“มันต้องภูมิใจทุกอย่างแหละครับ ไม่มีอะไรที่ทำแล้วไม่ภูมิใจ” คำตอบแสนเรียบง่ายแต่แฝงด้วยความมั่นใจจาก อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย

พรรคภูมิใจไทยเสนอชื่อเขาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพียงหนึ่งเดียว ท่ามกลางการประเมินของหลายฝ่ายที่คาดว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขผู้นี้ นับเป็นหนึ่งในผู้ที่มีโอกาสเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย และจะเป็นตัวแปรสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาล

“ทุกวันนี้พรรคภูมิใจไทยครองหน้าสื่อแม้กระทั่งวันหยุด คุณลองพิมพ์ใน Google ดูสิครับ ไม่มีวันไหนที่ไม่เป็นข่าว”

คงจะจริงอย่างเขาว่า

ในช่วงที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการแพร่ระบาดของโควิด-19 กับภาพวิกฤตความเดือดร้อนของประชาชน ปมร้อนเรื่องการจัดซื้อวัคซีน ประเด็นการปลดล็อกกัญชาที่ตามมาด้วยเสียงวิพากษ์วิจารณ์อันเผ็ดร้อนหลากหลาย พร้อมๆ กับข่าวคราวและภาพเยาวชน ‘พี้กัญชา’ ที่ผุดขึ้นรายวัน หรือจะเป็นเรื่องการซื้อ ‘ส.ส.งูเห่า’ เพื่อเตรียมการรับมือการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง — เหล่านี้ ชื่อของ ‘อนุทิน’ เป็นที่พูดถึงอยู่เสมอ

‘หมอหนู’  หรือ ‘(ว่าที่) นายกฯ หนู’ มาบอกเล่ากับ The Momentum ถึงชีวิตและการทำงานตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ที่เขาสามารถหาทางออกได้เสมอ ดังคำพูดประจำตัวของเขาที่ว่า ‘มีรู…มีหนู’ ที่หมายรวมถึงว่า ที่ไหนมีโอกาส ที่นั่นมีอนุทิน พร้อมตอบคำถามถึงศึกเลือกตั้งครั้งนี้ว่า พรรคภูมิใจไทยซื้อได้ทุกอย่างจริงหรือไม่? พรรคภูมิใจไทยพร้อมแค่ไหน? พรรคการเมืองใดบ้างที่เขายินดีจับมือร่วมตั้งรัฐบาล? และเขามั่นใจใช่ไหมสำหรับการก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของประเทศไทย

คุณอนุทินเคยออกหนังสือมาเล่มหนึ่งชื่อ ‘มีรู…มีหนู อนุทิน ชาญวีรกูล’ มีที่มาและความหมายอย่างไร

เป็นคำพูดเล่นๆ ระหว่างเพื่อนกับผมตั้งแต่เด็ก ผมเป็นคนที่มีบุคลิกค่อนข้างหาทางออกให้ตัวเองให้กับเพื่อนฝูงอยู่เสมอ เพื่อนๆ จึงแซวตามชื่อเล่นว่า ‘มีรู มีหนู’ หมายถึงหากมีช่องอะไรก็แล้วแต่ ผมสามารถเล็ดลอดออกมาและแก้ไขอุปสรรคได้  

คุณเริ่มสนใจการเมืองตั้งแต่เด็กเลยหรือไม่

การเมืองเป็นเรื่องที่ผมสัมผัสมาตั้งแต่สมัยคุณพ่อ (ชวรัตน์ ชาญวีรกูล) ท่านทำงานการเมืองเมื่อหลายสิบปีก่อน และเป็นคนสนิทของอดีตนายกรัฐมนตรี พลเอก ชาติชาย ชุนหะวัณ ตอนเด็กท่านก็พาผมไปบ้านพลเอกชาติชายเป็นประจำ ทำให้ผมได้สัมผัสกลิ่นอายการเมืองมาตั้งแต่เป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัย

แล้วความชื่นชอบการขับเครื่องบินเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อไร

อยากบอกว่าผมไม่ค่อยมีอะไรเป็นสิ่งตายตัว สำหรับการใช้ชีวิตผมเป็นคนง่ายๆ ทำอะไรก็ได้ กินง่าย อยู่ง่าย ไม่มีพิธีรีตอง ไม่มีพิธีการมากมายครับ

คือสมัยเป็นวัยรุ่นเป็นธรรมดาครับที่เราก็ชอบอะไรที่เร็วๆ ชอบความโลดโผนนิดหน่อย ผมก็มีกิจกรรมขับรถแข่งบ้าง ขับเรือสปอร์ตพุ่งเร็วๆ บ้าง ก็เป็นไปตามวัยครับ ตอนเด็กก็รถซิ่ง พอโตมามีโอกาสไปเรียนโรงเรียนการบินผมก็เรียนแบบจริงจัง ได้ใบขับขี่อากาศยาน และเรียนหลักสูตรนักบินพาณิชย์ 

