“เราไม่อยากส่งต่อสังคมแบบนี้ให้กับคนรุ่นลูกรุ่นหลาน เลยเข้ามาทำงานการเมือง”
คำตอบส่วนหนึ่งของ รักชนก ศรีนอก เมื่อถูกถามถึงสถานการณ์การคอร์รัปชันในปัจจุบัน
ในวันนี้ สส.เขตบางบอน พรรคประชาชน กลายเป็นบุคคลสำคัญที่ทำให้สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ถูกพูดถึงในวงกว้าง ด้วยการงัดแงะข้อมูลการบริหารและการลงทุนของกองทุนฯ ที่น่าสงสัย ออกสู่สายตาผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบทุกเดือน
หากงบประมาณประกันสังคมไม่ถูกเปิดเผยสู่วงกว้างจนกลายเป็นกระแส ตอนนี้ผู้ประกันตนอาจยังไม่รู้ว่า กองทุนประกันสังคมนำเงินไปลงทุนซื้อตึก SKYY9 Centre ในราคา 7,000 ล้านบาท ตอนนี้ผู้ประกันตนอาจยังไม่รู้ว่า สำนักงานประกันสังคมใช้งบทำปฏิทินปีละ 50-70 ล้านบาท และไม่รู้ว่ามีการลงทุนทำแอปพลิเคชัน SSO+ ถึง 275 ล้านบาท กับการได้รีวิวกลับมาเพียง 1.5 ดาว
แม้เรื่องอื่นจะเข้ามาถมกลบเรื่องใต้พรมในสำนักงานประกันสังคม แต่วันนี้ทุกเรื่องทุกข้อสงสัยยังคงอยู่ที่เดิม สำนักงานฯ ที่มีหน้าที่บริหารเงินกองทุนกว่า 2.5 แสนล้าน ยังคงให้คำตอบอะไรไม่ได้นอกจาก ‘ความคลุมเครือ’ หน้าที่ของ สส.กรุงเทพฯ สมัยแรกคนนี้ จึงยังต้องเดินหน้าต่อไปฟาดฟันกองทุนประกันสังคมต่อไป แม้จะถูกข่มขู่ ถูกฟ้องสารพัด
“แต่ขอโทษที กูไม่กลัว” รักชนกย้ำกับเรา
วันหนึ่งในฤดูร้อน เราชวน ไอซ์ รักชนก นั่งคุยยาวๆ เกี่ยวกับการเป็นหัวหมู่ทะลวงฟันจัดการความผิดปกติในกองทุนประกันสังคม ไปจนถึง ‘ก้าวต่อไป’ ของเธอ ในการทำหน้าที่นี้ว่าเป้าหมายสูงสุด เธออยากเห็นอะไร
หลายคนทราบกันดีว่า สำนักงานประกันสังคมเป็น ‘แดนสนธยา’ ยากจะเข้าถึงข้อมูลภายในได้โดยเฉพาะเรื่องเงิน แต่คุณไปได้ข้อมูลเหล่านี้มาจากไหน
ขอเท้าความก่อนว่า ประกันสังคมไม่เคยมีบอร์ดที่มาจากการเลือกตั้งเลยสักครั้ง กระทั่งวันที่ 24 ธันวาคม 2566 ที่มีการจัดเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมครั้งแรก ซึ่งมีทีมประกันสังคมของคณะก้าวหน้าที่มีนโยบายหลักคือ การเปิดเผยข้อมูลของสำนักงานฯ ได้รับเลือกตั้งเข้ามาในบอร์ดฝั่งลูกจ้าง จึงมีการเปิดเผยข้อมูลประกันสังคมออกมาเรื่อยๆ ทั้งข้อมูลของบอร์ดแพทย์กับบอร์ดอื่นๆ ในสำนักงานฯ และข้อมูลงบประมาณการลงทุนของอนุกรรมการลงทุนของประกันสังคมให้ประชาชนทราบ หลังจากนั้นคณะกรรมาธิการการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณเลยเอาข้อมูลที่ได้มาใช้จัดกิจกรรม ‘Hackathon งบประกันสังคม’
