความรู้สึกว่า ฉันอยากไปเที่ยวพักผ่อนในสถานที่เกิดเหตุฆาตกรรมเช่นนี้บ้าง” ชาร์ลี บรูเกอร์ (Charlie Brooker) ผู้เขียนบทซีรีส์ตอนนี้เล่าถึงที่มาของ Loch Henry
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือเรื่องราวของ เอียน บะแดร์ ฆาตกรภายในเรื่อง โดยเนื้อหาช่วงที่เกิดเหตุฆาตกรรม เขาลักพาตัวนักท่องเที่ยวมาเพื่อทรมานและลงมือฆ่า ส่วนพ่อของแฟนหนุ่มตัวเอกของเรื่องที่เป็นตำรวจ เป็นผู้ที่เข้าไปจับกุม เอียน บะแดร์ ก่อนนายตำรวจจะถูกยิงจนบาดเจ็บสาหัส กระทั่ง เอียน บะแดร์ ได้ชิงฆ่าตัวตายในเวลาต่อมา
ทว่าในท้ายที่สุด เรื่องราวเฉลยว่า ทั้งพ่อและแม่ของแฟนหนุ่มคือผู้บงการเรื่องราวทั้งหมด โดยใช้เอียน บะแดร์ เป็นตัวละครบังหน้าและรับผิดแต่เพียงผู้เดียว โดยฝ่ายผู้เป็นแม่คือผู้กุมความลับนี้มานานสิบปี
แม้จะไม่มีการยืนยันออกมาจากชาร์ลีว่า เรื่องราวของ เอียน บะแดร์ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากคดีฆาตกรรมไหน แต่ก็มีการคาดการณ์โดย เกร็ก แม็กอาร์เธอร์ (Greg MacArthur) นักวิจารณ์ภาพยนตร์จากค่าย ScreenRant ที่ลงความเห็นว่า คดีฆาตกรรมของเอียน บะแดร์ ดูมีความใกล้เคียงกับเรื่องราวของฆาตกรนาม เฟร็ดและโรสแมรี เวสต์ ในประเทศอังกฤษ ทั้งนี้ คดีฆาตกรรมดังกล่าวมีความคล้ายคลึงตรงที่เกิดในบ้านย่านชนบท และกระทำการโดยฝีมือสองสามีภรรยา ที่เก็บความลับมาได้นานหลายสิบปี
สำหรับ เฟร็ด เวสต์ (Fred West) และโรสแมรี เวสต์ (Rosemary West) คือคู่สามีภรรยาที่ถูกกล่าวหาว่า เป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ปลิดชีพหญิงสาวไป 10 ราย โดยพวกเขาทำตัวเป็นเจ้าของบ้านใจดี คอยยื่นข้อเสนอที่พักหรืองานพี่เลี้ยงเด็กมาให้หญิงสาวดวงกุด และเมื่อไรที่พวกเธอหลงกลเข้าบ้านเลขที่ 25 ถนนครอมเวลล์ กลางเมืองโคลเชสเตอร์ ประตูนรกก็เปิดอ้าทันที หญิงสาวถูกมัดมือไขว้ ปิดปากด้วยสก็อตเทป ก่อนถูกข่มขืน ทรมาน และฆ่า บ้างก็ถูกหั่นแยกชิ้นส่วนเพื่อนำไปฝัง บ้างก็ถูกฝังอำพรางใต้ผืนดินในสวนหลังบ้าน
นับตั้งแต่ลงมือฆาตกรรมครั้งแรกในปี 1971 ทั้งคู่ลักพาตัวและฆ่าเหยื่อกว่า 10 ชีวิต กระทั่งเวลาล่วงเลยมาถึงปี 1992 ตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านของพวกเขา หลังได้รับรายงานว่า มีการลักพาตัวหญิงสาวในบ้านแห่งนี้
ในวันนั้น ตำรวจพบหลักฐานจำนวนมากที่แสดงถึงพฤติกรรรมโหดเหี้ยมของเฟร็ดและโรสแมรี ไม่ว่าจะเป็นภาพโป๊เปลือยของเหยื่อที่กองสูงเป็นภูเขา อุปกรณ์สำหรับทารุณกรรม และเมื่อขุดสวนหลังบ้านก็พบซากกระดูกของเหยื่อมากกว่า 10 ชีวิต โดยหนึ่งในนั้นเป็นศพของ เฮเธอร์ เวสต์ (Heather West) ลูกสาวของพวกเขาเอง
ที่น่าสยดสยองกว่านั้นคือพฤติกรรมของทั้งคู่ เนื่องจากตำรวจพบว่า เฟร็ดและโรสแมรียังคงใช้ชีวิตปกติสุขอยู่ในบ้านหลังนั้น ท่ามกลางศากซพและกลิ่นคาวเลือดที่อบอวลไปทุกอณู
ท้ายที่สุด สามีภรรยาใจโฉดถูกจับกุมด้วยคดีฆาตกรรม แต่ก่อนที่จะมีการพิจารณาคดี เฟร็ดได้ฆ่าตัวตายภายในเรือนจำ ส่วนโรสแมรีถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตในเวลาต่อมา
ที่มา
https://screenrant.com/black-mirror-season-6-loch-henry-criticism-misses-point/
https://screenrant.com/black-mirror-loch-henry-iain-adair-killer-real-fake/
https://criminalminds.fandom.com/wiki/Fred_and_Rosemary_West
https://www.walesonline.co.uk/lifestyle/tv/fred-rose-west-how-many-24831794
Tags: Entertainment, คดีฆาตกรรม, Loch Henry, เอียนบะแดร์, เฟร็ดและโรสแมรี่เวสท์, Black Mirror