ผมเรียนค่อนข้างลึกพอสมควรและสะสมชั่วโมงบิน หลังจากนั้นเวลาเดินทางไปไหนมาไหนในประเทศ ประเทศเพื่อนบ้าน หรือบินไปทำธุระกับคนสนิทผมก็พยายามบินด้วยตัวเอง ยิ่งมาทำงานการเมืองก็ยิ่งสมประโยชน์ เพราะมีความสะดวก สามารถไปไหนมาไหนและกำหนดเวลาไปกลับได้ เราสามารถบินระหว่างจังหวัดต่อจังหวัดโดยไม่ต้องกลับกรุงเทพฯ เพื่อมารอเปลี่ยนเครื่อง เช่น ช่วงเช้าผมมีภารกิจที่จังหวัดบุรีรัมย์อยู่ภาคอีสานใต้ เสร็จธุระปุ๊บก็สามารถนัดคนที่จังหวัดอุดรธานี หรือจังหวัดนครพนมต่อได้เลย เพราะปกติใช้เวลาในการเดินทางจากจังหวัดบุรีรัมย์ไปจังหวัดนครพนมไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง                         

สมัยก่อนยังขับเครื่องบินไม่เป็น ไม่มีเครื่องบินเป็นของตัวเอง ตอนนี้มีเครื่องบินเป็นของตัวเองลำเล็กๆ นั่งได้ประมาณ 6 คน ก็ทำให้เกิดความสะดวก

แปลว่าคุณอนุทินใช้เครื่องบินในการเดินทางค่อนข้างบ่อย

เป็นพาหนะในการเดินทางไปทำงานของผมทั่วประเทศไทยครับ 

แต่เครื่องบินส่วนตัว 1 ลำ ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่าเครื่องบินพาณิชย์ถึง 14 เท่า และปล่อยมลพิษมากกว่ารถไฟถึง 50 เท่า แน่นอนว่าส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก

ทุกอย่างเป็นไปตามเทคโนโลยี ปัจจุบันเครื่องบินเล็กยังไม่มีพลังงานอื่นมาทดแทน มันเป็นความจำเป็นที่ต้องใช้เป็นยานพาหนะเดินทางไปไหนมาไหนเพื่อให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนที่ถามผมว่าอนุรักษ์โลกอย่างไร ผมมีกิจกรรมอื่นๆ ที่สามารถทำให้โลกเย็นลงได้ เช่น การใช้พลังงานหมุนเวียน หรือพลังจากธรรมชาติมากที่สุด ก็ไปเน้นด้านนั้นแทน 

หากมาดูนโยบายของพรรคภูมิใจไทย จะเห็นว่าเน้นนโยบาย Work from Home ตั้งแต่ก่อนโควิด-19 โดยหวังว่าจะต้องใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการสื่อสารที่มีอยู่ให้คุ้มค่าที่สุด เราคิดมาแล้วครับ เมื่อมาเป็นรัฐบาลและได้กำกับกระทรวงคมนาคม ผมก็สนับสนุนผลักดันรถเมล์ไฟฟ้า เรือไฟฟ้าให้เกิดขึ้นภายในระยะเวลาอีกปีกว่าๆ ต่อไปกรุงเทพฯ จะมีระบบรถเมล์ไฟฟ้าปรับอากาศด้วย กึ่งแอร์ด้วย วิ่งทั่วกรุงเทพฯ ไม่ต่ำกว่า 5 พันคัน

คุณกำลังบอกว่า ได้หาวิธีการอื่นเพื่อทดแทนการการปล่อยมลพิษของเครื่องบินส่วนตัว ถูกต้องไหม?

ผมเป็นวิศวกร ตรงไหนที่สามารถทำและช่วยให้เกิดการทำลายสิ่งแวดล้อมได้น้อยที่สุด ผมก็สนับสนุนในทุกๆ ด้าน แม้กระทั่งนโยบายของภูมิใจไทยในการเลือกตั้งปี 2566 ก็สนับสนุนอาคาร Solar Rooftop เพื่อให้มั่นใจว่าทุกหลังคาเรือนในประเทศไทยในอนาคตจะมีไฟฟ้าใช้ในการดำรงชีวิต เพราะเป็นพลังงานจากแสงอาทิตย์ ไม่ได้ลดแต่โลกร้อน แต่ยังช่วยให้ชาวบ้านเข้าถึงระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานให้มากที่สุดอีกด้วย โดยสามารถใช้ต้นทุนพลังงานที่มีราคาต่ำ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยจะให้ชาวบ้านใช้ไฟเดือนละ 450 บาทฟรีจากไฟฟ้าที่ผลิตจากแผงโซลาร์เซลล์ที่ไปฝากติดไว้ที่บ้านเขา

ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ผ่านมามีงานใดที่ทำแล้วภูมิใจเป็นอย่างมาก หรืองานที่ทำแล้วไม่ภูมิใจบ้างไหม?

มันต้องภูมิใจทุกอย่างแหละครับ เพราะพรรคการเมืองไม่สามารถทำอะไรตามใจตัวเองทุกอย่างได้ พรรคการเมืองต้องทำตามนโยบายที่เราให้กับพี่น้องประชาชนกับประเทศชาติ ดังนั้น ทุกอย่างที่เราทำออกมาถือเป็นสิ่งที่ทำตามนโยบายที่ให้ไว้กับประชาชน เขาเลือกเราให้มาบริหารบ้านเมือง เพื่อทำสิ่งนี้ให้กับเขา เราต้องตอบแทน ดังนั้น ทุกเรื่องจึงเป็นสิ่งภาคภูมิใจครับ เช่น เรื่องกัญชาทางการแพทย์ เรื่องสุขภาพ เรื่องเศรษฐกิจ การปลดล็อกกัญชาออกจากการเป็นพืชยาเสพติด ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานของพรรคภูมิใจไทย ที่ทำให้เกิดโอกาสอย่างมากสำหรับผู้ประกอบการ เกษตกร และนักลงทุน ซึ่งมีมูลค่าทางการตลาดปีละหลายหมื่นล้านบาท 

