เพื่อตอกย้ำการเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในใจผู้บริโภค ทำให้ในรอบปีที่ผ่านมาทางแบรนด์ช้างได้จัดกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่องในหลากหลายแพลตฟอร์ม เพื่อสร้างประสบการณ์ที่เติมเต็มไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค พร้อมกับการเปิดตัวเบียร์ใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทุกกลุ่ม
นอกจากกลยุทธ์ในการรุกตลาดแบบ Experiential Marketing บนแพลตฟอร์มที่หลากหลาย ทั้งกีฬา อาหาร ดนตรี และไลฟ์สไตล์ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์แล้ว อีกสิ่งที่สำคัญคือปรัชญาความละเมียดที่เป็นแกนหลักในการทำธุรกิจในการสร้างแบรนด์ช้าง
ความละเมียดคือหัวใจหลักในการสร้างแบรนด์
คอนเซ็ปต์ ‘ละเมียด’ เป็นแคมเปญที่ช้างได้สื่อสารถึงความละเมียดและพิถีพิถันในการทำงานทุกขั้นตอน ตั้งแต่การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ ตลอดจนการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักและครองใจผู้บริโภคทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
โฆษิต สุขสิงห์ ผู้บริหารสูงสุดสายธุรกิจเบียร์ ประเทศไทย กล่าวว่า ปรัชญาความละเมียด คือแกนหลักในการทำธุรกิจและสร้างแบรนด์ของแบรนด์ช้าง ตั้งแต่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทั้งการคัดเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูง ผ่านการควบคุมดูแลด้วย Brew Master และผู้เชี่ยวชาญการผลิตเบียร์ที่มีประสบการณ์สูง ผลิตในโรงเบียร์ที่ได้มาตรฐานระดับสากล และบรรจุภัณฑ์ที่ได้รับการออกแบบด้วยความพิถีพิถัน ตลอดจนการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักและครองใจผู้บริโภค ผ่านแคมเปญต่างๆ ในรูปแบบ Experiential Marketing บนแพลตฟอร์มที่หลากหลายทั้ง กีฬา อาหาร ดนตรี และไลฟ์สไตล์ ที่เน้นการสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำให้ผู้บริโภค
“ถ้าใครที่เคยมาร่วมงานกิจกรรมของช้างจะเห็นได้ว่าช้างมีความละเมียดในทุกๆ สิ่งจริงๆ ยกตัวอย่างเช่น งานช้าง มิวสิค คอนเนคชั่น ที่เป็นแพลตฟอร์มดนตรี เราให้ความสำคัญกับเรื่องโครงสร้างและเวทีเป็นอย่างมาก มีการใช้ Visual Graphic ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษให้เข้ากับเพลงแต่ละเพลงของศิลปินแต่ละคน ซึ่งบางคอนเสิร์ตอาจจะไม่ได้มีการใส่รายละเอียดตรงนี้มากนัก”
“หรืออย่างงาน ช้าง คาร์นิวัล The Green World ก็เป็นอีกหนึ่งงานที่สร้างความภาคภูมิใจในเรื่องการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ โดยงานนี้ถือว่ามีความโดดเด่นอย่างมากเพราะเป็นการเอาสิ่งที่ผู้บริโภคสนใจหรือที่สิ่งที่ผู้บริโภคต้องการมาสร้างเป็นเฟสติวัลนี้ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการนำดีเจระดับโลกกว่า 20 ชีวิตเข้ามาสร้างความสนุกให้กับคนไทย หรือการจัดกิจกรรมเวิร์คช็อป ซึ่งจะเปลี่ยนไปตามจังหวัดต่างๆ เพราะผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่ก็มีความสนใจ และไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน รวมไปถึงการนำเอาความเป็นโชว์เข้ามาผสมผสาน จึงถือได้ว่างานนี้เป็นไลฟ์สไตล์เฟสติวัลอย่างแท้จริง ในรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร”
ผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมผู้บริโภคทุกกลุ่ม
สำหรับใครที่สงสัยว่าทำไมต้องมีผลิตภัณฑ์มากมายและหลากหลาย ทางผู้บริหารเปิดเผยว่า เนื่องมาจากการศึกษาข้อมูลด้านพฤติกรรมผู้บริโภค ทำให้ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์สิ่งที่ผู้บริโภคมองหา และนำเสนอให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของแต่กลุ่ม และด้วยเป้าหมายที่ต้องการเข้าถึงผู้บริโภค จึงมีผลิตภัณฑ์ในเซกเมนต์ที่ไม่เหมือนกัน เพื่อสร้างประสบการณ์ที่สามารถครองใจผู้บริโภคอย่างแท้จริง