จริงๆ แล้ว เราไม่ใช่คนแรกที่ออกมาเปิดโปง แต่เป็นประชาชนที่มาร่วมงานขุดคุ้ยงบออกมาแล้วตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมตัวเองไม่ได้รับปฏิทินประกันสังคมที่ใช้งบประมาณทำไปปีละ 50-70 ล้านบาท ทำไมการเดินทางไปดูงานในต่างประเทศของสำนักงานฯ ต้องนั่งเครื่องบินเฟิร์สคลาส ทำไมแอปพลิเคชัน SSO+ ที่ใช้งบไป 275 ล้านบาท ถึงยังจ่ายเงินผ่านแอปฯ ไม่ได้
หน้าที่ของเราคือการเอาประเด็นที่ประชาชนขุดคุ้ยมาเรียบเรียงตั้งสเตตัส หลังจากนั้นสื่อมวลชนจากสำนักข่าวต่างๆ ก็มาหยิบข้อมูลเหล่านี้ไปนำเสนอจนเริ่มเป็นที่สนใจของสังคม จนรัฐมนตรี รองโฆษกปลัดกระทรวงแรงงาน ต้องออกมาตอบคำถามกันวุ่นวาย แต่เอาเข้าจริงๆ ยิ่งเขาตอบ ก็ยิ่งกลายเป็นเรื่องที่สังคมสนใจเข้าไปใหญ่
มีหน่วยงานรัฐเข้าไปรับฟังในงาน ‘Hackathon งบประกันสังคม’ ไหม เพราะกองทุนมีขนาดใหญ่ หากขุดคุ้ยเจออะไรที่น่าสงสัยก็น่าจะเป็นปัญหา
ถ้าใครไปร่วมงานในวันนั้นจะเห็นว่า มีคนจากสำนักงานของรัฐที่กำกับดูแลสำนักงานประกันสังคมเข้ามาร่วมงานด้วย เขาพยายามจะเข้ามาร่วมกิจกรรมกับคนในงาน พอประชาชนนำเสนอข้อมูลที่น่าสงสัย เขาก็ใช้เวลานานมากๆ ในการแก้ต่าง บอกว่า ไม่ใช่ความจริง
สุดท้ายพองานเข้าสู่ช่วงนำเสนอผลการขุดงบบนเวที ที่มีการพูดถึงงบทำปฏิทิน ตั๋วเครื่องบินชั้นเฟิร์สคลาสไปดูงานต่างประเทศ ผ่านไปได้ประมาณ 3 กลุ่ม คนจากสำนักงานพวกนี้ก็พากันออกจากงานหมดเลย แต่ก็ไม่เป็นไร เขาอาจจะรีบ อยู่ไม่ได้เพราะเลยเวลาราชการแล้ว ในงานเลยเหลือกันแค่กรรมาธิการศึกษางบกับผู้ประกันตน
ความท้าทายของการขุดเรื่อง ‘งบประมาณ’ ของสำนักงานประกันสังคมคืออะไร
ประกันสังคมอยู่ภายใต้เงามืดมาตลอดตั้งแต่เริ่มก่อตั้งกองทุนฯ ก่อนหน้าปี 2566 ไม่เคยมีบอร์ดที่มาจากการเลือกตั้ง เป็นเหมือนกับพื้นที่ให้ผู้มีอำนาจเข้ามากอบโกยเงินส่วนต่างของกองทุน ยิ่งช่วงรัฐประหารยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ เพราะไม่มีข้อมูลของสำนักงานประกันสังคมกระเด็นออกมาให้ตรวจสอบแน่นอน ทีนี้เมื่อเป็นแบบนี้มาตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา คนยุคก่อนเขาก็วางคน วางโครงสร้างให้ประกันสังคมแข็งตัว ล้วงข้อมูลยาก ถ้าไม่รู้ว่าจะล้วงด้วยวิธีไหน และจะล้วงข้อมูลอะไร
