Bitter Sweet Symphony คือเพลงดัง จะเรียกได้ว่าดังที่สุดของ The Verve วงอัลเทอเนทีฟร็อคของเกาะอังกฤษก็ว่าได้ เพลงนี้ถูกปล่อยให้ฟังกันพร้อมมิวสิกวิดีโอสุดเท่ที่ริชาร์ด แอชคอร์ฟ นักร้องนำเดินร้องไปตามถนนในปี 1997 ตัวเพลงนอกจากจะฮิตในระดับโลกแล้วยังได้รับการขนานนามว่าเป็นเพลงที่ดีที่สุดในปี 1997 ได้เข้าชิงรางวัลแกรมมี่ และติดอันดับ 392 ใน 500 สุดยอดเพลงตลอดกาลอีกด้วย

ก่อนอื่น เรามาย้อนประวัติการฟ้องร้องของเพลงนี้กันก่อน เพลง Bitter Sweet Symphony ของ The Verve ถูกฟ้องว่าใช้แซมเปิล (ท่อนไวโอลินที่เป็นซิกเนเจอร์ของเพลงนี้) เพลง “The Last Time” ของวง Rolling Stones (ซึ่งที่จริงวง Rolling Stones ก็ก็อปปี้เพลงนี้มาจากเพลงกอสเปล This May Be The Last Time ของ Staple Singers ในปี 1955 อีกที) ซึ่ง The Verve ชี้แจงว่าเขาไม่ได้เอาแซมเปิลมาจากเพลง The Last Time ของ Rolling Stones แต่เอาแซมเปิลมาจากดนตรีบรรเลงออร์เคสตราของแอนดรูว์ โอลด์แฮม ซึ่งเรียบเรียงโดยเดวิด ไวเทคเกอร์ โดยที่ทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของ Decca Records และได้จ่ายค่าลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ที่สำคัญเสียงไวโอลินนั้นเป็นสิ่งที่ The Verve ทำขึ้นใหม่ ไม่ได้ยกแซมเปิลมาใช้เลย

เรื่องมาอีรุงตุงนัง ก็เพราะว่า แอนดรูว์ โอลด์แฮม คือ(อดีต)ผู้จัดการวง Rolling Stones และได้นำเอาเพลง The Last Time มาสร้างสรรค์ใหม่ในแบบออร์เคสตรา เป็นไซด์โปรเจ็กต์ ซึ่งบางครั้งในไซด์โปรเจ็กต์นี้ Rolling Stones ก็เคยมาร่วมแจมด้วย แต่คนที่คอมโพสออร์เคสตราเพลงนี้จริงๆ ก็คือเดวิด ไวเทคเกอร์ อย่างที่บอกไป The Verve คิดว่าไม่มีปัญหาเพราะจ่ายค่าลิขสิทธิ์เรียบร้อยแล้วจึงคลอดเพลง Bitter Sweet Symphony ออกมาในปี 1997

หลังจากนั้น อัลเลน ไคลน์ ผู้จัดการ Rolling Stones ในยุคต่อมา ซึ่งเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์รายได้ของ Rolling Stones ในผลงานช่วงต้นๆ ของวง ก็มาเคลมเรื่องลิขสิทธิ์กับผู้จัดการวง The Verve ตกลงแบ่งผลประโยชน์กันแบบ 50:50

เรื่องไม่จบเพียงแค่นั้น เมื่อเพลงเกิดดังระดับโลกขึ้นมา อันเลน ไคลน์ ไม่พอใจ บอกว่าเพลงใช้แซมเปิลยาวกว่าที่ตกลงกันเอาไว้ เพราะฉะนั้นถือว่าข้อตกลงเป็นโมฆะ จึงฟ้องร้องต้นสังกัด The Verve อีกรอบด้วยเงินก้อนมหาศาล

จากนั้นไม่นานวง The Verve ยุบวง และมอบลิขสิทธิ์เพลงนี้ให้ต้นสังกัดดูแลต่อ เรื่องเลวร้ายลงไปอีกเมื่อ แอนดรูว์ โอลด์แฮม ฟ้องร้องต้นสังกัด The Verve เพิ่มว่าตนเองไม่เห็นได้ค่าลิขสิทธิ์ทำนองที่เอาไปใช้เลย เพราะทำนองที่เอาไปใช้ไม่ได้เอามาจากเพลง The Last Times ของ Rolling Stones โดยตรงสักหน่อย แต่เอามาจากออร์เคสตราของเขา จนในที่สุดทางต้นสังกัด The Verve ก็ต้องทำข้อตกลงกับแอนดรูว์ โอลด์แฮม

จากนั้นกลายเป็นว่าลิขสิทธิ์เพลง Bitter Sweet Symphony เป็นของทั้งต้นสังกัด The Verve และต้องจ่ายค่าส่วนแบ่งมหาศาลและแบ่งลิขสิทธิ์กับ ABKCO บริษัทของ อัลเลน ไคลน์ ผู้จัดการวง Rolling Stones และเมื่อทาง The Verve ปฏิเสธที่จะให้แบรนด์ต่างๆ มาซื้อลิขสิทธิ์เพลงไปใช้ประกอบโฆษณาทั้งไนกี้ และโอเปิล ทางอัลเลนก็ฟ้องและเข้ามาถือการควบคุมลิขสิทธิ์เพลงนี้เพื่อใช้ในการโฆษณาโดยเฉพาะ

นั่นคือเรื่องราวทั้งหมดของเพลง Bitter Sweet Symphony

จนเมื่อล่าสุดในงาน Ivor Novello Award ซึ่งริชาร์ด แอชคอฟท์ อดีตนักร้องนำวง The Verve มารับรางวัล Lifetime Achievement Honor ก็ได้แจ้งข่าวดีแก่นักข่าวว่า มิก แจ็กเกอร์ และคีท ริชาร์ดส สองสมาชิกวง Rolling Stones  ยินดีคืนลิขสิทธิ์เพลง Bitter Sweet Symphony ให้กับทางต้นสังกัดของวง The Verve แล้ว

เท่ากับว่าต่อจากนี้ทาง The Verve ไม่ต้องแบ่งส่วนแบ่งค่าลิขสิทธิ์เพลงนี้ให้กับทาง Rolling Stones อีกต่อไป หลังจากต้องจ่ายส่วนแบ่งก้อนมโหฬารมานานกว่า 20 ปี และต่อจากนี้เพลง Bitter Sweet Symphony ก็เป็นลิขสิทธิ์ของ The Verve แต่เพียงผู้เดียว ไม่ต้องกำกับว่าใช้แซมเปิลจากเพลง The Last Time ของ Rolling Stones อีกต่อไป

 

อ้างอิง

https://www.kunc.org/post/not-bitter-just-sweet-rolling-stones-give-royalties-verve

https://www.techdirt.com/articles/20190525/00140242276/true-story-copyright-piracy-why-verve-will-only-start-getting-royalties-now-bittersweet-symphony.shtml

https://www.theguardian.com/music/2019/may/23/bitter-sweet-symphony-royalties-richard-ashcroft-verve-royalties-novello

ภาพ : The Verve

Tags: , , ,