เพียงเดือนเดียวหลังจากเหตุระเบิดครั้งใหญ่ที่ท่าเรือกรุงเบรุต เลบานอนซึ่งเป็นที่เก็บของสารเคมีจำนวนมาก จนทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 200 คน ก็เกิดไฟไหม้ที่จุดเดิมอีกครั้งเมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา กองทัพเลบานอนแถลงว่า ไฟไหม้ครั้งนี้ปะทุขึ้นจากโกดังที่เก็บน้ำมันและยางรถยนต์ที่ท่าเรือปลอดภาษี
ไฟไหม้ครั้งนี้ทำให้เกิดควันดำขนาดใหญ่พวยพุ่งขึ้นท้องฟ้า ประชาชนที่อยู่บริเวณนั้นพากันหนีออกมา ขณะเกิดเหตุชาวเมืองเบรุตพากันตะโกนบอกเพื่อนบ้านว่าเกิดไฟไหม้อีกแล้ว สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นรายงานว่าบริษัทเอกชนที่มีสำนักงานใกล้ท่าเรือสั่งให้พนักงานออกจากพื้นที่ ทหารปิดถนนใกล้ท่าเรือ นักดับเพลิงและทหารใช้เวลาหลายชั่วโมงเพื่อควบคุมเพลิง รวมทั้งใช้เฮลิคอปเตอร์ปล่อยน้ำลงมา ไม่มีผู้บาดเจ็บ
ผู้อำนวยการระดับภูมิภาคขององค์การกาชาดกล่าวว่า โกดังที่เกิดเพลิงไหม้เป็นที่เก็บอาหารและน้ำมันที่ใช้ประกอบอาหาร โดย น้ำมัน 500,000 ลิตรและลังอาหารหลายพันกล่องเก็บอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ ปฏิบัติการช่วยเหลือทางมนุษยธรรมเสี่ยงที่จะหยุดชะงัก
บาสเซม ไกซ์ซิ ผู้อำนวยการท่าเรือคนใหม่ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวอัลจาซีราว่า เพลิงเผาไหม้โกดังเก็บของที่บริษัทเอกชนชื่อบีบีซี ลอจิสติกเป็นผู้เช่า ซึ่งขณะเกิดเหตุไฟไหม้เป็นช่วงของการปรับปรุงซ่อมแซมพื้นที่ บริษัทปฏิบัติตามกฎความปลอดภัยอย่างถูกต้อง ทั้งการติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิงและสัญญาณเตือนภัย แต่เพิ่งเสียหายจากเหตุระเบิดเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม เหตุที่ไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอยู่ในพื้นที่ เนื่องจากเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลของเอกชนที่มาขอเช่า “เราไม่ต้องรับผิดชอบเลย” นอกจากนี้เขายังปฏิเสธที่จะให้ความเห็นว่า ต้นเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้เกิดจากอะไร บอกเพียงว่าให้รอผลการสอบสวน
สองวันก่อนก็เพิ่งมีไฟไหม้จุดเล็กๆ ที่ท่าเรือ แม้จะดับลงอย่างรวดเร็วแต่ก็สร้างความตระหนก เพราะไม่กี่วันก่อนหน้านี้ กองทัพแถลงว่า พบแอมโมเนียมไนเตรท 4.35 ตัน และได้ทำลายแล้ว แหล่งข่าวในกองทัพเปิดเผยกับสำนักข่าวอัลจาซีราว่า เจ้าหน้าที่ทหารอยู่ในขั้นตอนสำรวจพื้นที่ทั้งหมดอย่างละเอียด แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะเสร็จสิ้นเมื่อใด
เหตุระเบิดครั้งใหญ่ในเมืองหลวงของเลบานอนเมื่อ 4 สิงหาคมที่สาเหตุจากแอมโมเนียมไนเตรทซึ่งถูกเก็บไว้ในโกดัง 2,750 ตันเป็นผลมาจากการเพิกเฉยต่อของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นอกจากผู้เสียชีวิตจำนวนมากแล้ว ประชาชนหลายพันคนได้รับบาดเจ็บ และทำให้มีผู้ไร้ที่อยู่อาศัยถึง 300,000 คน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นักกู้ชีพยังคงค้นหาผู้รอดชีวิตจากซากปรักหักพัง แต่เมื่อผ่านไป 3 วันก็ยุติลง ทำลายความหวังว่าจะสามารถหาบุคคลที่สูญหายได้
ที่มา:
https://edition.cnn.com/2020/09/10/middleeast/beirut-port-fire-intl/index.html
https://www.bbc.com/news/world-middle-east-54100251
ภาพ: REUTERS/Mohamed Azakir