ในขณะที่ประกันสังคมเองก็ไม่เปิดเผยข้อมูล ทั้งที่ตัวเองเป็นองค์กรที่มีเงินเยอะมาก เป็นเรื่องยากที่เราจะรู้ว่า เงินของกองทุนฯ สร้างประโยชน์สูงสุดให้กับผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนฯ หรือเปล่า ไหนการบริหารสำนักงานที่ติดอยู่กับระบบราชการในกำกับกระทรวงแรงงานที่ทำให้กองทุนฯ มีความไม่เป็นอิสระและปลอดอำนาจทางการเมือง และการที่มันจะพัฒนาให้ก้าวหน้าได้ก็ต้องพึ่งพานักการเมืองที่มีวิสัยทัศน์ ตั้งใจเข้ามาปฏิรูปให้ดีขึ้นด้วย
การแก้ไขปัญหาในประกันสังคมทำไมจึงต้องทำให้เป็นกระแส แทนที่จะแก้ไขอย่างเงียบๆ
เพราะเมื่อไรที่เรื่องมันเงียบ มันก็จะไม่เดิน ยกตัวอย่างเคสประกันสังคมลงทุนกับตึก SKYY9 Centre ด้วยเงิน 7,000 ล้านบาท ทั้งที่ตึกนี้มีการประเมินราคาอยู่ที่ 3,500-3,600 ล้านบาท ที่ทุกคนก็รู้ว่ามันแปลก ผู้เชี่ยวชาญการลงทุน นักธรรมาภิบาลต่างออกมาพูดว่า การลงทุนแบบนี้มันไม่ปกติ แต่ทำไมถึงไม่มีใครทำอะไรกับเรื่องนี้เลยทั้งที่รู้ว่ามันแปลก ตรงนี้ บางคนอาจตั้งคำถามกลับมาว่า เราเป็นถึง สส. พอเปิดข้อมูลออกมาแล้วถึงทำไมทำอะไรต่อไม่ได้ คือเราเป็นฝ่ายค้าน สิ่งที่เราทำได้และทำอยู่คือการทำอย่างไรก็ได้ให้สังคมเห็นว่า ประกันสังคมมันเน่าหนอนขนาดไหน
จริงๆ แล้วเราเปิดเผยเรื่องนี้กันมาตลอด แต่มันอาจจะไม่ใช่ทุกเรื่องที่กลายเป็นกระแสได้ ประชาชนเขาก็อาจจะสนใจในเรื่องที่รู้สึกว่ามันเกี่ยวข้องกับเขา ถามว่าประกันสังคมมันทำไมถึงเป็นกระแสขึ้นมาได้ มันไม่ได้เกิดจากตัวเราหรอก มันเป็นเพราะประชาชนเขาให้ความสำคัญมากกว่า มันจึงอยู่ในหน้าสื่อได้ แต่ในบางเรื่องที่เราเปิดเผยออกมา แม้จะเป็นงบประมาณที่ก้อนใหญ่มากๆ แต่ถ้าประชาชนเขามองว่า มันไม่ได้มีความเชื่อมโยงกับเขา เขาก็จะไม่ให้ความสนใจแล้วสุดท้ายเรื่องมันก็จะเงียบไป
หลายคนมองว่า คุณต้องการแสง คิดอย่างไรบ้าง
แน่นอน หลายคนอาจตั้งคำถามว่า เป็นการสร้างกระแสไหม จะพูดแบบนั้นก็ได้นะ แต่การเปิดโปงข้อมูลในประกันสังคม มันก็เหมือนกับการสะกิดแผลให้หนองมันแตกออกมา ให้ประชาชนเขาเห็นว่า ก็เพราะแย่แบบนี้ไงถึงต้องแก้ไข พอวันหนึ่งที่มีคนสนับสนุนให้แก้ไขมากๆ แล้วเขาส่งตัวแทนเข้าไปแก้ปัญหานี้ได้ เราก็ไม่ต้องมานั่งด่ากันแบบนี้แล้ว
ถ้าอย่างนั้น ใครควรจะจัดการเรื่องนี้
เป็นหน้าที่ของรัฐบาลหรือองค์กรอิสระที่ต้องหาเบาะแสและลากคอคนผิดมาลงโทษให้ได้ แต่ก็ขอพูดเลยว่า หากเขาไม่เอาด้วย ประกันสังคมก็จะเหมือนอีกหลายๆ ปัญหาที่คนพูดถึงอยู่แค่ไม่กี่เดือนแล้วก็หายไป ไม่มีใครต้องรับผิดชอบ ไม่มีใครถูกลงโทษ
