นายตำรวจออกสืบคดีแรงงานจีนอพยพที่เพิ่งมาถึงสิงคโปร์หายตัวไปอย่างลึกลับ เขาเข้าไปสอบถามที่บริษัทก่อสร้างรับถมทะเลที่คนงานจีนทำงานอยู่ ก็ไม่ได้ความอะไรนอกจากว่าคนงานจีนสนิทกับคนงานชาวทมิฬนายหนึ่งที่ตอนนี้ก็หายตัวไปเหมือนกัน ร่องรอยที่หลงเหลือก็เพียงยานอนหลับกระปุกหนึ่งและแสงนีออนจากร้านอินเทอร์เน็ตฝั่งตรงข้ามที่พัก

นายตำรวจก็เป็นคนนอนไม่หลับเหมือนหวังปี้เฉิง หนุ่มแรงงานจีนอพยพอีกคนหนึ่ง ราวกับทั้งสองคนถ่ายทอดชีิวิตกันและกัน จากนายตำรวจสู่แรงงานหนุ่มที่เพิ่งแขนหัก เลยต้องมาขับรถขนคนงานแทนที่จะได้ทำงาน ทำให้เขาได้พบเพื่อนชาวทมิฬที่อพยพมาทำงานเพื่อแม่และเมียที่บ้าน เพราะใส่เฝือกแล้วคันจนนอนไม่หลับเขาจึงเดินข้ามถนนไปเล่นเกมในร้านเกมฝั่งตรงข้าม ที่นั่นเขาพบสาวเจ้าของร้านเกมที่ทำงานทุกอย่างเพื่อแลกเงิน เธอขอให้เขาพาเธอหนีไปเป็นครั้งคราวด้วยรถบรรทุกขนคนงาน ไปที่ชายหาดกำเนิดใหม่ วันหนึ่งในเกม เขาพบมิตรสหายหน้าใหม่คนหนึ่งที่กวนประสาทเขาเรื่องเพื่อนที่หายไป เรื่องคนงานที่หายตัว คนที่พบศพฝังในชายหาดเกิดใหม่ ไม่นานจากนั้นตัวเขาเองก็หายไป นายตำรวจปรากฏกายขึ้นแทนที่ การสืบค้นเป็นไปอย่างติดขัดจบลงโดยอาการถึงทางตัน คนที่คิดว่าหายไปกลับยังอยู่ แต่คนที่ควรอยู่กลับหายไปตลอดกาล

สิงคโปร์สมัยใหม่ก่อตั้งใน ค.ศ. 1819 โดยเซอร์สแตมฟอร์ด รัฟเฟิลส์ (Stamford Raffles) เป็นสถานีการค้าของบริษัทอินเดียตะวันออกโดยการอนุญาตจากรัฐสุลต่านยะฮอร์ อังกฤษได้อธิปไตยเหนือเกาะใน ค.ศ. 1824 และสิงคโปร์กลายเป็นหนึ่งในนิคมช่องแคบอังกฤษใน ค.ศ. 1826 (ซึ่งหมายถึงอาณานิคมของจักรวรรดิบริติชในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งประกอบด้วย ปีนัง ดินดิง (ส่วนหนึ่งของรัฐเปรัก) มะละกา สิงคโปร์และ ลาบวน) หลังถูกญี่ปุ่นยึดครองระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง สิงคโปร์ได้รับเอกราชจากสหราชอาณาจักรใน ค.ศ. 1963 และเข้าร่วมกับอดีตดินแดนของอังกฤษอื่นเพื่อตั้งประเทศมาเลเซีย หากแต่ทั้งสองฟากไม่อาจตกลงกันได้ในหลายประเด็นตั้งแต่เรื่องการค้าไปจนถึงเรื่องเชื้อชาติและศาสนา นำไปสู่การจราจลต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติในปี 1964 ในปีถัดมารัฐบาลมาเลเซียตัดสินใจขับสิงคโปร์ออกจากประเทศ  ผ่านพระราชบัญญัติโดยเอกฉันท์ นับแต่นั้น ประเทศสิงคโปร์พัฒนาอย่างรวดเร็ว จนได้รับการรับรองว่าเป็นหนึ่งในสี่เสือแห่งเอเชีย

