หลังเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรเจรจาครั้งล่าสุดกับผู้นำสหภาพยุโรปเมื่อวันที่ 11 มีนาคม เมื่อช่วงหัวค่ำของวันที่ 12 มีนาคม ตามเวลาท้องถิ่น รัฐสภาสหราชอาณาจักรก็ลงมติ คว่ำข้อตกลงว่าด้วยการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปหรือเบร็กซิตเป็นครั้งที่สอง

ในการเจรจาครั้งล่าสุด เมย์เปลี่ยนแปลงข้อตกลงโดยเพิ่มหลักประกันทางกฎหมายว่า จะไม่ใช้มาตรการควบคุมที่เข้มงวดกับพรมแดนระหว่างไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งอยู่ภายใต้สหราชอาณาจักรกับสาธารณรัฐไอร์แลนด์ที่เป็นประเทศสมาชิกอียู ยกเว้นในกรณีที่จำเป็น และเป็นการชั่วคราวเท่านั้น

ที่ผ่านมา เนื่องจากทุกฝ่ายต่างเป็นสมาชิกของอียู การค้าข้ามแดนเป็นไปอย่างเสรี ไม่มีด่านตรวจคนเข้าเมืองและด่านศุลกากรระหว่างพรมแดนทั้งสองประเทศ ในการทำข้อตกลง ทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกันว่ายังอยากให้คงไปแบบเดิม โดยไม่ต้องการใช้การกำหนดพรมแดนอย่างเข้มงวด  แม้จะแยกตัวออกจากอียูแล้วก็ตาม ขณะที่อียูเสนอให้ใช้นโยบายนี้อย่างไม่มีกำหนด ส่วนเมย์และชาวอังกฤษที่ต้องการแยกตัวออกจากอียูไม่เห็นด้วย และต้องการให้ระบุวันสิ้นสุดที่แน่นอน

อย่างไรก็ตาม เมื่อเจฟฟรี ค็อกซ์ (Geoffrey Cox) อัยการสูงสุดของสหราชอาณาจักรรับทราบข้อตกลงล่าสุดที่เมย์เจรจากับผู้นำอียู ซึ่งเมย์บอกว่ามีผลผูกพันทางกฎหมายว่าอียูไม่สามารถใช้นโยบายนี้ไปตลอด เขาก็แสดงความเห็นว่ายังคงมีความเสี่ยงทางกฎหมายอยู่

สภาเริ่มโหวตตอน 19.00 น. ผลปรากฎว่าข้อเสนอของเมย์ก็ยังคงถูกคัดค้านจากเสียงส่วนใหญ่อีกครั้งหนึ่ง ด้วยคะแนนเสียง  391 ต่อ 242 ซึ่งมีความต่างน้อยลงจากการโหวตครั้งแรก ขณะที่เหลือเวลาอีกเพียง 17 วันเท่านั้น

เมย์กล่าวว่า หลังจากนี้ส.ส.จะสามารถโหวตได้อย่างอิสระว่า สหราชอาณาจักรควรจะออกจากอียูโดยไร้ข้อตกลงหรือไม่ ไม่อย่างนั้นก็หาข้อสรุปว่าควรจะเลื่อนวันแยกตัวออกไปหรือไม่

ด้านสหภาพยุโรปเตือนว่าความพ่ายแพ้ของเมย์ทำให้เป็นไปได้ว่าการแยกตัวของสหราชอาณาจักรจะต้องเลื่อนออกไป โดนัลด์ ทัสก์ ประธานสหภาพยุโรปกล่าวว่า สหราชอาณาจักรต้องยื่นขอเลื่อน ซึ่งประเทศสมาชิกจะพิจารณาและตัดสินใจ โดยมีเหตุผลสนับสนุนเพียงพอ ทั้งนี้สภายุโรปมีกำหนดจะประชุมในวันที่ 21 มีนาคมนี้ ซึ่งเป็นโอกาสเร็วที่สุดที่เมย์จะยื่นขอต่อเวลาออกไปอีก

 

ที่มา:

Tags: , , , , ,