ถ้าเรามีอำนาจรัฐ เราคงจะสืบสาวจนจัดการกับตัวการได้ จะต้องมีคนติดคุกในเรื่องนี้ แต่เราไม่มีอำนาจนั้น เราเลยทำอะไรไม่ได้นอกจากการเปิดโปงแล้วให้ประชาชนช่วยกันด่า ต้องขอโทษทุกคนที่เราทำได้แค่นี้
ข้อมูลที่เคย ‘ลับ’ อยู่ๆ ถูกขุดมาอยู่ในที่สว่าง คิดว่าใครจะได้รับผลกระทบบ้าง
แน่นอนว่าคนที่เสียผลประโยชน์มากที่สุดคือคนที่หากินกับกองทุนประกันสังคมมาโดยตลอด ถามว่าปฏิทินที่ประกันสังคมเสียงบฯ ทำปีละ 50-70 ล้านบาท หากไม่ทำสำนักงานประกันสังคมจะถึงขั้นคอขาดบาดตายเลยไหม ทำไมเขาถึงดึงดันให้มีการผลิตปฏิทินต่อไป มันเป็นเพราะ ไอ้งบฯ ทำปฏิทินมันเป็นหม้อข้าวของใครสักคนเอาเงินไปเลี้ยงลูกเมีย กับลูกน้องตัวเองหรือเปล่า หรือแอปพลิเคชัน SSO+ 275 ล้านบาท ที่หลายคนบอกว่าแพง เงินส่วนต่างทำแอปฯ ไปอยู่ที่ไหน
สิทธิการรักษาพยาบาลที่ผู้ประกันตนต่างตั้งคำถามว่า ทำไมพวกเขาจ่ายเงินแต่กลับได้รับการรักษาด้อยกว่าบัตรทอง ใครกันที่เป็นคนคิดนโยบายให้พวกเขาเท่านี้ จนมีการพูดถึงบอร์ดแพทย์ที่เป็นคนกำหนดสิทธิประโยชน์การรักษาพยาบาลให้ผู้ประกันตน ซึ่งมีที่มาจากการแต่งตั้งของรัฐมนตรี และเราตั้งข้อสังเกตต่อว่า มีการเอาคนจากโรงพยาบาลเอกชนมานั่งเพื่อจำกัดสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนให้มีอยู่แค่นี้ไหม พอผู้ประกันตนเบิกค่ารักษาพยาบาลน้อย โรงพยาบาลตัวเองจะได้ส่วนต่างเยอะขึ้นหรือเปล่า
บางคนจะบอกว่า ถ้าให้สิทธิประโยชน์กับผู้ประกันตนมากเกินไป กองทุนประกันสังคมอาจจะเจ๊ง ความเป็นจริงมันไม่ได้จะเจ๊งเพราะผู้ประกันตนหรอก แต่มันจะเจ๊งเพราะสำนักงานประกันสังคมใช้งบประมาณกันแบบนี้ เอาเงินผู้ประกันตนไปลงทุนกับตึก SKYY9 Centre ลงทุนกับรีสอร์ตที่ภูเก็ตไง มันถึงจะเจ๊ง ไม่ได้เจ๊งเพราะเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับประชาชน
เคยมีคนมาบอกให้คุณหยุดในสิ่งที่ทำอยู่ไหม
มันไม่มีใครมาบอกเราตรงๆ หรอกว่าให้หยุดในสิ่งที่กำลังทำ แต่จะใช้วิธีการฟ้องปิดปากมาข่มขู่ ฟ้องเพื่อให้หยุดตรวจสอบ เรียกร้องราคาสูงๆ เพื่อให้เราเกิดความหวาดกลัว นี่แหละเป็นการสั่งให้เราหยุดที่มีประสิทธิภาพที่สุด
แต่ขอโทษที กูไม่กลัว
กังวลไหมว่า ปัญหาของสำนักงานประกันสังคมจะเงียบหายไป เหมือนเรื่องอื่นๆ
