สหภาพยุโรปเตรียมเปิดการสอบสวน ‘แอมะซอน’ แพลตฟอร์มค้าปลีกออนไลน์รายใหญ่ที่สุดในโลกถึงวิธีการใช้ข้อมูลจากร้านค้าปลีกอิสระ เพื่อป้องกันและต่อต้านการค้าผูกขาดทางการค้า หวังพยุงผู้ค้าปลีกรายย่อยเอาตัวรอดใต้ปลีกยักษ์ใหญ่ทางเทคโนโลยี

Margrethe Vestager เจ้าหน้าที่ต่อต้านการผูกขาดชั้นนำของคณะกรรมาธิการยุโรปเคยกล่าวเตือนว่าการสอบสวนแอมะซอนควรจะเกิดขึ้นก่อนหน้านี้นานมาแล้ว เพื่อตรวจสอบบริษัทขนาดใหญ่ที่มีอิทธิพลแผ่ขยายกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ 

เธออธิบายว่า มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าแพลตฟอร์มออนไลน์ยักษ์ใหญ่ไม่ได้มีพฤติกรรมต่อต้านการแข่งขันเสรีทั้งในฐานะตลาดและผู้ค้าปลีกตามกฎการแข่งขันของสหภาพยุโรป โดยคณะกรรมาธิการจะตรวจสอบข้อตกลงมาตรฐานระหว่างแอมะซอนและผู้ขาย รวมถึงข้อมูลของผู้ขายว่าถูกใช้อย่างไม่เป็นธรรมหรือไม่ รวมถึงจะพิจารณาการเลือกซื้อ ‘Buy Box’ ในผลการค้นหาของ แอมะซอนอีกด้วย ทั้งนี้ยังไม่ชัดเจนว่าคณะฯ จะใช้เวลานานแค่ไหนสำหรับการตรวจสอบ

ด้านแอมะซอนเผยในแถลงการณ์ว่า “เราจะร่วมมือกับคณะกรรมาธิการยุโรปอย่างเต็มที่และทำงานอย่างหนัก เพื่อสนับสนุนธุรกิจทุกขนาดและช่วยให้พวกเขาเติบโต”

อย่างไรก็ตาม สหภาพยุโรปได้กลายเป็นสมรภูมิสำคัญและอันตรายของบริษัทเทคโนโลยี เนื่องจากอียูมีกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดเกี่ยวกับการปกป้องข้อมูล การใช้คำพูดแสดงความเกลียดชัง การเก็บภาษี และการแข่งขัน โดยในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา กูเกิล ถูกสั่งปรับ 1.7 พันล้านเหรียญสหรัฐจากสาเหตุของการต่อต้านการค้าผูกขาด เนื่องจากการละเมิดตำแหน่งในการโฆษณาบนเครือข่ายการค้นหาออนไลน์ เช่นเดียวกับที่ แอปเปิ้ล และเฟซบุ๊ก ถูกลงโทษจากหน่วยงานกำกับดูแลของยุโรป 

ในขณะเดียวกัน แรงกดดันต่อบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐอเมริกาก็กำลังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ แอมะซอน (Amazon), เฟซบุ๊ก (Facebook) และ กูเกิล (Google) ต้องเผชิญกับสภาสหรัฐในวอชิงตันภายในสัปดาห์นี้ เพื่อตอบคำถามเกี่ยวกับการครอบตลาดและกลยุทธ์ต่อต้านการแข่งขัน 

พร้อมกับมีรายงานว่าคณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐกำลังเตรียมที่จะปรับเฟซบุ๊กประมาณ 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับการปล่อยให้ข้อมูลของผู้ใช้รั่วไหล พร้อมกันนั้นกระทรวงยุติธรรมสหรัฐก็กำลังวางรากฐานสำหรับการตรวจสอบการต่อต้านการผูกขาดของกูเกิล

ที่มา

https://edition.cnn.com/2019/07/17/tech/amazon-antitrust-european-commission/index.html

https://www.bbc.com/news/world-us-canada-48972327

ภาพ: REUTERS/Pascal Rossignol