เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2562 กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวแห่งประเทศจีน ออกสาส์นเตือนประชาชนชาวจีน ที่กำลังตัดสินใจจะไปเที่ยวที่สหรัฐอเมริกาให้ระวังตัวให้มาก เพราะที่นั่นเต็มไปด้วยการคุกคาม อาชญากรรม และความรุนแรงจากปืน
เช่นเดียวกันกระทรวงต่างประเทศ และสถานทูตจีนในอเมริกาก็ออกสาส์นเตือนไปยังนักลงทุน และนักเรียนชาวจีนที่เรียนในอเมริกา ให้ ‘ระมัดระวังเรื่องความปลอดภัย’ รวมถึงให้ระวังเรื่องการต่อวีซ่า ในรายงานฉบับเดียวกันนั้นระบุว่า มีชาวจีนหลายรายที่ถูกสอบสวน ตรวจสอบ หรือใดๆ ก็ตามที่นับเป็นการคุกคาม (harassment) โดยเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ เพียงเพราะพวกเขาเป็นชาวจีน
คำเตือนเหล่านี้นับเป็นการตอบโต้ข้อพิพาทที่จีนมีกับสหรัฐฯ ด้วยสงครามการค้าอันร้อนระอุ รวมถึงล่าสุดนี้ที่ ไมค์ ปอมเปอี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ ออกมาชื่นชม ‘ฮีโร่’ ที่กล้าลุกขึ้นสู้เพื่อความชอบธรรมทางการเมืองและกล้าเป็นปฏิปักษ์กับรัฐบาลจีน ในวาระครบรอบ 30 ปี การสลายการชุมนุมที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน
ไฟแนนเชียลไทมส์ระบุว่า สาส์นจากกระทรวงการท่องเที่ยวนั้นมีผลมาจากเหตุกราดยิงที่รัฐเวอร์จิเนียเมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยในวันเกิดเหตุสถานทูตและสถานกงศุลอเมริกาในประเทศจีนได้ลดธงลงครึ่งเสาเพื่อไว้อาลัยให้ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว หากแต่มีการตีความโดยสื่อบางเจ้า ว่าเป็นการไว้อาลัยให้ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์เทียนอันเหมิน
กล่าวถึงความขัดแย้งเมื่อเดือนที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกาเพิ่งแบนบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างหัวเว่ย ขณะที่เมืองหลวงของจีนอย่างปักกิ่งก็ประกาศว่ากำลังจะแบล็กลิสต์บริษัทอเมริกาจำนวนหนึ่งเช่นกัน มาถึงตอนนี้ มันได้ลุกลามไปสู่การท่องเที่ยว
ในปี 2018 นักท่องเที่ยวชาวจีนใช้จ่ายไปกว่า 3.64 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นรายได้ก้อนใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของอเมริกา ซึ่งหากคำเตือนจากรัฐบาลจีนส่งผลต่อการตัดสินใจของประชาชน ย่อมส่งผลต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของอเมริกาในปีนี้ไม่น้อยทีเดียว
อ้างอิง:
https://www.ft.com/content/27621f56-86a3-11e9-97ea-05ac2431f453
ภาพ:
Rueters Lucas Jackson