ไม่เงียบหรอก คุณรอดูได้เลย เราจับเรื่องไหน เรากัดไม่ปล่อย แน่นอนว่าพวกเราอาจจะไม่ได้พูดเรื่องประกันสังคมกันทุกวัน ซึ่งเราก็เข้าใจว่า และไม่ใช่ทุกคนจะติดตามอัปเดตประกันสังคมกันทุกวัน แต่เรากำลังรอจังหวะที่สังคมจะเอาด้วยกับเรา เราเข้าใจว่าตอนนี้มีข่าวนู้นนี่เยอะแยะไปหมด ก็ไม่เป็นไร เราจะรอจังหวะ แล้วขอบอกเลยว่า พวกเรามีของที่รอจะเปิดอีกในอนาคตเต็มไปหมด ก็คิดดูสิมันอยู่ในเงามืดมากี่สิบปี มันไม่ได้มีเรื่องให้พูดแค่นี้หรอก
งบปฏิทิน แอปฯ SSO+ บินเฟิร์สคลาสดูงาน กับการซื้อตึก 7 พันล้านบาท มีอะไรที่ใหญ่กว่าเรื่องพวกนี้อีกเหรอ
จริงๆ เรื่องตึก SKYY9 Centre 7 พันล้านบาท มันเป็นเงินที่ประกันสังคมตั้งกรอบเอาไปลงทุนนอกตลาด ซึ่งในตอนนั้นตั้งกรอบที่ 1 หมื่นล้านบาท แต่ตอนนี้ประกันสังคมกำลังจะขยายกรอบการลงทุนนอกตลาดเพิ่มขึ้น 13 เท่า เป็น 1.37 แสนล้านบาท คุณก็ลองคิดดูว่า จะมีการซื้อตึกแบบ SKYY9 Centre อีกกี่ตึก
แล้วตอนนี้สำนักงานประกันสังคมสั่งให้หยุดทุกการประชุมที่พูดถึงการลงทุน และมีการบอกให้คนในสำนักงานไม่เปิดเผยข้อมูลภายใน ซึ่งไม่รู้ด้วยว่าใครเป็นคนสั่ง ถ้าเราจะไปเอาข้อมูลจากเขาตอนนี้ เขาก็จะอ้างว่า เรื่องนี้ยังสอบสวนไม่เสร็จเลยให้ข้อมูลไม่ได้ ซึ่งตลก เพราะอำนาจของกรรมาธิการสามารถขอข้อมูลได้ทุกอย่าง ไม่ว่าข้อมูลนั้นจะติดอยู่ในศาล กำลังสืบสวนสอบสวนอะไรก็ตามแต่ กรรมาธิการสามารถขอข้อมูลนั้นได้
ในระยะเวลา 2 เดือน หลังเปิดเผยข้อมูลงบประมาณประกันสังคมจนเกิดกระแส คุณเห็นความเปลี่ยนแปลงในประกันสังคมอย่างไรบ้าง
ที่เห็นชัดๆ คือ มันทำให้คนบางคนในสำนักงานประกันสังคมเกิดความเกรงกลัว ประชาชนเองก็ตื่นตัว เพ่งเล็งสำนักงานประกันสังคมว่าจะทำอะไรกับเงินของเขาอีก มันเป็นความเปลี่ยนแปลงที่ดีนะ
ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นความสำเร็จร่วมกันระหว่างพรรคประชาชนกับบอร์ดประกันสังคมฝั่งลูกจ้าง คือการผลักดันบำนาญชราภาพให้กับผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่ทราบกันดีว่า ก่อนหน้านี้มันไม่แฟร์ ให้เขาได้รับบำนาญเพิ่มขึ้น โดยที่ไม่มีใครต้องเสียประโยชน์ และมันจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากสังคมไม่ช่วยกันกดดัน
ส่วนเรื่องการเปิดเผยข้อมูลเพื่อความโปร่งใสที่เราเรียกร้องมาโดยตลอดว่า ให้ทุกๆ บอร์ด และทุกๆ อนุกรรมการ เปิดเผยรายงานการประชุม ซึ่งตอนนี้ก็เข้าใจว่ามีการเปิดเผยออกมาบ้างแล้วบางส่วน แต่จริงๆ ประกันสังคมมีการประชุมบอร์ดกับอนุกรรมการมาเป็น 10 ปีแล้ว ที่เปิดออกมานั้นแค่การประชุม 3-5 ครั้งเองซึ่งน้อยมาก เราก็จะทวงถามเรื่องนี้ต่อ เพราะมันสำคัญ ผู้ประกันตนเขามีสิทธิที่จะรู้ว่า การประชุมในแต่ละครั้งเขาคุยเรื่องอะไร โหวตเรื่องอะไรกัน ได้เห็นว่า ใครเรียกร้องผลประโยชน์ให้กับผู้ประกันตนหรือเรียกร้องให้กับใคร พ.ร.บ.ประกันสังคมใหม่มีการตัดคำว่า ‘เลือกตั้ง’ ออกไป น่ากังวลแค่ไหน
