วันที่ 26 ธันวาคม 2562 เวลา 10.00 น. ที่ศาลแขวงดุสิต กลุ่มคนอยากเลือกตั้งเดินทางมาฟังคำพิพากษาคดีที่อัยการฟ้องทั้งหมดในความผิด ฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558, พ.ร.บ.การชุมนุม, พ.ร.บ.การจราจรทางบก โดยมี พล.อ.บุรินทร์ ทองประไพ รับมอบอำนาจจาก คสช. มาร้องทุกข์กล่าวโทษ

ต่อมาเวลาประมาณ 11.00 น. ศาลได้อ่านคำพิพากษา โดยศาลพิจารณาพยานหลักฐานที่โจทก์นำมาแสดงยังไม่สิ้นสงสัย จึงยกประโยชน์ให้จำเลย พิพากษายกฟ้อง ส่วนชลธิชา แจ้งเร็วในฐานะผู้ขออนุญาตชุมนุม ศาลสั่งปรับ 1,000 บาท ในความผิด พ.ร.บ.ชุมนุม จากการเคลื่อนขบวนชุมนุม ไม่สามารถควบคุมผู้ชุมนุมให้เดินบนทางเท้าได้ และชุมนุมเกินเวลาที่แจ้งไว้ 

ทั้งนี้ศาลไม่ได้พิจารณาในส่วนสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ และระบุว่าคำสั่ง คสช.ที่ 3/2558 ยังมีผลบังคับใช้กับคดีนี้อยู่

คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2561 กลุ่มคนอยากเลือกตั้งหลายร้อยคนได้นัดชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เรียกร้องให้รัฐบาล คสช. จัดการเลือกตั้งตามที่ให้สัญญาไว้ และต่อมาได้เดินขบวนไปปราศรัยหน้ากองทัพบก ถนนราชดำเนิน คดีนี้ตำรวจออกหมายเรียกผู้ต้องหาทั้งหมด 57 คน โดยแยกเป็นแกนนำ 9 คน อาทิ นายรังสิมันต์ โรม, นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์, น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา, นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล

อย่างไรก็ตาม แกนนำยังมีข้อหาอื่นที่อัยการสั่งฟ้องเพิ่มเติม ได้แก่ ข้อหายุยงปลุกปั่น ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116, ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต,ฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช.3/2558 พ.ร.บ.การชุมนุม และ พ.ร.บ.การจราจรทางบก โดยศาลได้นัดสืบพยานโจทก์ปากแรกในวันที่ 26 พ.ค. 2563

กลุ่มคนอยากเลือกตั้งถูกฟ้องเนื่องจากการจัดกิจกรรมทางการเมืองหลากหลายครั้ง ทั้งการชุมนุมหน้าหอศิลป์ (MBK39) เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2561 การชุมนุมที่อนุเสาวรีประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน (RDN50) เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2561 การเดินขบวนไปหน้าทำเนียบรัฐบาลและอ่านแถลงการณ์เนื่องในโอกาสครบรอบ 4 ปี คสช. (UN62) เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม และรวมไปถึงการชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ARMY57)  ที่ศาลเพิ่งตัดสินในวันนี้

อ้างอิง:

https://prachatai.com/journal/2019/09/84199

https://freedom.ilaw.or.th/case/830

https://www.tlhr2014.com/?p=12889