เก็บตกความประทับใจกันไปพร้อมความสนุกสนานอย่างเต็มรูปแบบกับคอนเสิร์ต 안녕BANGKOK ARENA K 2022 (อันยอง แบงค็อก อารีน่าเค 2022) เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมนี้ ณ Impact Challenger Hall 1 เมืองทองธานี

ไลน์อัปศิลปินถือว่าดึงดูดผู้คนได้หลากหลายกลุ่ม เพราะมีทั้ง T-Pop อย่าง 4EVE เกิร์ลกรุ๊ปที่มีเพลงฮิตหลากหลาย หรือ PP Krit (พีพี-กฤษฎ์ อำนวยเดชกร) กับ Billkin (บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล) ที่จะแสดงในเวทีเดียวกับศิลปินจากฝั่ง K-Pop ทั้ง Alice (เอลริส) ไอดอลหญิงที่มีประสบการณ์ในแวดวงนานกว่า 5 ปี ต่อด้วย AKMU หรือ อัคมิว สองพี่น้องมากความสามารถที่ใครๆ ต่างลงความเห็นว่าถ้ามีโอกาสก็อยากจะฟังทั้งชานฮยอกและซูฮยอนด้วยหูตัวเองสักครั้ง รวมถึงบอยแบนด์จาก SM Entertainment อย่าง WayV และ NCT Dream 

หลังจากรอคอยกันมาหลายชั่วโมง โดยเฉพาะบัตรยืนที่จะต้องเตรียมตัวตั้งแต่บ่ายสอง การแสดงเริ่มต้นขึ้นในเวลาหกโมงเย็นกับวงเปิดวงแรกอย่าง 4EVE กับการรีมิกซ์เพลงใหม่โดยเอา Booty Bomb มาประกบเข้ากับ Like a Bling ที่บิ๊วความสนุกสนานได้เป็นอย่างดี ก่อนจะต่อด้วยเพลง jackpot แสดงให้เห็นถึงความสามารถล้นเหลือ แรงดีเสียงไม่มีตก ก่อนสมาชิกทั้งหมดได้ทักทายแฟนคลับก่อนจะบอกว่าเตรียมส่งต่อเวทีให้กับศิลปินรุ่นพี่ที่เตรียมการแสดงต่อไป 

PP Krit และ Billkin คือศิลปินลำดับถัดมา สิ่งที่สร้างเสียงกรี๊ดได้มากที่สุดคงหนีไม่พ้นการพบกันครั้งแรกระหว่าง PP กับแฟนๆ เพราะเขาปรากฏตัวด้วยชุดที่โดดเด่น ในเพลง I’ll Do It How You Like It ต่อด้วยการแสดงของ Billkin ที่ได้ชวนแฟนๆ ร้องเพลง ชอบตัวเองตอนอยู่กับเธอ ให้ดังไปทั้งฮอล์

นอกจากนี้กลุ่มแฟนคลับของ PP ยังถูกพูดถึงตั้งแต่ก่อนเริ่มงาน เนื่องจากพวกเขาขนชานมไข่มุกหลายสิบแก้วมาให้กับแฟนคลับทุกวงที่กำลังรอเข้าฮอล์ โดยไม่แบ่งแยกว่าแฟนด้อมไหนเป็นใคร เพียงแค่อยากให้ศิลปินที่ตัวเองรู้จักที่เพิ่งได้เป็นพรีเซนเตอร์ชานมไข่มุกได้เป็นที่รู้จักและเป็นที่รักมากขึ้นกว่านี้ไปเรื่อยๆ ถือเป็นหนึ่งในเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นก่อนการแสดงจะเริ่มต้นขึ้น 

AKMU เปิดการแสดงของตัวเองด้วยเพลงฮิตอย่าง Dinosaur ดนตรีจังหวะสนุกสนานที่ทำให้ผู้ชมโยกตัวไปมาตามสองพี่น้อง และในช่วงทอล์ก ซูฮยอนกับชานฮยอกกล่าวถึงประเทศไทยว่าเป็นประเทศที่พวกเขาอยากมาทำการแสดงให้ได้ เพราะเดบิวต์มานาน 8 ปี แต่ก็ยังไม่เคยได้มาแสดงที่ไทยมาก่อน 

แม้ก่อนหน้านี้ก็มีแฟนคลับชาวไทยไปคอมเมนต์ในอินสตาแกรมทั้งคู่ว่าตั้งตารออยู่ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงมีความไม่มั่นใจว่าคนไทยจำนวนมากจะรู้จัก AKMU ทว่าวันนี้ก็ทำให้เห็นแล้วว่ามีแฟนๆ ชาวไทยที่รอและมีคนไทยที่รู้จักพวกเขาทั้งคู่อยู่มากจริงๆ ก่อนจะบอกว่าหากพวกเขามีทัวร์ต่างประเทศในครั้งหน้า ประเทศไทยจะเป็นหนึ่งในเมืองที่พวกเขาจะมาทำการแสดงอย่างแน่นอน และคราวหน้าจะนำเพลงดีๆ มาร้องด้วยกันให้มากกว่านี้ 

