“ระบบนิเวศทั่วโลกกำลังถูกทำลาย ธารน้ำแข็งทั่วโลกเข้าสู่การสูญสลาย ชั้นดินเยือกแข็งมีอุณหภูมิอุ่นขึ้น ลำดับน้ำทะเลเพิ่มสูง พร้อมกับคลื่นความร้อนที่ทำให้สิ่งมีชีวิตถึงแก่ความตายได้”
ประโยคข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของวิกฤตการณ์โลกร้อนที่กำลังส่งสัญญาณเตือนแก่มนุษย์ สอดคล้องกับงานวิจัยจาก Global Climate Risk Index 2019 ที่เปิดเผยว่า ประเทศไทยติดอันดับ 10 ของโลกที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างรุนแรงในปี 2017 โดยสูงขึ้นจากอันดับที่ 20 ในปี 2016 และหนึ่งในต้นเหตุของการเพิ่มปริมาณคาร์บอนฟุตปรินต์คือ การใช้พลังงานอย่างสิ้นเปลืองภายในอาคารสำนักงานต่างๆ
คำถามที่น่าสนใจมีอยู่ว่า ท่ามกลางวิกฤตเช่นนี้ หน่วยงาน องค์กรธุรกิจ และอาคารสำนักงานต่างๆ มีนโยบายหรือส่วนร่วมในการช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างไร เพื่อลดผลกระทบ สร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจและประหยัดค่าใช้จ่ายขององค์กรไปพร้อมๆ กัน
เครื่องพิมพ์หรือปรินเตอร์ เป็น 1 ในอุปกรณ์ประจำสำนักงานที่มีการใช้งานอย่างต่อเนื่องในทุกๆ วัน แต่สำหรับเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทจาก Epson ได้ถูกออกแบบมาให้สามารถการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยถือเป็นเรื่องที่สามารถทำควบคู่กันไปได้
จุดเด่นของเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท Epson
ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีการพิมพ์ที่ไม่ใช้ความร้อนจาก Epson จึงช่วยประหยัดการใช้พลังงานและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเปรียบเทียบกับเทคโนโลยีการพิมพ์แบบเลเซอร์ที่ต้องใช้ความร้อนเพื่อเริ่มการทำงานของ ‘ชุดดรัม’ (Toner drum) และ ‘ชุดทำภาพ’ (Fuser) รวมไปถึงการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่น้อยกว่าเครื่องพิมพ์เลเซอร์ทั่วไปถึง 85% เปรียบเทียบง่ายๆ คือ เครื่องพิมพ์เลเซอร์ทั่วไปต้องใช้ต้นไม้ถึง 8 ต้น เพื่อดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั้งหมด ในขณะที่เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท Epson ใช้ต้นไม้เพียง 1 ต้นเท่านั้นในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ถูกปล่อยออกมา ไม่เพียงแต่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม แต่ยังช่วยประหยัดค่าไฟอีกด้วย
ต่อไปนี้คือ 5 ข้อดีของเทคโนโลยีหัวพิมพ์ไม่ใช้ความร้อน
1. ประหยัดเวลา ด้วยการพิมพ์ความเร็วสูงอย่างสม่ำเสมอ ทำให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่มีสะดุด สามารถพิมพ์งานต่อจากโหมดพักร้อนได้เลย โดยไม่ต้องรอให้อุปกรณ์ทำความร้อนทำงานเหมือนเครื่องพิมพ์เลเซอร์ และไม่จำเป็นต้องรอให้หมึกเย็นลง
2. ประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่าย เนื่องจากเทคโนโลยีหัวพิมพ์ไร้ความร้อนของ Epson ไม่ต้องใช้ความร้อนในการพิมพ์ จึงใช้เวลาไม่มาก สามารถพ่นหมึกได้อย่างต่อเนื่อง รองรับการพิมพ์งานได้จำนวนมาก อีกทั้งเครื่องพิมพ์บางรุ่นยังรองรับการพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ และมาพร้อมขวดหมึกที่ป้องกันการหกเลอะเทอะและเติมหมึกผิดสีอีกด้วย