รวมถึงเรื่องการยกระดับการรักษาพยาบาลคนไทยเรื่อง 30 บาทรักษาทุกโรค ผมเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข 4 ปี ผมยกระดับมากขึ้น แน่นอนว่าโครงการ 30 บาทมันสามารถรักษาได้ทุกโรค แต่ผมทำให้เกิดการรักษาได้ทุกที่ด้วยทำให้เกิดความสะดวกขึ้น นอกจากนี้ ผมสามารถทำให้สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ที่รับผิดชอบเรื่องสิทธิประกันสุขภาพ เห็นชอบสนับสนุนให้คนไทยทุกคนที่ป่วยเป็นโรคไตได้รับการฟอกไต ฟอกเลือดโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ส่วนนี้ทำให้ภาระของผู้ป่วยโรคไตมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยรัฐบาลเป็นผู้ดูแลให้เกิดสิ่งเหล่านี้

อย่างในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมา คุณอนุทินในฐานะเจ้ากระทรวงสาธารณสุข รู้สึกภูมิใจในผลงานช่วงนั้นด้วยไหม อย่างไร

สถานการณ์โควิด-19 หลายคนสูญเสียชีวิต สูญเสียโอกาสในการทำธุรกิจ สูญเสียทรัพย์สิน ก็เป็นสิ่งที่เรากังวลใจและเสียใจ แต่ไม่ใช่ว่าเราปล่อยให้สถานการณ์นั้นอยู่เป็นระยาวนะครับ ตอนที่โควิด-19 ระบาดใหม่ๆ เราต้องเร่งปรับตัว ทั้งหาเวชภัณฑ์ หายามารักษา ต้องหาทั้งสองสิ่งมาสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน เช่น วัคซีนต้องหาให้มากที่สุด ต้องสร้างความมั่นใจในระบบสาธารณสุขประเทศไทยว่ามีมาตรฐานเพียงพอ ทุกอย่างต้องเกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน เราใช้เวลาไม่นานนะครับที่ทำให้การดูแลผู้ป่วยโควิด-19 เป็นไปอย่างรวดเร็ว 

ประเทศไทยเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศทั่วโลกที่ให้การดูแลผู้ป่วยโควิด-19  ไม่มีการนอนรออยู่ที่บ้าน ทุกคนจะเข้าถึงแพทย์ ได้รับแพ็กเกจยา ทุกคนจะได้รับการดูแลรักษาพยาบาลตามเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับคณะแพทย์

แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีคนอีกจำนวนมากที่เข้าไม่ถึงการรักษาพยาบาลและยา

มี แต่ไม่ใช่ส่วนใหญ่ครับ เราไม่ได้ทอดเวลายาวนาน สุดท้ายจะเห็นความพยายามของกระทรวงสาธารณสุข เมื่อโรงพยาบาลเต็มเราก็จัดสรรให้มีโรงพยาบาลสนามทั่วประเทศ ทำให้สามารถรองรับผู้คนที่ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมาก แต่ตอนนั้นเราต้องมีความระมัดระวัง เพราะช่วงแรกๆ ยังไม่มีวัคซีนคุ้มกัน เมื่อเราสามารถเข้าถึงวัคซีนที่ฉีดได้แล้ว สถานการณ์เลวร้ายก็คลี่คลายไปในทางที่ดี คนมีภูมิคุ้มกันมากขึ้น มีความระมัดระวังมากขึ้น ยามีเพียงพอ และไม่ต้องพึ่งพาต่างประเทศอีกต่อไป เพราะเราสามารถผลิตยาเวชภัณฑ์ทั้งหลายในประเทศไทยได้

นอกจากนี้ เรายังทำสัญญาสั่งซื้อวัคซีนเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดความมั่นคงว่าอย่างน้อยวัคซีนก็สามาถป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากลัวมากในช่วง 2-3 ปีก่อน แต่อย่างไรคนไทยต้องได้รับวัคซีนอย่างแน่นอน และมันเป็นไปตามนี้จริงๆ

แล้วกับข้อวิจารณ์ที่ว่า การจัดหาวัคซีนโควิด-19 ในช่วงแรกเป็นไปค่อนข้างล่าช้า และดูมีเงื่อนงำด้านผลประโยชน์

มันเป็นคำพูดของคนกลาง คำพูดของคนที่ไม่ได้ทำงาน ไม่รอบรู้ ได้แต่บ่น ผมอธิบายหลายรอบแล้วว่าทุกอย่างเป็นไปตามกลไกเป็นไปตามเวลาที่ควรจะเป็น ไม่มีความล่าช้า เราสั่งซื้อวัคซีนตั้งแต่ยังไม่จดทะเบียน เราสั่งจอง เป็นความเสี่ยงพอสมควรนะครับ แต่เรายังมั่นใจว่าวัคซีนที่เราซื้อผลิตจากโรงงานผลิตยาที่ได้มาตรฐานระดับโลก วัคซีนล็อตแรกมาถึงประมาณต้นเดือนมกราคม 2564 และมาถึงประเทศไทยประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ไม่ได้ใช้เวลานาน หลังจากนั้นก็มีวัคซีนให้กับคนไทยตามแผนที่คณะแพทย์วางไว้ไม่ใช่แผนของผม เราทำทุกอย่างตามหลักการแพทย์ ต่อมาภายใน 6 เดือน ประเทศไทยมีวัคซีนที่ผลิตในประเทศ ทำให้สถานการณ์คลี่คลายไปในทางที่ดีจนถึงปัจจุบัน