มีความพยายามจะอธิบายนะว่า การเอาคำว่า เลือกตั้ง ออกจากพระราชบัญญัติประกันสังคม ไม่ได้หมายจะยกเลิกเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม แต่การที่คุณเอาคำว่าเลือกตั้งออกไปมันก็หมายถึงการยกเลิกไม่ให้มีเลือกตั้งหรือเปล่า ซึ่งจริงๆ รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานสามารถหยุด พ.ร.บ.นี้เอาไว้ก่อน แล้วมาแก้ไขให้เหมาะสม แล้วค่อยส่งกลับเข้าวาระอีกรอบก็ได้ แต่เราก็ยังไม่เห็นถึงความพยายามในการทำสิ่งนี้เท่าไร
พูดได้เลยว่า หากไม่เกิดการเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมในวันนั้น การเปิดเผยข้อมูลอย่างที่เราทำกันอยู่ในตอนนี้คงไม่เกิดขึ้น ทุกคนอาจจะยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ประกันสังคมลงทุนกว่า 7,000 ล้านบาท ไปกับตึกสูงกลางกรุง ไม่รู้ว่าเขาใช้เงิน 50-70 ล้านบาทไปกับการทำปฏิทินทุกปี ดังนั้น ต้องทำอย่างไรก็ได้ไม่ให้ยกเลิกการเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม
เป้าหมายต่อไปของประกันสังคมคืออะไร คุณจะทำอะไรต่อจากนี้
เรื่องแรกที่เราอยากให้ทุกคนจับตาคือ การลงทุนนอกตลาดของสำนักงานประกันสังคม เพราะมีการขยายกรอบวงเงินการลงทุนจาก 1 หมื่นล้านบาท เป็น 1.37 แสนล้านบาท ถ้าหากเราไม่อยากให้เกิดกรณีแบบตึก SKYY9 Centre ขึ้นอีก ก็ต้องคอยจับตาให้ดี เรื่องต่อมาคือการผลักดันให้ประกันสังคมเปิดเผยรายงานการประชุมของทุกบอร์ดและทุกอนุกรรมการ บนเว็บไซต์ของสำนักงานให้ประชาชนเข้าถึงได้
อีกเรื่องคือ เรากับทีมประกันสังคมก้าวหน้ากำลังจะเสนอกฎหมายที่จะเป็นการปฏิรูปประกันสังคมครั้งใหญ่ คือการทำให้ประกันสังคมสามารถสรรหาคนที่มีความเชี่ยวชาญและมีความสามารถเข้ามาบริหารสำนักงานและกองทุนประกันสังคม มากกว่าจะให้ข้าราชการมาบริหาร เพื่อให้กองทุนฯ ตอบสนองต่อผู้ประกันตนในระยะยาว ซึ่งแน่นอนว่าเสียงของพรรคประชาชน 143 เสียง ไม่เพียงพอที่จะทำให้กฎหมายผ่านสภาฯ ได้หากรัฐบาลไม่เอาด้วย ก็ต้องอาศัยแรงกดดันของประชาชนที่เห็นตรงกัน
ประกันสังคมผ่านไป หน่วยงานรัฐอื่นๆ ต้องระวังการถูกตรวจสอบจากรักชนกหรือไม่