ดังเช่นที่ชื่อหนังเป็น ‘แผ่นดินจินตนาการ’ จึงเป็นอื่นใดไปไม่ได้นอกจากสิงคโปร์เอง ประเทศกำเนิดใหม่ที่เต็มไปด้วยคนหลากหลายเชื้อชาติที่เข้ามาก่อร่างสร้างเมืองขึ้นมา เป็นทั้งประเทศกำเนิดใหม่และแผ่นดินกำเนิดใหม่ที่เกิดจากการถมทะเลออกไปเรื่อยๆ ประวัติศาสตร์ของสิงคโปร์ในฐานะสิิงคโปร์จึงห้วนสั้น หนำซ้ำกลุ่มเชื้อชาติหลักในสิงคโปร์คือลูกหลานคนจีนอพยพมากกว่าคนพื้นเมือง และแรงงานที่ก่อร่างสร้างสิงคโปร์ขึ้นมาก็ล้วนแต่เป็นแรงงานอพยพจากชาติต่างๆ ทั้งสิ้น หนังจึงบอกกับเรากลายๆ ว่า ‘ชาติ’ เป็นเพียงสิ่งที่ถูกจินตนาการขึ้น

ในฉากหนึ่ง ตัวละครขับรถออกไปชายหาดในตอนกลางคืน เด็กสาวบอกว่าเธออยากไปจากที่นี่ ไปที่ไหนก็ได้ ชายหนุ่มบอกว่า เธออยูู่ที่อื่นแล้ว ชายหาดนี้เอาทรายมาจากมาเลเซีย แรงงานก็เกณฑ์มาทั้งจากอินโดนีเซีย บังคลาเทศ กัมพูชา แม้แต่เมืองจีน แผ่นดินนี้ไม่ได้มีอยู่มาก่อน ไม่ใช่รากหยั่งลึกของระวัติศาสตร์อันยาวนาน แต่เป็นเพียงแผ่นดินกำเนิดใหม่ที่ถูกจินตนาการรวมเข้ากับความเป็นชาติ ความเป็นชาติที่มีขอบเขตจำกัด รับรู้ร่วมกัน มีศัตรูร่วมกัน และมีความเป็นอื่นร่วมกัน

ความเป็นอื่น เป็นได้ทั้งแรงงานอพยพที่ไม่ได้ถือสัญชาติร่วมกัน ไปจนถึงคนในชาติเดียวกันที่สีผิวแตกต่างกัน ชาติมีความหมายอันยืดหยุ่นทั้งกว้างและแคบ ตื้นและลึก ขึ้นอยู่กับว่าใครใช้และใช้กับใคร โดยเหตุผลง่ายๆ เพื่อรับใครเข้ามาและกีดกันใครออกไป คนจีนที่เคยอพยพมายังเกาะสิงคโปร์กลายเป็นเจ้าของชาติสืบรุ่นลูกหลานต่อมาถึงนายตำรวจ แต่คนจีนเหมือนกันที่เพิ่งมาถึงเมื่อสามเดือนที่แล้วเป็นคนอื่น เป็นแรงงานไร้ชื่อ ที่มาร่วมสร้างชาติให้ที่อื่น ชาติเกิดขึ้นมาจากเรี่ยวแรงและความตายของแรงงานไร้นามเหล่านี้ หนังถึงขนาดฉายให้เห็นภาพของศพแรงงานไร้นามที่หวังปี้เฉิงไปพบจมอยู่ในหาดทรายของแผ่นดินเกิดใหม่ แผ่นดินที่สร้างขึ้นจากศพ

นอกจากพื้นที่ทางกายภาพแล้ว ยังมีพื้นที่อีกสองชนิดในหนังที่เป็นพื้นที่/แผ่นดินในจินตนาการ หนึ่งคือพื้นที่ในเกม Counter Strike ที่หวังปี้เฉิงไปนั่งเล่นในยามค่ำคืน พื้นที่ที่เป็นทะเลทรายของการปราบปรามผู้ก่อการร้าย /คนนอก ในพื้นที่นั้นเขากลายเป็นคนใน เป็นนายทหารจำแลงไม่ได้เป็นฝ่ายที่ถูกกันออกไปเหมือนที่เป็นในพื้นที่นั้นเองที่เขาได้พบชายลึกลับที่พูดเรื่องคนงานที่ตาย พื้นที่ในเกม ในอินเทอร์เน็ต เป็นภาพจำลองของพื้นที่ในจินตนาการได้อย่างวิเศษ เพราะมันคือพื้นที่ที่ไม่ได้มีอยู่จริงๆ แต่มีความเป็นกายภาพที่ตาเห็น (แบบภาพจำลองในเกม) และเชื่อมโยงผู้คจากต่างที่เข้ามาอยู่ในพื้นที่เดียวกัน

