แบคทีเรียกินเนื้อมีชื่อว่า Vibrio Vulnificus ซึ่งในขณะนี้กำลังเพิ่มปริมาณมากขึ้นในอ่าวเม็กซิโก จากการที่น้ำอุ่นขึ้นอันเป็นผลมาจากสภาวะภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง ในช่วงเวลา 1-2 เดือนที่ผ่านมาพบว่ามีชาวอเมริกันเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 2 คน จากการ ติดเชื้อจากแบคทีเรีย Vibrio Vulnificus

ตัวเลขของผู้ป่วยจากแบคทีเรียกินเนื้อในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เฉพาะเดือนมิถุนายน มีผู้ที่ติดเชื้อจากแบคทีเรียกินเนื้อแล้ว 5 ราย  แคเธอรีน ดอคเตอร์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยคูเปอร์ ซึ่งเพิ่งตีพิมพ์รายงานประเด็นนี้ระบุว่าอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นของน้ำในมหาสมุทรน่าจะเกี่ยวข้องกับการแพร่กระจายของแบคทีเรียชนิดนี้ ทำให้แบคทีเรียกระจายไปอยู่ในพื้นที่อื่น พบประชาชนสัมผัสกับเชื้อแบคทีเรียในบริเวณ Chesapeake Bay และ Gulf Coast หลังจากกินอาหารทะเลดิบ หรือว่ายน้ำในน้ำที่ปนเปื้อนแบคทีเรีย

ดอคเตอร์ให้สัมภาษณ์กับดิ อินไซเดอร์ว่า ในปี 2017 พบผู้ป่วย 3 รายที่ผิวหนังติดเชื้อรุนแรง ซึ่งทำให้เกิดการตื่นตัว ในปี 2018 เจอเพิ่มอีก 2 ราย ทั้ง 5 รายนี้สำคัญ เพราะว่าในรอบ 8 ปีก่อนปี 2017 พบผู้ป่วยจากแบคทีเรีย Vibrio Vulnificus เพียง 1 รายในโรงพยาบาลของเธอ

แบคทีเรียชนิดนี้อาศัยอยู่ในน้ำที่มีความเค็มสูง อุณหภูมิผิวน้ำมากกว่า 13 องศาเซลเซียส คนสามารถติดเชื้อแบคทีเรียนี้ได้จากการว่ายน้ำ ดื่มหรือจับสัตว์น้ำที่มีเปลือกแข็งซึ่งอยู่ในน้ำที่มีแบคทีเรียปนเปื้อนได้ ผู้ที่มีบาดแผลหรือมีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยง การติดเชื้อจากแบคทีเรียทำให้เกิดอาการปวด คลื่นไส้ และมีอาการเหมือนเป็นหวัด และทำลายร่างกายอย่างรวดเร็ว

ช่วง 1-2 เดือนนี้ มีผู้ที่อยู่แถบอ่าวฟลอริดา 3 คนเป็นโรคเนื้อเน่าจากแบคทีเรียชนิดนี้ โดยมีเพียงรายเดียวที่รอดชีวิต

ผู้รอดชีวิตเป็นเด็กหญิงอายุ 12 ปี ได้รับแบคทีเรียกินเนื้อ หลังจากลุยน้ำในอ่าวเดสติน รัฐฟลอริดา เธอปวดขามาก และตรวจพบว่าติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อบริเวณเข่า การรักษาต้องใช้เวลานานหลายเดือน กว่าเธอจะกลับมาเดินได้อีกครั้ง

ส่วนชายวัย 41 ปีมาจากเมมฟิส รัฐเทนเนสซี่ ซึ่งเพิ่งหายจากโรคมะเร็งแต่กลับมาเสียชีวิตเพราะแบคทีเรียกินเนื้อ หลังจากที่ลงไปในน้ำ เขาตื่นขึ้นมาพร้อมอาการไข้ หนาวสั่น และเป็นตะคริว เมื่อกลับไปที่โรงพยาบาลในเมมฟิส แพทย์พบจุดดำบวมใหญ่ที่หลังของเขา และพบแบคทีเรียอยู่ในกระแสเลือด จากนั้นเขาก็เสียชีวิตภายใน 48 ชั่วโมง หลังจากขึ้นมาจากน้ำ

หญิงชราวัย 77 ปีคนหนึ่งเสียชีวิตจากการติดเชื้อ หลังจากที่เธอลงไปในน้ำที่ชายหาด บริเวณอ่าวเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ทางตอนกลางของรัฐฟลอริดา เธอมีรอยแผลที่หน้าแข้ง และเพียง 24 ชั่วโมงหลังจากขึ้นจากน้ำ ก็เริ่มปวด วันต่อมา ขากลายเป็นสีแดง บวมใหญ่ แล้วก็กลายเป็นสีดำ เชื้อทำลายเนื้อเยื่อของเธอ ลูกสาวของเธอโพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กว่า ร่างกายของเธอติดเชื้อจากแบคทีเรีย หลังจากอยู่ในแผนกพักฟื้นระยะสุดท้าย 1 สัปดาห์ก็เสียชีวิต 

จากข้อมูลของกองควบคุมโรคติดต่อหรือ CDC ของสหรัฐอเมริกาพบว่า ในสหรัฐอเมริกามีผู้ป่วยจากแบคทีเรียนี้ราว 80,000 คน และเสียชีวิต 100 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยที่มีโรคอื่นร่วมด้วย เช่น เบาหวาน ไต มะเร็ง ซึ่งเสี่ยงต่อการพัฒนาตัวของเชื้อโรคจนทำให้เกิดโรคแบคทีเรียกินเนื้อหรือโรคเนื้อเน่า 

หากได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง รักษาด้วยยาปฏิชีวนะและการผ่าตัดที่ทันเวลาจะหยุดการแพร่กระจายของแบคทีเรียได้ การติดเชื้อเกิดขึ้นได้หากร่างกายสัมผัสกับแบคทีเรีย Vibrio Vulnificus ซึ่งอยู่ในน้ำทะเลอุ่นหรืออาหารทะเลดิบ

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่แค่แบคทีเรียชนิดนี้ที่น่ากังวล ขณะนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อกำลังกังวลว่า การติดเชื้ออื่นๆ ที่ครั้งหนึ่งเคยอยู่ในเขตร้อน ตอนนี้เกิดขึ้นในพื้นที่ซึ่งอุ่นขึ้นด้วย

ที่มา:

https://www.independent.co.uk/news/world/americas/flesh-eating-bacteria-death-florida-mexico-water-infection-symptoms-a9007671.html

https://www.insider.com/flesh-eating-bacteria-spreading-due-to-warmer-oceans-2019-6

https://www.cbsnews.com/news/flesh-eating-bacteria-florida-destin-necrotizing-fasciitis-girl-contracts-disease-vacation-2019-06-28/

ภาพ : จากเฟซบุ๊กของผู้ป่วย

Tags: , , ,