บางครั้งเราต้องยอมรับให้มีการตำหนิติเตียน เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้ระบายเพราะเป็นภาวะกดดัน แต่ผมทำเต็มที่ครับ ถ้าความกดดันตรงนั้นไปลงที่แพทย์ ที่บุคลากรทางแพทย์โดยตรงจะเป็นผลเสีย ในฐานะที่ผมต้องรับผิดชอบเพราะเป็นรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขก็ต้องยอมให้ชาวเน็ตมาลงที่นี่ ยอมให้รถทัวร์มาจอด แต่ไม่ใช่ว่ารถทัวร์มาและคว่ำอยู่ที่บ้านผมไม่ไปไหน ระเบิดทุกวันก็ไม่ไหวนะ แต่ผมยินดีรับครับ คุณหมอจะได้ทำงานอย่างเต็มที่ 

มีความเห็นต่อแฮชแท็ก #ทองแท้ไม่กลัวไฟ กับ #หมอไม่ทน ที่เคยแพร่หลายในอดีตอย่างไรบ้าง

ผมจะไม่คิดอะไรที่เป็นทิฐิ เพื่อให้ตัวเองรู้สึกชนะ หรือเยาะเย้ยคนที่ถูกกล่าวหา โชคดีที่ผมไม่ใช่คนอุปนิสัยแบบนั้น ผมไม่ใช่คนเคียดแค้น เป็นคนลืมง่าย โดยเฉพาะอะไรที่ไม่ได้มีสาระพอก็ลืมได้เร็ว และผมให้รางวัลตัวเองโดยที่ไม่ต้องมีใครมาให้รางวัลผม 

ผมทำงานราชการกินเงินเดือนภาษี ต้องเจรจากับผู้ผลิตวัคซีนกี่รายทั่วโลก ซึ่งเขาไม่จำเป็นต้องง้อเราเลย แต่เรามีสกิลในการต่อรองเจรจาการค้า มีการนัดหมายอย่างเป็นทางการ ปกติเวลาประชุมจะต้องมีคนอยู่ล้อมรอบประมาณ 20-30 คน แต่ผมก็จำกัดคนแทน ไม่อย่างนั้นมันเจรจาไม่ได้หรอกครับ ฝั่งนั้นก็อายลูกน้องตัวเอง ฝั่งนี้ก็อาย ผมก็ยอม หลายคนบอกว่าเป็นรัฐมนตรีลดตัวลงไปคุยกับพ่อค้าขายยาได้อย่างไร โอกาสปกติไม่ลงมาคุยหรอกครับ แต่พ่อค้าคนนั้นดันถือวัคซีน 65 ล้านโดสอยู่ในมือ ผมจึงคิดว่าไม่ใช่การลดตัว แต่คิดว่าต้องทำอย่างไรให้ได้วัคซีนมากที่สุด ได้คิวแรกๆ ผมต้องตื่นตี 3 มาคุย เพราะบ้านเขาเพิ่งบ่ายสามโมง 

คุณอนุทินพูดอยู่เสมอว่าเป็นคนที่รับใช้ประชาชน ฟังเสียงประชาชน แต่ในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา เคยมีการล่าชื่อเสนอถอดถอนคุณอนุทินออกจาก ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ผ่านเว็บไซต์ Change.org อยากทราบว่าคุณรับฟังเสียงเหล่านี้ด้วยไหม

พอดีชื่อถอดถอนไม่ถึง 2 แสนคน หลักพันยังไม่ถึงเลย อยากถอดก็ถอดไป ผมเลิกคุย ผมก็เลิกลงนามเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ของบประมาณการจัดซื้อยาเวชภัณฑ์ อยากถอดผมนักก็ถอดก็ไป หาคนมาทำแทนใช่ไหม แต่ผมแยกแยะออก ต่อให้ถอดถอนผมครบ 2 แสนคน แต่มีอีก 47.8 ล้านคน รอลายเซ็นผมอยู่ เดี๋ยวผมเซ็นให้เรียบร้อยก่อนค่อยลาออกก็ได้

แต่สิ่งที่เราทำมันเป็นความบริสุทธิ์ใจ ทำด้วยความทุ่มเทในสิ่งที่เรามีอยู่ ทั้งประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถ เรานำความเป็นไทยไปดีลกับคนผลิตวัคซีน เราจะไม่ยอมให้ประเทศไทยเป็นเบี้ยล่างเขา อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองผมทำหมดครับ ที่สุดก็ต้องมาดูผลลัพธ์ ทุกอย่างเป็นไปตามแผน บุคลากรทางการแพทย์ได้รับวัคซีนเป็นกลุ่มแรก ต่อมาก็กลุ่มเสี่ยงสูงทยอยลงมาที่คนปกติทั่วไป โปรแกรมฉีดวัคซีนเกิดขึ้นตามกำหนดการทุกอย่าง 