อีกพื้นที่ที่สำคัญกว่า คือพื้นที่ทางจินตนาการของความเป็นภาพยนตร์นั้นเอง ตลอดทั้งเรื่องเราไม่ได้เห็นนายตำรวจร่วมฉากอยู่กับแรงงานที่หายไป ซึ่งในพื้นที่ของความจริงเป็นเรื่องสามัญอย่างยิ่งเพราะทั้งสองคนเป็นคนละคน คนหนึ่งออกตามหาอีกคนที่หายไป แต่หนังกลับเชื่อมสองคนเข้าด้วยกันราวกับว่าคนหนึ่งคือชีวิตของอีกคนหนึ่ง เมื่อนายตำรวจเป็นผู้เล่าเรื่องหวังปี้เฉิงให้ผู้ชมฟัง ในเวลาต่อมาหวังปี้เฉิงฝันว่าตัวเองกลายเป็นนายตำรวจ มีแต่ภาพยนตร์ซึ่งอาศัยเวทย์มนต์ของการตัดต่อเท่านั้นที่จะเชื่อมร้อยสิ่งที่ไม่ได้เป็นสิ่งเดียวกัน ให้กลายเป็นมิติคู่ขนานของกันและกัน ภาพยนตร์กลายเป็นพื้นที่ในจินตนาการที่ผู้คนกลายเป็นคนอื่นได้ เชื่อมโยงคนนอกและคนในเข้าหากัน  

ภาพยนตร์ให้ชีวิตใหม่แก่หวังปี้เฉิง แต่ในเกมหวังปี้เฉิงตาย เขาเล่าว่าเขาฝันถึงความตายขณะภาพฉายเป็นภาพของพื้นที่ในเกม พิกเซลแตกพร่า เลือนจนทะเลทรายกลับเป็นทรายดูด พื้นที่ในเกมที่มีทิศทางแน่นอนไม่มีทิศทางอีกต่อไป การหลงทิศผิดทางในแผ่นดินจินตนาการเป็นหัวใจหลักของหนัง การดำรงคงอยู่หรือหายตัวไปนั้นไม่แตกต่างกันอีกต่อไป เพราะตัวตนของเราเป็นเพียงตัวตนที่เราจินตนาการขึ้น หวังปี้เฉิงหายตัวไปในพื้นที่ทางกายภาพ ตายในเกม กลายไปเป็นพิกเซลพร่าเลือนจากคลิปในอินเทอร์เน็ต และฟื้นตื่นขึ้นเป็นนายตำรวจในภาพยนตร์ แบบเดียวกันกับอาจิต แรงงานทมิฬที่หายตัวไปจุดประกายความสงสัยในตัวหวังปี้เฉิงสุดท้ายเขากลับมาแต่เป็นหวังที่หายตัวไป

นอกจากหวังปี้เฉิงกับนายตำรวจ สาวร้านเน็ตกับอาจิตแรงงานทมิฬก็ถูกเลือนเข้าหากันด้วย ไม่ใช่แค่เพียงเพราะพวกเขาเป็นเพื่อนไม่กี่คนของหวัง แต่ในฉากหนึ่งหนังถ่ายภาพสาวร้านเน็ตเดินลงบันไดไป หวังแอบมองเธอผ่านทางกล้องวงจรปิด เขารู้ว่าเธอมีบริการพิเศษให้ลูกค้าและเธอคงลงไปทำสิ่งนั้น หนังซ้อนภาพของเธอเข้ากับการลงบันไดของอาจิตเพื่อมาหาหวัง ตามมาด้วยฉากการนวดคอที่นุ่มนวลราวกับหนังห่มคลุมตัวเองจางๆ ด้วยอากาศของอาการ โฮโมอีโรติค “เขาไม่เลือกมากหรอกเวลาคนมันเหงา” ตัวละครหนึ่งกล่าวขึ้นมาซึ่งใช้อธิบายภาวะไร้ตัวตน ไร้ราก ล่องลอยไปในที่ที่จินตนาการว่าเป็นบ้านของตัวละครทุกตัวในหนัง

หากพื้นที่ในจินตนาการทางกายภาพกลับกลายเป็นพื้นที่ที่แท้จริงขึ้นมาได้เช่นกัน พื้นที่นั้นคือ พื้นที่แบบกลางลานกว้าง หรือในตึกร้าง พื้นที่ที่แรงงานทมิฬมารวมตัวกันเพื่อเต้นรำในพื้นที่ที่ต้องหลบซ่อนนั้น ในพื้นที่ที่ไม่มีอยู่จริงนั้น ผู้คนจริงๆ มารวมกัน โดยไม่มีเชื้อชาติหรือศาสนา เต้นรำร้องเพลงกัน ในที่นั้นที่นายตำรวจได้พบคนที่หาย ทุกคนได้กลับคืนสู่ทุกที่ พื้นที่ชั่วคราวนั้นเองได้กลายเป็นพื้นที่ที่ไม่ต้องจินตนาการเอาอีกต่อไป

Tags: