แอมะซอน โกลบอล เซลลิง (Amazon Global Selling) หนึ่งในหน่วยธุรกิจของแอมะซอน บริษัทอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของโลก ได้จัดตั้งทีมงานและเปิดออฟฟิศในประเทศไทยเป็นครั้งแรก พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการทั้งที่เป็นเจ้าของแบรนด์สินค้าและผู้ผลิตชาวไทยในการสร้างโอกาสส่งออกไปขายยังตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะลูกค้าแอมะซอนทั่วโลก

เบอร์นาร์ด เทย์ ผู้อำนวยการ แอมะซอน โกลบอล เซลลิง ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยว่าภาพรวมตลาดการค้าปลีกทั่วโลกโต 6% ในปี 2561 เฉพาะตลาดอีคอมเมิร์ซโตมากถึง 23% โดยมีอัตราการเติบโตมากถึง 4 เท่าของค้าปลีกทั่วโลก ถ้าเจาะลึกเฉพาะอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงและมีสัดส่วนมูลค่าการตลาดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ  โดยในปี 2561 ตลาดอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศมีมูลค่ามากถึง 6.76 แสนล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าในปี 2562 จะเพิ่มขึ้นเป็น 8.26 แสนล้านเหรียญสหรัฐ

เขาบอกอีกว่ามี 3 ปัจจัยสำคัญที่ทำให้แอมะซอนเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยคือ หนึ่ง ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญ และมีศักยภาพก้าวไปสู่ผู้ผลิตชั้นนำของโลก สองคือมีประสบการณ์การส่งออกที่แข็งแรง และสามคือกำลังก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลตามนโยบายของรัฐบาล ทำให้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่แอมะซอนจะเข้ามาช่วยผู้ประกอบการและเจ้าของกิจการในการขยายธุรกิจและเข้าถึงลูกค้าแอมะซอนทั่วโลกที่มีอยู่กว่า 300 ล้านราย ซึ่งกว่า 100 ล้านรายเป็นลูกค้าชั้นดีที่มีการซื้อสินค้าผ่านมาร์เก็ตเพลสของแอมะซอน

“ข้อจำกัดของผู้ประกอบการไทยต่ออีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศคือยังจำกัดอยู่ในวงแคบ ความตื่นตัวยังน้อย ขาดความรู้ความเข้าใจ know-how ที่จะขายออนไลน์ เรามองว่ายังเป็นโอกาสอีกมากที่ผู้ประกอบการไทยจะได้ขายสินค้าไปยังต่างประเทศ เราจะช่วยเติมเต็มสิ่งเหล่านี้ได้”

“เพราะการส่งออกจะทำคนเดียวไม่ได้ ต้องมีพาร์ทเนอร์ในการช่วยเหลือ เราจะให้ความรู้กับผู้ประกอบการไทยให้เข้าใจเรื่องนี้ได้ง่ายและปฏิบัติได้จริง”

เบอร์นาร์ด เทย์ บอกว่าจุดแข็งของแอมะซอนคือการให้บริการแบบ Fulfiiment by Amazon ที่ช่วยผู้ประกอบการไทยตั้งแต่การเปิดบัญชีผู้ขาย การสร้างรายการสินค้า การบริหารจัดการสต็อกสินค้า ช่วยตอบคำถามกับลูกค้า และการรับเงินผ่านช่องทางออนไลน์ เป็นต้น

“การส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศมีเงื่อนไขเยอะมาก เช่น ข้อมูล เอกสาร การลงภาพสินค้า การเขียนแคปชั่น โปรโมชั่นแบบไหนที่เหมาะสมกับลูกค้าต่างประเทศ รวมไปถึงระบบโลจิสติกส์ เรามีบริการให้เช่าโกดังสินค้า และบริการส่งสินค้าไปยังปลายทางที่จะช่วยลดต้นทุนด้านการขนส่งของผู้ประกอบการลงได้ นอกจากนี้ยังครอบคลุมไปถึงเมื่อลูกค้าต้องการเปลี่ยนสินค้า เปลี่ยนขนาดของสินค้า และดูแลเรื่องการรับเงินลูกค้า”

นอกจากนี้จุดแข็งของแอมะซอน โกลบอล เซลลิงคือโครงสร้างและเครือข่ายทั่วโลก มีเว็บไซต์แอมะซอนใน 18 ประเทศ รองรับภาษามากถึง 27 ภาษา มีศูนย์จัดส่งสินค้า 175 แห่งทั่วโลก มีฐานลูกค้าใน 185 ประเทศ เครื่องบินขนส่งสินค้าทางอากาศ 40 ลำ เป็นต้น

ผู้บริการแอมะซอนโกลบอล เซลลิง ยังบอกอีกว่าตอนนี้มีผู้ประกอบการไทยที่ใช้บริการของแอมะซอนแล้วช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้ดีขึ้น เช่น พีเจ วูด ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ หลังจากลงขายกับแอมะซอนก็ทำให้ช่องทางออนไลน์โตกว่า 150% ภายใน 2 ปี แบรนด์เสื้อผ้าวิริสมาหรา จากแบรนด์ขายเสื้อผ้าย่านประตูน้ำสู่การขายบนแอมะซอน ก็เติบโตกว่า 50%  และวิลกิ้นส์ คลีนเซอร์ (Wilkins Cleanser) ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดรองเท้า ที่ใช้เวลาเพียง 6 เดือนในแอมะซอนก็ทำให้เติบโตมากถึง 30%

สำหรับโมเดลรายได้ของ แอมะซอน โกลบอล เซลลิง จะมาจากการให้บริการ Fulfiiment by Amazon และค่าคอมมิชชันเมื่อผู้ประกอบการขายสินค้าผ่านมาร์เก็ตเพลสของแอมะซอนได้

 

Tags: , ,