เอาเข้าจริงๆ ปัญหาในกองทุนประกันสังคมมันก็สะท้อนความเป็นรัฐไทยนะ คิดจริงๆ เหรอว่า มีแค่สำนักงานประกันสังคมที่ใช้เงินจากภาษีแบบนี้ คุณก็เห็นการจัดซื้อจัดจ้างของอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ที่พังถล่มแล้ว มีพรมราคาเป็นแสน ฝักบัวเป็นหมื่น แต่เหล็กเส้นที่เป็นโครงสร้างกลับไม่มีมาตรฐาน แล้วคิดว่าการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายของกรุงเทพมหานครจะมีการทุจริตหรือเปล่า คิดว่าจะมีอีกกี่โครงการในกระทรวงคมนาคมที่เป็นแบบโครงการก่อสร้างบนถนนพระราม 2 เอาเข้าจริงๆ ขุดคุ้ยตรงไหนของหน่วยงานรัฐก็เจอตอ
เงินลงทุนในกองทุนประกันสังคม 2,657,245 ล้านบาท เทียบกับงบประมาณรายจ่ายของประเทศ 3,752,700 ล้านบาทในปี 2568 นี้ เราคิดเหรอว่าจะไม่มีการโกงกินในงบที่มากขนาดนี้ รัฐมนตรีในแต่ละกระทรวงคุณคิดว่า เขาเข้ามาเป็นรัฐมนตรีกันทำไม แล้วเขาเอาเงินจากที่ไหนไปหาเสียงเลือกตั้ง เงินที่แจกคนในช่วงเลือกตั้งมันลอยมาจากฟ้าเหรอ มันก็เป็นเงินภาษีของประชาชนทั้งนั้น ที่ถูกคอร์รัปชันเอาไปสร้างระบบอุปถัมป์ นำไปซื้อเสียง ทำทีให้เงินใส่ซองช่วยคุณนิดๆ หน่อยๆ ตอนมีงานศพหรืองานบวช
เป็นเรื่องแปลกที่คนไทยรู้สึกว่า การทุจริตคอร์รัปชันทำได้หากประเทศยังสามารถเจริญได้ จริงๆ ถ้าเปรียบประเทศไทยเป็นบริษัท ตอนนี้ก็คงเจ๊งไปนานแล้ว แต่เพราะมันมีภาษีจากประชาชนเข้ามาเติมอยู่ตลอดเวลา มันเลยยังไม่เจ๊ง คุณจะยอมให้การทุจริตคอร์รัปชันกลายเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไปในสังคมของเราแบบนี้ต่อไปอย่างนั้นเหรอ สำหรับเราไม่อยากส่งต่อสังคมแบบนี้ให้กับคนรุ่นลูกรุ่นหลาน เลยเข้ามาทำงานการเมือง
คำถามสุดท้าย หากประกันสังคมยังไม่เปลี่ยนจะเป็นอย่างไร
เจ๊งแน่นอน หากประกันสังคมยังคงมีสภาพเหมือนอย่างทุกวันนี้
Fact Box
- รักชนกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพฯ พรรคประชาชน และเป็นหนึ่งในผู้ที่ทำงานกับทีมประกันสังคมก้าวหน้า ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาฯ ในการเปิดตัวเลขการใช้จ่ายงบประมาณบริหารสำนักงานประกันสังคมในงาน ‘Hackathon งบประกันสังคม’ เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568
- รักชนกยังมีส่วนผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสูตรการคำนวณบำนาญชราภาพ ให้เปลี่ยนไปใช้สูตร CARE ของทีมประกันสังคมก้าวหน้า ที่ได้รับเลือกตั้งเป็นบอร์ดผู้ประกันตนฝั่งของลูกจ้างเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2568