ทำไมคุณไม่มองว่าถ้าผมไม่ได้เป็นรองนายกรัฐมนตรี และกำกับกระทรวงคมนาคมด้วย ผมจะมีปัญญาไปเอาศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อซึ่งเป็นของสถานีรถไฟมาได้ไหม เพราะมันไม่ได้อยู่ในกระทรวงสาธารณสุข ถ้าเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอย่างเดียว ไม่ได้เป็นรองนายกฯ โอเค — อาจจะทำได้ แต่ใช้เวลานานมาก แต่ผมใช้อำนาจที่ผมมีอยู่กำกับดูแลกระทวงคมนาคม สุดท้ายด้วยระบบนี้ประกอบกับเครือข่ายทั่วประเทศอีกมหาศาล ก็สามารถฉีดวัคซีนให้คนไทยได้ แต่ผมต้องใช้ความเป็นรองนายกฯ ไม่ใช่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ใช้คำว่าสั่งการเลยก็ได้ให้มีศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อขึ้น

สามารถสรุปแบบนี้ได้ไหมว่า หากวันนั้นคุณอนุทินลาออก การจัดการโควิด-19 คงไม่มีประสิทธิภาพเท่านี้

ไม่ทราบครับ อาจมีคนที่เก่งกว่าผม หรือห่วยกว่าผม แต่สิ่งนั้นมันไม่เกิดขึ้น การถอดถอนรัฐมนตรีมีโอกาสอยู่แล้ว แต่ที่สำคัญคือไม่ได้มีคนถึงจำนวน 2 แสนคน ไม่รู้ว่ากี่คน อาจจะ 30 คนหรือ 300 คน ผมไม่ทราบ แต่ผมไม่มีความกดดันจากผู้บังคับบัญชาของผม นั่นคือนายกรัฐมนตรี และไม่มีความกดดันผ่านสภาผู้แทนราษฎร หรือรัฐสภา สุดท้ายผมสามารถทำหน้าที่ตัวเองให้ลุล่วงได้ก่อนการล่ารายชื่อครบ 2 แสนคน และเมื่อวัคซีนโควิด-19 ไปถึงแขนคนที่อยากถอดถอนผม เรื่องนั้นมันก็เงียบไปโดยปริยาย

ไม่มีใครมาถอดถอนผม ผมถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจมา 2 ปี ซ้อน แต่ผมได้รับคะแนนไว้วางใจสูงสุดจากสภาผู้แทนราษฎร เราก็ต้องเคารพในเกณฑ์นะครับ ผมได้รับการไว้วางใจจากสภาผู้แทนราษฎร นั่นหมายถึงผมได้รับความไว้ใจจากตัวแทนของประชาชน 

แล้วนโยบายกัญชาของภูมิใจไทยล่ะ จนถึงทุกวันนี้คุณคิดว่ามีปัญหาไหม

กฎหมายกัญชาต้องเริ่มมาจากนโยบายของพรรคภูมิใจไทยว่าจะปลดกัญชาออกจากการเป็นยาเสพติด และนำมาใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ส่งเสริมสุขภาพจากสรรพคุณกัญชา และทำเป็นพืชเศรษฐกิจ ไม่มีการอนุญาตให้ใช้เพื่อสันทนาการ ไม่อนุญาตให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าถึง ไม่อนุญาตให้ใช้ในที่สาธารณะ ในโรงเรียน หรือสถานที่ราชการ ทุกอย่างจะใช้ต้องขออนุญาตจากหน่วยงานที่กำกับดูแลเกี่ยวข้อง ทุกอย่างอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายสาธารณสุขที่เรียกว่าประกาศกระทรวงสาธารณสุข 

ภาพหรือข่าวคราวของเยาวชน ‘พี้’ กัญชาที่ผุดขึ้นมารายวัน หรือหาซื้อกัญชากันได้แม้แต่ริมทางเท้า คุณมีความคิดเห็นอย่างไร

มันเป็นภาพก่อนที่นโยบายกัญชาของพรรคภูมิใจไทยจะถูกนำมาใช้หรือเปล่า

เป็นช่วงหลังจากนโยบายกัญชาของพรรคภูมิใจมีการประกาศใช้

ก่อนพรรคภูมิใจไทยประกาศใช้นโยบายกัญชา ไม่มีการพี้กัญชาในประเทศไทยเลยเหรอ มีไหม มีเพียบเลย ที่ไหนบ้างผมยังรู้ แต่หลังจากมีนโยบายพรรคภูมิใจไทยออกมา จำนวนการพี้ลดลงนะ เพราะคนไทยเห็นประโยชน์ของกัญชาในด้านบวกมากขึ้น เช่น น้ำมันกัญชาทำให้คนนอนหลับได้ รักษาผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายได้ ส่วนที่คุณพูดมานั้นมันเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เมื่อผิดก็มีบทลงโทษ จำคุก ปรับ ดำเนินคดี เพิกถอนใบอนุญาต ยึดของกลาง ก็เป็นไปตามกฎหมายทั่วไป

ต้องถามก่อนว่าอายุเกิน 20 ปีหรือไม่ ตั้งท้องหรือเปล่า ถ้าเป็นเช่นนั้นขายกัญชาให้ไม่ได้ ก็เหมือนการไปซื้อเหล้า เด็กอายุต่ำ 18 ปีห้ามซื้อ พอคนอายุเกิน 20 ปี บรรลุนิติภาวะ ก็ต้องรู้ว่าขายตามขั้นตอน ขายตามจรรยาบรรณเป็นแบบไหน เพราะฉะนั้นต้องมองการกระทำที่ทำให้คนหมู่มาก 