3. วัสดุสิ้นเปลืองลดน้อยลง เครื่องพิมพ์เลเซอร์ทั่วไปจะใช้วัสดุสิ้นเปลืองมากกว่า และจำเป็นต้องเปลี่ยนชุดดรัม สายพานถ่ายโอน และ Fuser เป็นระยะ แต่เทคโนโลยีหัวพิมพ์ไม่ใช้ความร้อนของ Epson ทำให้ลดการใช้วัสดุสิ้นเปลืองลงด้วยหัวพิมพ์ที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แถมยังได้พัฒนาหมึกพิมพ์ที่ช่วยให้งานพิมพ์สีคมชัดสว่างและมีความเข้มของเม็ดสีมากขึ้น สามารถพิมพ์กราฟและรูปภาพให้มีคุณภาพตามที่ต้องการได้ นอกจากนี้ยังมีเครื่องพิมพ์ในบางรุ่นที่รองรับหมึกพิมพ์กันน้ำ ทำให้งานพิมพ์คงทน และหมึกเหล่านี้ยังไม่ก่อให้เกิดอันตรายจากฝุ่นและสีจากผงหมึกอีกด้วย
4. ทำงานได้ต่อเนื่องยาวนาน ด้วยนวัตกรรมที่ไม่ใช้ความร้อน ช่วยยืดอายุหัวพิมพ์ให้มีอายุการใช้งานนานขึ้น พร้อมกับความจุของหมึกที่เพิ่มมากขึ้นและลดขั้นตอนการพิมพ์ โดยสามารถพิมพ์หน้าแรกด้วยเวลาเร็วที่สุดเพียง 6.2 วินาทีเท่านั้น
5. มีซอฟต์แวร์และระบบการทำงานที่เหมาะสมกับการใช้งานทุกรูปแบบ องค์กรสามารถเลือกเครื่องพิมพ์ที่มีซอฟต์แวร์และระบบการทำงานที่เหมาะสมเพื่อประโยชน์และประสิทธิภาพสูงสุดได้ โดยบางรุ่นมีระบบจัดการการพิมพ์ที่สามารถทำงานร่วมกับระบบ IT ในองค์กรได้ ทั้งการเพิ่มความปลอดภัยในการพิมพ์ การสแกน หรือทำสำเนาด้วยระบบ Server ที่จะอนุญาตให้แค่ผู้ลงทะเบียนสามารถใช้ได้เท่านั้น หรือซอฟต์แวร์ที่ช่วยตรวจสอบ บันทึก และถ่ายโอนเอกสารได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังมีซอฟต์แวร์ที่ช่วยวิเคราะห์การใช้งานในภาพรวมขององค์กรได้อย่างง่ายดาย ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยให้บริษัทสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและประหยัดค่าใช้จ่ายไปในตัว
เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทจาก Epson นั้นมีให้เลือกใช้งานได้ตามความเหมาะสมได้ ยกตัวอย่างเช่น เครื่องพิมพ์สีอิงค์เจ็ท Epson EcoTank ที่เหมาะกับการพิมพ์ทั้งในบ้านและสำนักงาน รองรับการพิมพ์ตั้งแต่ขนาด A4 ถึงขนาด A3+ ด้วยจำนวนการพิมพ์สูงสุดได้ถึง 7,500 หน้า นอกจากนี้ ในบางรุ่นยังรองรับการพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ (Auto Duplex) ที่ช่วยประหยัดทั้งเวลาและทรัพยากรในองค์กร
หากเป็นองค์กรขนาดใหญ่หรือภาคธุรกิจ ก็สามารถเลือกใช้เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทเพื่อธุรกิจในรุ่น Epson WorkForce ที่มีความเร็วในการพิมพ์สูงสุดถึง 100 หน้าต่อนาที ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมกับคุณภาพของงานที่สูงตามไปด้วย อีกทั้งหมึกยังมีความจุสูง จึงหมดปัญหาเรื่องหมึกพิมพ์หมดเร็ว ทำให้งานพิมพ์ลื่นไหลมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เหมาะสมกับการพิมพ์ทุกรูปแบบ และยังสามารถติดตั้งแอพพลิเคชันเพื่อใช้งานร่วมกับระบบขององค์กรได้ เหมาะกับการทำงานในองค์กรที่ต้องทำงานแข่งกับเวลา เพื่อให้ได้งานที่ประสิทธิภาพสูงสุด
คุณสมบัติอันโดดเด่นมากมายของนวัตกรรมเครื่องพิมพ์ไร้ความร้อนของ Epson จะทำให้โลกเห็นว่า ผู้ใช้งานทุกคนก็มีส่วนช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ง่ายๆ โดยเริ่มต้นจากที่บ้านหรือองค์กรของตัวเอง นอกจากจะประหยัดเงิน ประหยัดพลังงาน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังได้ผลงานที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นได้อีกด้วย
Fact Box
ผู้ที่สนใจเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท Epson สามารถเลือกซื้อสินค้าและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้
Epson Call Center โทร. 0-2685-9899
หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง https://www.epson.co.th/