การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลกครั้งที่ 24 หรือ COP24 เริ่มต้นขึ้นแล้วที่เมืองคาโตวีตเซ ประเทศโปแลนด์ โดยมีตัวแทนจาก 195 ประเทศเข้าร่วมการประชุมระหว่างวันที่ 2-15 ธันวาคม 2018
ความสำคัญของการประชุม COP24 อยู่ที่ว่า ปีนี้เป็นสุดท้ายตามในการจัดทำแนวปฏิบัติหลังจากที่เคยมีการรับรองข้อตกลงต่อสู้ภาวะโลกร้อนที่กรุงปารีสในการประชุมปี 2015 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการในปี 2020 ปีเดียวกับที่พิธีสารเกียวโตจะหมดอายุลง
ข้อตกลงปารีสในปี 2015 ระบุว่า ประเทศต่างๆ จะพยายามดำเนินการเพื่อจำกัดระดับอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกไม่ให้เกินระดับ 2 องศาเซลเซียสจากระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม และพยายามเพิ่มเป็น 1.5 องศาเซลเซียสภายในปี 2100 โดยหวังว่าระดับน้ำทะเลจะลดระดับกว่าเดิม 10 เซนติเมตร
ในการประชุมครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนข้อตกลงจากเอกสารให้สู่การดำเนินการจริงและมีประสิทธิภาพซึ่งรวมถึงการจัดทำบัญชีก๊าซเรือนกระจกที่ให้แต่ละประเทศติดตามการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและรายงานความก้าวหน้าของตนเองต่อชาวโลก
สถานการณ์สิ่งแวดล้อมโลกยังวิกฤต คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) ออกรายงานประจำปีนี้ว่า แผ่นน้ำแข็งยังคงละลาย ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงสุดขั้ว อีกทั้งการดำเนินการต่างๆ ไม่เป็นไปตามเป้าหมายตามข้อตกลงปารีส ส่วนรายงานขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลกที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนชี้ว่า อุณหภูมิโลกที่ร้อนที่สุด 20 อันดับแรกเกิดขึ้นในช่วง 22 ปีที่ผ่านมา และถือว่าปี 2018 เป็นปีที่ร้อนที่สุดเป็นอันดับที่ 4 เท่าที่มีการบันทึกไว้ อันเป็นผลจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เพิ่มขึ้นและไม่มีการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม
เมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา ทรัมป์ซึ่งถอดสหรัฐอเมริกาออกจากข้อตกลงปารีสเมื่อมิถุนายน 2017 เป็นสมาชิกคนเดียวในการประชุมจี 20 ปฏิเสธที่จะลงนามรับรองการดำเนินการเรื่องภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง ร่วมกับสมาชิกที่เหลือในการประชุมประจำปีที่อาร์เจนตินา ซึ่งเป็นข้อตกลงที่แม้กระทั่งจีน ซึ่งถือว่าเป็นผู้ปล่อยมลพิษรายใหญ่ที่สุดของโลก ก็ยังยืนยันว่าจะปฏิบัติตามข้อตกลงปารีส
หนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านี้ สหรัฐอเมริกาเพิ่งออกการประเมินภูมิอากาศระดับชาติ (National Climate Assessment) ที่เตือนว่า ภัยพิบัติทางธรรมชาติในสหรัฐอเมริกากำลังรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากภาวะโลกร้อน เมื่อถูกถามถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากภาวะโลกร้อน ทรัมป์กล่าวว่า ไม่คิดว่ามันจะรุนแรง “ผมไม่เชื่อ ผมเห็นรายงานแล้ว อ่านบางส่วนแล้ว มันก็โอเคดี”
แม้ว่ารัฐบาลทรัมป์จะถอนตัวจากข้อตกลงปารีส แต่ก็ได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ด้วย โดยบอกว่าเพื่อรักษาผลประโยชน์ของสหรัฐอเมริกา
ที่มา:
- https://www.latimes.com/local/lanow/la-me-la-katowice-climate-conference-20181202-story.html
- https://www.aljazeera.com/news/2018/12/cop24-focused-setting-rules-combat-climate-change-181202093323005.html
- https://www.cnbc.com/2018/11/30/cop24-why-a-climate-change-summit-in-poland-is-so-important.html
- https://www.dw.com/en/crunch-time-for-the-climate-at-the-cop24-global-warming-conference/a-46510378
บรรยายภาพ: ภาพการชุมนุม ‘Claim the Climate ที่กรุงบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยี่ยม เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเบลเยี่ยมหันมามีมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม เป็นการชุมนุมที่เกิดขึ้นคู่ขนานไปขณะมีการประชุม COP24 ที่โปแลนด์ (ภาพโดย Francois Walschaerts / REUTERS)
Tags: ปัญหาโลกร้อน, สภาวะโลกร้อน, climate change, COP24, โลกร้อน