ก็มีคนไปพูดประชดประชันว่ามาเที่ยวเมืองไทยเลย มาสูบกัญชาฟรี ก็ลองมาสิครับ ผมไม่รู้ว่าสูบกัญชาฟรีหรือเปล่า แต่ได้นอนห้องขังฟรีแน่นอน เผลอๆ จะเสียเงินค่าประกันตัวมาสู้คดีด้วย ไม่คุ้มหรอกครับ เพราะฉะนั้นตรงนี้คนที่ตั้งใจทำผิดกฎหมายก็จะหาช่องโหว่อยู่วันยังค่ำ เรามีเจ้าหน้าที่บ้านเมือง มีกฎหมาย ก็ปราบปรามไป ส่วนที่เป็นประโยชน์ เสริมสร้างรายได้ให้กับคนไทยเป็นจำนวนมหาศาล ก็ให้เขาสร้างรายได้ตรงนี้ไป เพราะมีคนมาลงทุนอีกมากมาย เขาไม่ได้มาพูดถึงการใช้เพื่อสันทนาการใดๆ ทั้งนั้น    

คุณอนุทินคิดว่าเป็นเกมทางการเมืองหรือไม่ ที่กฎหมายกัญชาวาระที่ 2 ถูกตีตก 

      แน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์สิครับ แต่พรรคภูมิใจไทยไม่เสียประโยชน์ตรงนี้อยู่แล้ว เรารักษาสัญญาเรียบร้อย คนไทยสามารถปลูกกัญชาครัวเรือนละ 6 ต้นได้ คนไทยสามารถสร้างรายได้มีผลิตภัณฑ์สินค้าต่างๆ ได้ พรรคภูมิใจไทยส่งการบ้านให้ประชาชนเรียบร้อยแล้ว กฎหมายไม่ใช่เรื่องของพรรคภูมิใจไทยพรรคเดียว และนโยบายกัญชาเพื่อการแพทย์ สุขภาพ เศรษฐกิจ ก็อยู่ในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลชุดนี้ สภารับทราบแล้ว รัฐบาลยอมรับ แต่องค์ประชุมไม่ครบ พรรคภูมิใจไทยคิดอย่างอื่นไม่ได้จริงๆ 

ขอถามคำถามยอดนิยมที่คงมีคนถามคุณอนุทินบ่อยๆ ว่า คุณกับคุณเนวิน ชิดชอบ มีความสัมพันธ์กันแบบไหน ระดับไหน

เป็นพี่น้องนอกไส้ ที่สนิทกว่าญาติแท้ๆ พอไหมครับ

หลายคนกล่าวว่าคุณอนุทินอยู่ในร่มเงาของคุณเนวิน

เราเป็นร่มเงาให้กันและกัน ผมอายุ 57 ปี คุณเนวินอายุ 66 ปี คนอายุ 57 หรือคนอายุ 66 ปี คบกันนานเป็นระยะเวลากว่า 20-30 ปี เขารู้กันว่าต้องปฏิบัติตัวต่อกันอย่างไร ตอนเขาอายุ 46 ปี ผมอายุ 37 ปี ก็คบกันอีกแบบหนึ่ง ไล่เตะต่อย จั๊กจี๊กัน พอเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลเดียวกันก็ปฏิบัติอีกแบบหนึ่ง ในที่สาธารณะก็ให้เกียรติกัน อยู่บ้านก็เป็นพี่น้อง

คำว่าร่มเงาแปลว่าอะไรครับ…ถ้าแปลว่าท่านเนวินสั่งให้ผมไปกระโดดตึกตอนนี้ ผมกระโดดไหม ไม่กระโดดอยู่แล้ว ผมอาจจะบอกพี่โดดก่อนเลยแต่ผมไม่บอกนะว่าผมจะโดดตาม มันเป็นความเข้าใจกัน เรามีวุฒิภาวะมากพอ เป็นรองนายกฯ แล้วครับ เป็นหัวหน้าพรรค มีบทบาทสำคัญทางการเมืองในอนาคต เราต้องมีวุฒิภาวะและความเป็นตัวเอง มีความกล้าในการตัดสินใจหลายๆ เรื่อง ที่สำคัญต้องฟังความเห็นจากคนทุกๆ ฝ่าย

เช่น มีผลโพลบอกว่าพรรคผมเลือกตั้งครั้งนี้จะเหลือแค่ 15 ที่ หรือคิดเป็น 3% ผมก็ฟังทั้งหมด ผมไม่ได้บอกว่า โอ้ย แค่ 15 คนเองเหรอ โพลขี้เท่อ ไร้มาตรฐาน แต่ผมไปดูว่าพวกเขาคิดอย่างไร วิธีการแบบไหน ก็นั่งซ่อม เอาข้อมูลจากคนนั้นคนนี้มาวิเคราะห์ สุดท้ายมันจะเป็นโพลของหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย คือโพลที่ผมถือไว้ไม่บอกใคร และผ่านการกลั่นกรองมาแล้ว เพราะเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาผมทำแบบนี้มาแล้ว 3 ครั้ง ซึ่งผลออกมาตรง 99% เพราะฉะนั้นเราเชื่อตัวเอง เชื่อการทำงานของเรา

พอจะเปิดเผยผลโพลส่วนตัวครั้งนี้ได้ไหมว่า พรรคภูมิใจไทยน่าจะได้จำนวน ส.ส. ประมาณเท่าไร

เป็นหัวหน้าพรรคก็ต้องมีการตั้งเป้าครับ มีการประเมินติดตามผลอยู่แล้ว ขอพูดเป็นเป้าแทน ผมตั้งไว้สามหลักครับ