ช้าง คลาสสิค เป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ มีความทันสมัย ที่มีไลฟ์สไตล์ในการชอบสังสรรค์ มีช่วงเวลาดีๆ กับเพื่อน ไม่ว่าจะเป็นโอกาสไหน เมื่อไร หรือกับเพื่อนกลุ่มไหน ช้างก็สามารถอยู่ในทุกช่วงเวลาและทุกช่วงโอกาสได้เสมอ
เฟเดอร์บรอย คือเบียร์ระดับพรีเมี่ยม สำหรับกลุ่มผู้บริโภคที่มีรสนิยมที่ทันสมัยและไลฟ์สไตล์ที่มีเอกลักษณ์ มีความเป็นสากล โดยได้สะท้อนไลฟ์สไตล์ของความเป็นเฟเดอร์บรอย ผ่านกิจกรรมการตลาดที่มีสีสันต่างๆ เช่น Federbräu Red Feather Club ที่มีการจัดขึ้นอยู่ตลอดทั้งปี ที่เพิ่งจบไปก็มีงาน The Oktoberfest Bangkok และล่าสุด BAB (Bangkok Art Biennale) ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มาจัดแสดงในประเทศไทย และที่พิเศษไปกว่านั้นคือ การที่เฟเดอร์บรอยออกเบียร์ตัวใหม่เป็น Wiess bier ที่จะพบในงานอีเวนต์ของเฟเดอร์บรอยเท่านั้น ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มนี้อีกด้วย
แทปเปอร์ ออริจินัล เอ็กซ์ตร้า จะเจาะกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบเบียร์ลาเกอร์ที่รสชาติเข้ม มีปริมาณแอลกอฮอล์สูงถึง 6.5% เป็นผลิตภัณฑ์ที่มาเติมเต็ม Portfolio ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
รู้จักและฟังเสียงผู้บริโภค
โฆษิตเปิดเผยว่าหัวใจของการทำธุรกิจเบียร์ คือการรู้จักและฟังเสียงผู้บริโภค คำนึงถึงความรู้สึกของผู้บริโภคอยู่ตลอดเวลา โดยต้องทำตัวเป็นนักวิจัยที่รู้จักสังเกต ตั้งคำถาม หาข้อมูลแล้ววิเคราะห์ผู้บริโภค เพื่อนำมาพัฒนาธุรกิจให้ตอบโจทย์ ตรงใจกับความต้องการผู้บริโภค ซึ่งจะส่งผลในระยะยาวให้ธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
“ในเรื่องพฤติกรรมผู้บริโภค เราให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกๆ ในแต่ละพื้นที่นั้นก็มีปัจจัยของผู้บริโภคที่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ ก็มีปัจจัยในการตัดสินใจซื้อที่ไม่เหมือนกัน เราจึงต้องเรียนรู้ ปรับตัว และมองหา สิ่งที่ผู้บริโภคอยากได้และนำเสนอเขาในรูปแบบที่เป็นตัวของแบรนด์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกแบรนด์ต้องปรับตัวกันตลอดในการหาจุดลงตัวกับผู้บริโภค”
โดยเฉพาะยุคนี้ที่ผู้ผลิตสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ใกล้ชิดมากขึ้น ทำให้เข้าใจความต้องการได้ชัดเจน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าความสนใจของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาต้องการความแปลกใหม่และหลากหลาย ในขณะเดียวกันก็ยังคงคำนึงถึงปัจจัยเรื่องภาพลักษณ์และคุณภาพ เหล่านี้เป็นจุดที่ธุรกิจของเราทำมาโดยตลอด ไม่ใช่แค่การพัฒนาที่ตัวผลิตภัณฑ์แต่เพียงอย่างเดียว แต่เป็นทุกองค์ประกอบรวมทั้งประสบการณ์ที่ผู้บริโภคได้รับไปจากแบรนด์
“อย่างแบรนด์ช้าง เราได้ทำการตลาดที่เข้าถึงผู้บริโภคด้วยกิจกรรมทางการตลาดที่ครอบคลุมทุกเซ็กเม้นต์ทั้ง ด้านดนตรี กีฬา ไลฟ์สไตล์ อาหาร ส่วนเบียร์เฟเดอร์บรอยจับกลุ่มตลาดพรีเมียมก็สื่อสารกับกลุ่มผู้บริโภคที่มีความทันสมัยและไลฟ์สไตล์ที่มีเอกลักษณ์ ให้ความรู้สึกเป็นคนแรกที่ก้าวนำคนอื่น”
การตลาดที่เน้นสร้างประสบการณ์บนทุกแพลตฟอร์ม
หลังจากมีการทำการตลาดในรูปแบบ Experiential Marketing บนแพลตฟอร์มที่หลากหลายมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์ ทำให้ส่งผลให้ ‘ช้าง’ เป็นแบรนด์ที่ครองความเป็นอันดับหนึ่งในใจผู้บริโภค (Top of mind) ถึงสามปีซ้อน จากผลสำรวจของ IPSOS และเป็นแบรนด์ที่มีผลงานโดดเด่นบนโลกออนไลน์ โดยเพจช้างเวิลด์ได้รับรางวัลชนะเลิศ Best Brand Performance กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จากเวที Thailand Zocial Awards 2018 ที่ปัจจุบันเฟซบุ๊กแฟนเพจมีผู้ติดตามถึง 1,495,415 คน