ทั้งคู่ได้ร้องเพลงทั้งหมด 5 เพลง คือ Dinosaur, Nakka, How Can I love The Heartbreak, You’re The One I Love ต่อด้วย Last Goodbye และ Give Love แต่สร้างความประทับใจมากที่สุดในครั้งนี้คงหนีไม่พ้นเพลงสุดท้าย เริ่มตั้งแต่ก่อนที่จะร้องเพลง ซูฮยอนถามทุกคนว่าคิดว่าพวกเขาจะร้องเพลงอะไร ทุกเสียงตอบกลับไปอย่างพร้อมเพรียงว่า Give Love จนเธอหัวเราะและเอ่ยว่าใจตรงกันเลย เมื่อดนตรีเริ่มขึ้นโดยที่ยังไม่ทันถึงท่อนร้องแรก ผู้คนทั้งฮอล์ก็ร้องออกเสียงตามจังหวะเพลงจนซูฮยอนตกใจถึงกับต้องยกมือปิดปาก ก่อนจะชูนิ้วโป้งพร้อมส่งไมค์ให้แฟนๆ ได้มีส่วนร่วมร้องเพลงไปด้วยกัน 

ในช่วงแรกที่เปิดให้จองบัตรคอนเสิร์ต มีคำถามมากมายกรูเข้าไปยังผู้จัดงาน ทั้งเวลาทำการแสดงของแต่ละศิลปิน ที่นั่งราคาต่างๆ จะเป็นแบบไหน เพราะจัดในอิมแพคชาเลนเจอร์ฮอล ซึ่งเป็นฮอล์โล่งๆ ที่ถ้าจะจัดคอนเสิร์ตผู้จัดจะต้องสร้างระนาบเอง ก่อนคำตอบจะสร้างความสบายใจว่าทุกศิลปินทั้ง 7 กลุ่ม จะได้เวลาแสดงเท่ากันคือ 30 นาที และที่นั่งจะเป็นสแตนจากสูงไล่ลงต่ำแบบขั้นบันได เพื่อให้บัตรนั่งทุกราคาสามารถมองเห็นเวทีได้โดยไม่มีอะไรบดบัง 

เมื่อถึงวันทำการแสดง สแตนที่นั่งยกขึ้นจริงๆ ตามที่ระบุเอาไว้ตอนต้นโดยไม่ได้มีระนาบใต่ระดับ ทำให้บัตรนั่งบางส่วนอาจต้องมองดูศิลปินผ่านจอมอนิเตอร์ด้านข้าง หรือจอมอนิเตอร์ที่ใกล้ที่สุด แทนที่มองศิลปินโดยตรงที่ยืนอยู่บนเวที เนื่องจากภาพที่เห็นอาจจะไม่ชัดเจนมากนัก เพราะสามารถมองเห็นเพียงแผ่นหลังของผู้ชมที่นั่งอยู่ในแถวถัดๆ ไปด้านหน้า แต่ด้วยไลน์อัปที่คิดมาอย่างดี กับเพอฟอร์แมนซ์ยอดเยี่ยมของศิลปิน ก็สามารถตรึงผู้ชมให้อยู่หมัดได้ไม่ยาก 

ศิลปินกลุ่มถัดมาคือ Alice เกิร์ลกรุ๊ปที่มีสมาชิก 7 คน เปิดตัวด้วยเพลง Summer Dream นอกจากนี้ยังเป็นวันเกิดของยอนเจ ทำให้แฟนๆ ในฮอล์พากันร้องเพลงอวยพรวันเกิดให้กับเธอ 

การแสดงของศิลปินลำดับถัดมาเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด กับ WayV ที่สร้างรอยยิ้มให้แฟนคลับไม่หยุดตลอดทั้งโชว์ เห็นได้จากทะเลสีเขียวจากแท่งไฟที่โบกไปตามจังหวะ และในช่วงพูดคุย เรายังได้ฟังสกิลภาษาไทยจากเมมเบอร์ โดยเฉพาะ เตนล์-ชิตพล ลี้ชัยพรกุล ที่พูดคุยกับแฟนคลับอย่างเป็นกันเองด้วยภาษาบ้านเกิด จนเรียกเสียงกรี๊ดได้ตลอด 

ปิดท้ายด้วยศิลปินที่หลายคนตั้งตารออย่าง NCT Dream บอยแบรนด์อีกหนึ่งวงจากค่าย SM Entertainment ที่พร้อมเขย่าหัวใจของเหล่าแฟนคลับด้วยเพลงสนุกสนาน ความหมายดี และชวนให้ยิ้มตาม ซึ่งเพลงปิดการแสดงในวันนี้ พวกเขาเลือกใช้เพลง Glitch Mode สไตล์ฮิปฮอปแดนซ์ เพื่อทิ้งทวนบรรยากาศดีๆ ให้อยู่กับแฟนเพลงไปนานที่สุดเท่าที่ความทรงจำจะบันทึกภาพไว้ได้ 

 

Tags: , , ,