คิดเห็นอย่างไรกับคำพูดที่ว่า พรรคภูมิใจไทยซื้อได้ทุกอย่าง 

      ถ้าซื้อได้ทุกอย่างจริง มีพลังซื้อเยอะจริง ทำไมไม่ซื้อ 251 คนให้หมดเรื่องหมดราว ในเมื่อตั้งคำถามกันเองว่าเขาซื้อ ส.ส. เท่าไรก็ได้ เขามีพลังไม่จำกัด ทำไมผมได้มาแค่นี้ จำนวนสามหลักต้นๆ เขาบอกไม่มีขีดจำกัดไม่ใช่เหรอ ทำไมผมไม่มีปัญญา มันเป็นการคาดเดา การมโนพูดไปเรื่อย เพราะไม่ต้องมารับผิดชอบอะไร คนหน้างานเขารู้ว่าเราซื้อโดยผลงานครับ

      ดังนั้น ผมขอพูดตรงนี้ให้ชัดเจนเลยว่า เราซื้อ ส.ส. ด้วยผลงานของพรรค ที่ทำให้ ส.ส. เหล่านั้นมีความมั่นใจว่า ถ้ามาพรรคนี้หัวหน้าพรรคเข้าถึงง่าย เลขาธิการละเอียด ขยัน เข้าใจประชาชน จิตใจบริการประชาชน มาอยู่พรรคนี้ดีกว่า สามารถทำงานให้กับประชาชนได้ ประตูห้องทำงานผมไม่ได้ล็อกนะครับ เข้ามาได้เสมอ ขออย่างเดียวอย่ามายืมเงิน นอกนั้นได้หมด นี่คือประเพณีของภูมิใจไทย แล้วทำไม ส.ส. ที่มาทำงานร่วมกับเราจะไม่ชอบ เราไม่มีความขัดแย้งในพรรค แม้ว่าการประชุมจะมีทุบโต๊ะ ฟึดฟัดใส่กันเต็มที่ แต่มีกฎเหล็กว่าถ้าที่ประชุมมีมติแล้วต้องยึดถือมติที่ประชุมเป็นสิ่งสำคัญและต้องปฏิบัติตาม

ที่มีการครหาว่าพรรคภูมิใจไทย ‘ซื้อ Influencer’ เพื่อช่วยในการประชาสัมพันธ์หรือสร้างภาพลักษณ์ด้วย จริงไหม เช่นกรณีการ์ตูนการเมืองชิ้นหนึ่งในเพจไข่แมวx

เชื่อไหมว่าหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยต้องเป็นคนอนุมัติค่าใช้จ่ายทุกอย่างของพรรค ก่อนหน้านี้เหรัญญิกพรรคยังไม่รู้จักเลยว่า ไข่แมวคืออะไร จะบอกว่าเฉิ่มก็เฉิ่มเถอะ แต่พอจะรู้ว่า Influencer แปลว่าผู้ทรงอิทธิพล แต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร ผมไม่มีความจำเป็นที่ต้องไปซื้อ Influencer ทุกวันนี้พรรคภูมิใจไทยก็ครองหน้าสื่อแม้กระทั่งวันหยุด คุณลองพิมพ์ใน Google คำว่าอนุทิน ชาญวีรกูล ดูสิครับ ไม่มีวันไหนที่ไม่เป็นข่าว

ถ้าการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคภูมิใจไทยได้จำนวนที่นั่ง ส.ส. ไม่เพียงพอสำหรับการเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล คุณคิดจะจับมือกับพรรคไหนบ้าง

เมื่อทุกคนทราบดีแล้วว่ามีกี่เสียง พอไม่พอ จับมือกับใครมันจะมาเองอัตโนมัติ วันนี้ขอให้ทราบก่อน เค้นอย่างไรก็ไม่มีใครบอกคุณได้หรอก ไปถามหัวหน้าพรรคไหนก็ไม่บอกครับ ไม่ได้อมพะนำ แต่มันไม่รู้ ก็ต้องมองในสิ่งที่หัวหน้าพรรคทำได้ดีที่สุด ปิดช่องโหว่ให้หมด ที่เหลือคือเรื่องของผู้กำหนด ในกรณีนี้คือประชาชน ถ้าเอาไปพูดก่อนมันเป็นการกระทำที่ข้ามหัวพวกเขาเลย เป็นความผิดมหันต์ ไม่ให้เกียรติประชาชน เพราะฉะนั้นพูดไม่ได้ แต่ตั้งเป้าได้ ทำทุกอย่าง หากลยุทธ์ กลเม็ดเด็ดพรายทำให้เข้าเป้าตามที่เราต้องการ

สมมติว่าพรรคคุณอนุทินจับมือกับพรรครวมไทยสร้างชาติของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใครจะเป็นนายกฯ 

ผมตอบได้เลยครับว่ากติกาสากลมันมี ถ้าผมมีคะแนนมากกว่าเขาครึ่งหนึ่งผมเป็นนายกฯ อยู่แล้ว เพราะน่าจะคาดเดาได้ สมมติใครมีคะแนนน้อยกว่าครึ่งหนึ่ง แต่กลับไปพูดว่า “น้อง พี่ขอเป็นนายกฯ นะ” หรือ “น้อง พี่ขอเป็นผู้นำ” เอางี้ ผมขอไม่พูดถึงเรื่องนายกฯ สมมติไปไหนด้วยกัน ของมูลค่า 150 บาท แบ่งเป็นสองชิ้น น้องออกเงิน 100 บาท พี่ออกเงิน 50 บาท แต่คนที่ออกเงินแค่ 50 บาทจะขอหยิบของก่อน มันสากลไหม มันแฟร์ไหม ทำได้ไหม ผมว่ารอให้ทุกอย่างมันเกิดขึ้นก่อนก็จะมีคำตอบในตัวมันเอง