“อย่างดนตรีก็มีงาน ช้าง มิวสิค คอนเนคชั่น หรือไลฟ์สไตล์เฟสติวัล ในชื่อ ช้าง คาร์นิวัล ส่วนของกีฬา จริงๆ ทางช้างเองมีการสนับสนุนกีฬาหลากหลายประเภท แต่ที่คนส่วนใหญ่อาจจะเคยได้รับทราบและอยู่ในความสนใจของคนไทยทั้งประเทศคือเรื่องของฟุตบอล
“เรียกได้ว่าเราเป็นผู้สนับสนุนหลักวงการฟุตบอล นอกจากการที่เราเป็นพันธมิตรกับสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์สนับสนุนทีมชาติไทย เรายังสนับสนุนสโมสรฟุตบอลอีกมากกว่า 20 สโมสร และเป็นผู้สนับสนุนหลักรายการ CHANG FA CUP”
“ในส่วนของกิจกรรมที่เกี่ยวกับอาหาร ก็ให้ความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากอาหารและเครื่องดื่มเป็นของที่คู่กัน ในปีที่ผ่านมา เรามีกิจกรรมที่ชื่อว่าช้าง เซนซอรี่ เทรลส์ที่จัดขึ้นทั่วประเทศเพื่อให้แก๊งเพื่อนมาเติมเต็มทุกรสชาติความอร่อยไปกับช้าง และมีทำรายการออนไลน์ชื่อว่า ‘อลังการจานช้าง’ เป็นรายการที่ไปตามหาวัตถุดิบที่ขึ้นชื่อของแต่ละจังหวัด มาสร้างสรรค์เป็นเมนูใหม่ที่ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อนนำไปเสิร์ฟให้กับผู้บริโภคและกลุ่มเพื่อนๆ ได้ชิมและแชร์ความอร่อยนี้ด้วยกัน
ขณะที่เบียร์เฟเดอร์บรอย ก็มี Federbräu Red Feather Club ไลฟ์สไตล์พาร์คใจกลางกรุงที่ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ และงาน BAB (Bangkok Art Biennale) ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มาจัดแสดงในประเทศไทย โดยเฟเดอร์บรอยได้เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนงานระดับโลกครั้งนี้ เพื่อให้เมืองไทยเป็นเมืองท่องเที่ยวในเชิงศิลปะ
“แผนการตลาดต่อไปในอนาคต ยังคงเน้นกับเรื่องไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค อยู่ที่ว่าเราจะเข้าใจผู้บริโภคได้มากน้อยแค่ไหน แต่ต้องยอมรับว่าไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคเปลี่ยนเร็ว มองหาสิ่งที่ตอบสนองความต้องการ และเราเข้าไปเติมเต็มความรู้สึกให้มากขึ้น” โฆษิตกล่าวทิ้งท้าย
Fact Box
- ด้านดนตรี จะใช้กิจกรรมที่ชื่อว่าช้าง มิวสิค คอนเนคชั่น (Chang Music Connection) เป็นคอนเสิร์ตที่ใช้เสียงเพลงเชื่อมต่อมิตรภาพผ่านศิลปินชั้นนำของประเทศ
- ด้านไลฟ์สไตล์ กิจกรรมชื่อว่า ช้าง คาร์นิวัล (Chang Carnival) ที่จะนำประสบการณ์ที่สุดแห่งไลฟ์สไตล์เฟสติวัล ให้ผู้บริโภคไปพบกับดีเจระดับโลก โชว์สุดอลังการ และกิจกรรมเวิร์กช็อปมากมาย
- ด้านอาหาร ช้าง เซนซอรี่ เทรลส์ (Chang Sensory Trail) แพลตฟอร์มด้านอาหารที่ได้จัดมาแล้วในประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกา และสิงคโปร์ ซึ่งได้เข้ามามอบประสบการณ์ความอร่อยให้กับคนไทยเมื่อปีที่ผ่าน ซึ่งกิจกรรมได้เริ่มขึ้นแล้วที่ลานหน้าเซ็นทรัลเวิล์ด และกำลังจะขยายไปทั่วกรุงเทพฯและต่างจังหวัด นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช้าง เซนซอรี่ เทรลส์จับมือกับ Wongnai เตรียมนำความอร่อยไปเสิร์ฟถึงมือคุณทั่วประเทศกับงาน ฟู้ด คาราวาน (Food Caravan) โดยช้างและ Wongnai ได้คัดสรรร้านอาหารเด็ดๆ เมนูโดนๆ ให้เพื่อนๆได้เตรียมท้องรอมากินกันได้ในงานนี้ โดยจะจัดขึ้นช่วงปลายปีนี้จนถึงปีหน้า
- ด้านกีฬา ช้าง ฟุตบอล โมเมนต์ (Chang Football Moment) ซึ่งช้างเป็นผู้สนับสนุนหลักวงการฟุตบอล โดยเป็นพันธมิตรกับสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์สนับสนุนทีมชาติไทย สนับสนุนสโมสรฟุตบอลอีกมากกว่า 20 สโมสร และเป็นผู้สนับสนุนหลักรายการ CHANG FA CUP