เป็นข่าวให้กังวลมาสองปี ในที่สุด เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (21 มี.ค. 2018) คณะกรรมการสหภาพยุโรป (EU) อนุญาตให้ไบเออร์ (Bayer) บริษัทยาฆ่าแมลงของเยอรมนี ซื้อมอนซานโต (Monsanto) บริษัทเมล็ดพันธุ์รายใหญ่ของสหรัฐอเมริกาได้ในราคา 62,500 ล้านเหรียญสหรัฐ (2.2 ล้านล้านบาท) ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากเกษตรกรและกลุ่มนักสิ่งแวดล้อมมากมาย
นี่นับเป็นการควบรวมกิจการยาฆ่าแมลงและเมล็ดพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
การอนุญาตนี้เกิดขึ้นหลังจากไบเออร์ตกลงว่าจะหนุนบริษัท BASF SE ซึ่งเป็นบริษัทเคมีที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยการขายเมล็ดพันธุ์ผัก ยาฆ่าแมลง เทคโนโลยีเกษตรกรรมดิจิทัลให้
การตัดสินครั้งนี้พิจารณาจากหลักเกณฑ์ที่รับรองว่า “จะมีการแข่งขันที่มีประสิทธิภาพและสร้างนวัตกรรมในตลาดเมล็ดพันธุ์ ยาฆ่าแมลง และเกษตรกรรมดิจิทัล โดยบริษัทต้องทำให้คณะกรรมการแน่ใจได้ว่า จำนวนผู้แข่งขันในตลาดโลกจะยังเหมือนเดิม” คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าของอียูกล่าวในแถลงการณ์
“เราต้องการให้เกิดการแข่งขันเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่เกษตรกรว่ามีตัวเลือกของเมล็ดพันธุ์ที่หลากหลายและซื้อยาฆ่าแมลงได้ในราคาที่เหมาะสม”
การควบรวมกิจการนี้ทำให้บริษัทครองตลาดเมล็ดพันธุ์ถึง 30.1% และตลาดยาฆ่าแมลงถึง 25.8% หรือคิดเป็นจำนวนถึง 1 ใน 4 ของโลก และน่ากังวลว่าจะทำให้ระบบเกษตรกรรมของโลกเข้าใกล้ระบบผูกขาดมากขึ้น
คณะกรรมการได้รับทราบข้อกังวลต่อการซื้อขายกิจการครั้งนี้ ซึ่งมีผู้ลงชื่อกว่าล้านคน โดยมีการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ในตลาดกว่า 2,000 รายการ และเอกสารภายในจำนวน 2.7 ล้านชิ้นเพื่อออกกฎยาว 1,285 หน้า
ก่อนหน้านี้ เพิ่งมีการการควบรวมกิจการของดูป้องท์-ดาวเคมีคอล และเคมไชน่า-ซินเจนทา บริษัทอุตสาหกรรมเกษตร อันเป็นผลจากความกังวลต่อสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง และการแข่งขันในการส่งออกธัญพืช
ดีลการควบรวมครั้งล่าสุดนี้ จึงทำให้ 65.4% ของตลาดสารเคมีเกษตรในโลก และ 60.7% ของตลาดเมล็ดพันธุ์ในโลก จะอยู่ในมือของ 3 บรรษัทใหญ่ คือ เคมไชน่า-ซินเจนทา มอนซานโต้-ไบเออร์ และดูป้องท์-ดาวเคมีคอล
การตัดสินใจของอียูมาพร้อมกับความตื่นตัวต่อการตัดสินใจที่คล้ายกันในแอฟริกาใต้ บราซิล และจีน บริษัทยังต้องได้รับอนุญาตจากสหรัฐอเมริกาและรัสเซียอีก
นักสิ่งแวดล้อมและกลุ่มเกษตรกรเคยคัดค้านการซื้อขายกิจการครั้งนี้ และแสดงความกังวลต่ออำนาจและข้อได้เปรียบจากข้อมูลการทำฟาร์มแบบดิจิทัลซึ่งสามารถบอกได้ว่า ควรจะปลูก ขุดดิน พ่นยา ใส่ปุ๋ย ตอนไหนและอย่างไรจากการคำนวณด้วยอัลกอริทึ่มของบริษัทยักษ์ใหญ่
นอกจากนี้ยังเกรงว่าการซื้อขายกิจการครั้งใหญ่นี้จะทำให้ไบเออร์มีอำนาจทางการตลาดมากเกินไป ทั้งนี้มอนซานโตได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากการตัดต่อพันธุกรรมพืช และการใช้ยาฆ่าแมลงไกลโฟเสตด้วย
เมื่อเริ่มแรกของการเจรจาเพื่อควบรวมกิจการ ลีห์ ดักลาส ผู้สื่อข่าวและนักวิเคราะห์ตลาด เคยเขียนบทความเผยแพร่ใน CNN เมื่อปี 2016 ว่าการควบรวมกิจการนี้เป็น ‘ฝันร้ายของอเมริกา’ เพราะ “เกษตรกรจะต้องซื้อเมล็ดพันธุ์แพงขึ้น ผู้บริโภคต้องเผชิญกับอาหารจีเอ็มโอในซุปเปอร์มาเก็ตเพิ่มขึ้น”
ที่มา:
- https://www.reuters.com/article/us-monsanto-m-a-bayer-eu/bayer-wins-eu-approval-for-62-5-billion-monsanto-buy-idUSKBN1GX14U
- http://www.dw.com/en/eu-approves-german-chemical-giant-bayers-takeover-of-monsanto/a-43062881
- https://www.bloomberg.com/news/articles/2018-03-21/bayer-clears-eu-hurdle-for-monsanto-deal-with-basf-sale-pledge
- https://www.politico.eu/article/5-takeaways-from-eu-green-light-for-bayer-monsanto-agribusiness-glyphosate-mega-merger/
- https://openmarketsinstitute.org/articles/monsanto-bayer-mega-deal-a-nightmare-for-america/
Tags: จีเอ็มโอ, GMO, มอนซานโต, ไบเออร์, Bayer, เกษตรกรรม, Monsanto, EU, สหภาพยุโรป, ควบรวมกิจการ, พืชพันธุ์