สมมติอีกครั้งว่า พลเอกประยุทธ์บอกว่า “น้อง พี่ขอก่อนสัก 2 ปี”

ของบางอย่างมันขอกันไม่ได้ บางอย่างมันต้องเป็นไปตามกฎกติกา มารยาท การยอมรับ มันขึ้นกับหลายๆ อย่าง ถ้าพูดคำนี้หลังจาก ส.ว. 250 คนหมดวาระเฉพาะกาลแล้ว แน่นอนว่าไม่มีใครกล้าพูด ถูกไหมครับ แต่ผมเชื่อว่าหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรคมีน้ำใจนักกีฬา ไม่อย่างนั้นจะมาเป็นผู้นำ หรือบางคนเคยเป็นผู้นำประเทศมาแล้ว ทุกคนแทบจะมีบทบาททางการทูต มีวุฒิภาวะสูง มีการศึกษาสูง มีสปิริตการอยู่ร่วมกันสูง เชื่อไหมผมไม่กังวลเรื่องนี้ ถึงเวลากติกาสังคม กติกาโลกจะบอกเราเอง

พรรคภูมิใจไทยมีโอกาสจับมือกับพรรคเพื่อไทยบ้างไหม

พรรคเพื่อไทยกับผมเราไม่ได้เป็นศัตรูกัน แต่เป็นคู่แข่งทางการเมือง ท่าน (ทักษิณ ชินวัตร) ได้เปรียบผม เพราะท่านเคยเป็นผู้บังคับบัญชาผม อย่างไรผมก็ต้องให้ความเคารพ เพราะฉะนั้นการแข่งขันก็แข่งขันกันไป ส่วนความเป็นผู้ใหญ่ของท่านเราก็เคารพนบนอบ มีสัมมาคารวะต่อผู้เคยเป็นผู้บังคับบัญชา ท่านเป็นนายกรัฐมนตรี ผมเป็นรัฐมนตรี โดยสายงานต้องให้ความเคารพ ให้เกียรติกันอยู่แล้ว

นายกรัฐมนตรีที่ดีในมุมมองคุณต้องเป็นนายกฯ แบบไหน

มีความเป็นผู้นำ ถ้าเทียบกับยุคสมัยนี้ต้องทำให้ความสามัคคีในชาติเกิดขึ้นและยั่งยืน ทำให้เกิดความสงบเรียบร้อย มีศิลปะในการทำงาน เชื่อมประสานคนทุกขั้วทุกฝ่ายให้มาทำงานร่วมกัน ในเรื่องของความซื่อสัตย์สุจริตเป็นคุณสมบัติขั้นพื้นฐานอยู่แล้ว แต่แค่นี้ยังไม่ดีพอ ถ้าดีพอต้องรวบรวมความขัดแย้ง ความเห็นต่าง ความเกลียดชัง เข้ามาเป็นหนึ่งเดียว รวมพลังขับเคลื่อน ลดทิฐิทั้งหลาย ลดอัตตา ซึ่งผมมั่นใจว่าด้วยคุณลักษณะทั้งหมด บุคลิกภาพ การศึกษา และประสบการณ์ที่มีอยู่ ผมคิดว่าตัวเองอยู่ในหมวดนี้ 

แสดงว่าคุณอนุทินพร้อมแล้วสำหรับการเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 

ถ้าไม่พร้อมคงไม่ยอมรับการเสนอชื่อให้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยเพียงคนเดียวหรอกครับ

มีคนเรียกว่า ‘นายกฯ หนู’ บ้างหรือยัง

มีตั้งหลายคน ถ้ามันถึงเวลาก็เป็นไปตามนั้น ถ้าเราได้รับความไว้วางใจจากประชาชนเพียงพอ 

ท้ายสุด หากเทียบเคียงการเมืองไทยกับสงครามอวกาศอย่าง Star Wars คุณอนุทินคิดว่าตัวเองเป็นตัวละครใดในเรื่องนี้

      ผมต้องเป็น ดาร์ธ เวเดอร์ (Darth Vader) เพราะต้องมีความเด็ดขาด ต้องมีบทโหดเหี้ยมบ้าง แต่ในที่สุดก็ต้องมีความซอฟต์ ลึกๆ เป็นคนซอฟต์ ผมอาจจะเป็นคนซอฟต์มากก็ได้ ก็เลยต้องแสดงบทโหดเหี้ยมเอาไว้ปิดบังความซอฟต์ของตัวเอง

Fact Box

  • อนุทิน ชาญวีรกูล เป็นลูกชายของ ชวรัตน์ ชาญวีรกูล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รองนายกรัฐมนตรี และรักษาการนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์
  • เรียนจบระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนอัสสัมชัญ และศึกษาต่อด้านวิศวกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัย Hoftra ประเทศสหรัฐอเมริกา
  • เขาได้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในรัฐบาลทักษิณเมื่อปี 2547 จนถึงช่วงก่อนการรัฐประหารในปี 2549 
  • อนุทินเป็น 1 ใน 111 คนของกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี
  • เมื่อครบกำหนด 5 ปี เขาเข้ารับช่วงต่อตำแหน่งหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จากชวรัตน์ ชาญวีรกูล ผู้เป็นบิดามาจนถึงปัจจุบัน
Tags: , , , , ,