เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 ส.ค. ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐสั่งสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อม (EPA) ให้ห้ามขาย คลอร์ไพริฟอส (Chlorpyrifos) สารเคมีกำจัดแมลงศัตรูพืชซึ่งนิยมใช้ในผลไม้ประเภทซิตรัส แอปเปิล และผลไม้อื่นๆ ภายใน 60 วัน มีอัยการจากหลายรัฐที่เข้าร่วมฟ้องคดีนี้ร่วมกับกลุ่มเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมและเกษตรกร
สำหรับประเทศไทย แม้จะมีความกังวลต่อผลกระทบจากสารเคมีชนิดนี้เช่นกัน แต่เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ที่ผ่านมา คณะกรรมการวัตถุอันตรายชี้ขาดแล้วว่า ‘ไม่ยกเลิก’ การใช้สารเคมีพาราควอต คลอร์ไฟริฟอส และไกลโฟเซต แต่ให้จำกัดการใช้ เพราะข้อมูลผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและสุขภาพยังไม่เพียงพอ
คลอร์ไพริฟอส ผลิตโดยบริษัทดาว เคมิคอล ในช่วงทศวรรษ 1960 ยังคงเป็นยาฆ่าแมลงที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในสหรัฐอเมริกา ซึ่งมียอดขาย 5 ล้านปอนด์ในแต่ละปี สารเคมีชนิดนี้อยู่ในกลุ่มออร์กาโนฟอสเฟตซึ่งมีคุณสมบัติทางเคมีคล้ายกับก๊าซที่นาซีใช้สังหารชาวยิวในสงครามโลกครั้งที่ 2
ผลจากการใช้คลอร์ไพริฟอสอย่างแพร่หลายมานานกว่า 40 ปีทำให้มีการตรวจพบสารเคมีตกค้างในน้ำดื่ม เมื่อปี 2012 นักวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์พบว่า 87% ของเลือดที่เก็บตัวอย่างจากทารกแรกเกิดมีสารเคมีนี้ปนเปื้อน
ภายใต้แรงกดดันจากหน่วยงานกำกับดูแล บริษัทสมัครใจในการถอดคลอร์ไพริฟอสสำหรับใช้ในครัวเรือนเมื่อปี 2000 EPA และศาลได้พิจารณาการห้ามใช้สารเคมีนี้ตั้งแต่ปี 2007 เมื่อกลุ่มสาธารณสุขเข้าชื่อและยื่นข้อเสนอต่อสำนักงาน
ในปี 2015 รัฐบาลโอบามาเคยเสนอให้แบนการใช้คลอร์ไพริฟอสในอาหาร ในบันทึกการประเมินของนักวิทยาศาสตร์ 9 คนสรุปว่า “มีข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าเป็นไปได้ที่คลอร์ไพริฟอสส่งผลกระทบต่อพัฒนาการทางประสาทของเด็กและทารก” ซึ่งตามกฎหมายของรัฐบาลกลางกำหนดว่า ต้องให้ EPA พิจารณาว่าการใช้ยาฆ่าแมลงที่ใช้ในอาหารของสหรัฐอเมริกาปลอดภัยต่อการบริโภค โดยเฉพาะต่อเด็กๆ
แต่เมื่อเดือนเมษายน 2017 EPA ในยุครัฐบาลทรัมป์ตัดสินว่า ข้อมูลวิทยาศาสตร์ที่เชื่อมโยงคลอร์ไพริฟอสเข้ากับผลกระทบต่อการพัฒนาระบบประสาทนั้นมีความ ‘ไม่แน่นอน’ และกล่าวว่า ต้องทบทวนข้อมูลทางวิทยาศาสตร์อีกครั้งและตัดสินใจอีกครั้งหลังได้พิจารณาความปลอดภัยของสารเคมีในปี 2022 ตามที่กฎหมายกำหนด อย่างไรก็ตามสำนักข่าวเอพีเปิดเผยว่า คำประกาศนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ สก็อตต์ พรูตต์ หนึ่งในคณะกรรมการ EPA จากพรรครีพับลิกัน ได้พบกับซีอีโอของบริษัทดาว เคมิคอล เพียง 20 วัน
คำตัดสินของศาลเมื่อวันที่ 9 ส.ค. พลิกแผนเดิม หลังจากมีงานศึกษาหลายชิ้นที่แสดงว่า เด็กได้รับสารเคมีชนิดนี้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ และส่งผลต่อระดับไอคิว และทำให้พัฒนาการของเด็กผิดปกติและล่าช้า นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 6 ก.ค. พรูตต์เพิ่งลาออกหลังถูกสืบสวนด้านจริยธรรม
ศาลกล่าวว่าพรูตต์ละเมิดกฎหมายของรัฐบาลกลางด้วยการเพิกเฉยต่อข้อสรุปของนักวิทยาศาสตร์ของ EPA ที่บอกว่าคลอร์ไพริฟอสเป็นอันตราย
นอกจากนี้อีเมลภายใน EPA ที่เปิดเผยออกมาเมื่อฤดูร้อนปีที่แล้วแสดงให้เห็นว่า เมื่อปี 2017 การเมืองเข้าไปมีบทบาทต่อการตัดสินใจของสำนักงาน
ช่วงขณะที่ยังอยู่ในการพิจารณา พรูตต์บอกกับตัวแทนของซีอีโอของดาวเคมิคอลในระหว่างการประชุมว่า “นี่เป็นวันใหม่ อนาคตใหม่ของแนวทางพื้นฐานในการปกป้องสิ่งแวดล้อม” ส่วน ดอน เบนตัน (Don Benton) เจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่งที่ได้รับการแต่งตั้งในรัฐบาลทรัมป์กล่าวว่า สำนักงานกำลังสร้างความสัมพันธ์รูปแบบใหม่กับอุตสาหกรรมซึ่ง “วางอยู่บนฐานของความร่วมมือกัน ไม่ใช่การควบคุมหรือบังคับด้วยกฎหมาย”
ที่มา:
- https://edition.cnn.com/2018/08/09/politics/epa-court-order-ban-pesticide-chlorpyrifos/index.html
- https://www.usnews.com/news/politics/articles/2018-08-09/court-epa-violated-law-on-harmful-pesticide-orders-ban
- https://www.theguardian.com/environment/2018/aug/09/epa-pesticide-learning-disabilities-banned-chlorpyrifos