Winter is coming: 7 หนังสือหน้าหนาว โอบกอด อบอุ่น เนิบนุ่ม และทิ้งตัว

หนาวคนกรุงมาแล้ว ที่ต่างจังหวัดหรือบนดอยคงยิ่งหนาวแน่นหนา ฤดูกาลที่มีวันหยุดลากยาวไปถึงช่วงปีใหม่มาถึง เราจึงอยากแนะนำหนังสือไว้อ่านช่วงไปเที่ยวหรือเอาวางประจำไว้บนหัวเตียงเลยยิ่งดี เพราะเวลาแสงเช้าที่แดดไม่จัดและเจิดจ้าเยียบย่องเข้ามาในห้องนอน คุณคงจะอยากอยู่กับหมอนและนอนอ่านหนังสือไปอีกพักใหญ่

Different Seasons เรื่องเล่าต่างฤดู

Stephen King – เขียน / โสภณา เชาว์วิวัฒน์กุล – แปล / สำนักพิมพ์ Merry-Go-Round

ถ้าลายเซ็นของคิงคือนิยายสยองขวัญ และคุณก็สัมผัสได้อยู่แล้วว่าเรื่องราวมืดหม่นลี้ลับนั่นเต็มไปได้ภาวะหัวใจเปราะบางของตัวละคร มีความเป็นมนุษย์มากมาย รวมเรื่องสั้นขนาดยาว 4 เรื่องนี้จะเผยรายละเอียดของเรื่องที่เคยถูกสร้างเป็นหนังมาแล้วถึง 3 เรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Shawshank Redemption, Apt Pupil และ Stand by Me

ช่วงหนาวไม่จัด อากาศกำลังดี เราอยากแนะนำเรื่องที่ 3 ‘The Body’ ที่มาของหนัง Stand by Me พบบทสนทนาย้อนวัยไปช่วงปี 1960 เมื่อเพื่อนคือส่วนหนึ่งของการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ วัยรุ่นที่กำลังสร้างตัวตนจัดจ้านแจ่มชัด จุดเปลี่ยนอาจเป็นคำพูดเพียงไม่กี่คำ แต่ทรงพลังและส่งผลต่อชีวิต เหมือนที่ช่วงต้นเรื่องเขียนไว้

“…ถ้อยคำจะย่นย่อสิ่งที่ดูเหมือนไร้ขีดจำกัดตอนที่อยู่ในหัวจนเหลือเล็กนิดเดียวเมื่อหลุดออกมา แต่เหตุผลไม่ได้มีแค่นั้นจริงไหม เพราะสิ่งสำคัญที่สุดนั้นอยู่ใกล้เหลือเกินกับจุดที่ความลับของหัวใจถูกฝังไว้ เป็นเหมือนหมุดหมายที่บอกให้ศัตรูรู้ว่าคุณฝังขุมทรัพย์ล้ำค่าเอาไว้ที่ไหน…”

มากกว่าการผจญภัยในป่าของเด็กทั้งสี่ เรื่องนี้แสดงช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความท้าทายและไม่กลัวของฮอร์โมนพลุ่งพล่าน เพื่อที่สุดจะพบว่าชีวิตต้องมีพลาดและบาดเจ็บกันบ้าง

คิมจียอง เกิดปี 82

Cho Nam Joo – เขียน / ตรองสิริ ทองคำใส – แปล / สำนักพิมพ์ Earnest

หนังสือหน้าหนาวอาจเป็นเรื่องราวของใครสักคนที่ตอบสิ่งที่อยู่ภายในจิตใจผู้อ่าน นิยายตีแผ่ชีวิตลูกผู้หญิงในสังคมเกาหลีที่สร้างแรงกระเพื่อมในโซเชียลมีเดียอยู่พักใหญ่ จนมีแฮชแท็กยอดฮิต #เราทุกคนคือคิมจียอง

เรื่องราวชีวิตของคุณย่า คุณยาย เมีย แม่ และเธอ ความไม่เท่าเทียมที่อยู่ในทุกหนแห่ง สภาพชายเป็นใหญ่ไม่ว่าจะประเทศไหน ในที่ทำงาน ที่บ้าน หรือในห้องเรียนก็มีอยู่ด้วยกันทั้งนั้น ด้วยภาษาของบทสนทนาที่ตรงไปตรงมา รวมถึง ‘ตรงใจ’ คนที่กำลังตกอยู่ในความรู้สึกตกชั้น ถูกลดบทบาท แม้การจ่ายเงินช้อปปิ้งยังมีภาระหรือเงื่อนไขหนาหนักของคำว่าครอบครัวอยู่บนบ่าเสมอ หนังสือเล่มนี้สมจริง คล้ายอ่านชีวิต ‘ตัวเรา’ ในนั้นอย่างที่หลายคนบอก

ห้องเรียนแห่งร่องรอย

อุเทน มหามิตร / เหล็กหมาดการพิมพ์

หนังสือกวีต้องมีในฤดูหนาว เพราะตอนคุณเพิ่งตื่นจากภวังค์ฝัน กลิ่นอวลอุ่นของหมอนและผ้าห่มกับแดดเช้าเนิบนุ่ม ควรต้องมีตัวหนังสือลอยจมฝันฟุ้งนอนเล่นอยู่ข้างๆ

“…ใบไม้ร่วงหายไปในดงหญ้า / ชายใบ้ฝันว่าเป็นเพลี้ยกระโดด / แม้จะจดจำลักษณะการกระโดดไม่ได้ / แต่เขาเป็นสุขที่ไม่ต้องฝันว่าเป็นตัวเอง /// แมลงเต่าทอง / เป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง / ของความกลัวที่เขาไม่เคยกลัว / หยาดน้ำค้าง / เป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง / ของกระจกเงาซึ่งจ้องกลืนกิน /// เช้าวันใหม่ เรียกตัวเขากลับมา / ราวคลื่นความฝันถากระทบฝั่ง / ฝั่งซึ่งโขดหินอัปลักษณ์รอปะทะสังสรรค์ / มรสุมฤดูร้อนที่โอบล้อมเกาะร้างทุกทิศทาง /// กลับมาจากชีวิต หรือกลับมาจากความตาย / กลับมาสูดความไม่รู้ที่พรั่งพรูราวกับสายน้ำพุ …”

นี่คือบางส่วนจากทั้งหมด 248 หน้า บ้าไปแล้วหนังสือกลอนที่หนาขนาดนี้ นี่คือหลากรูปแบบบทกลอนที่ย้อนให้เรากลับไปละเมียดละไมกับชีวิตอีกครั้ง (หนังสือทำมือ พิมพ์จำกัด)

เอเรนดีรา ผู้บริสุทธิ์

Gabriel García Márquez – เขียน / กำพล นิรวรรณ – แปล / สำนักพิมพ์สามัญชน

ออนเดอะโร้ดไปกับชะตากรรมของเอเรนดีรา หลานสาวกำพร้าที่มีย่าเป็นเจ้าชีวิต เร่ใช้ร่างของเธอให้บริการชายมากหน้าเพื่อชดใช้ค่าเสียหายจากเหตุไฟไหม้บ้าน นิยายขนาดสั้นที่เชยซะไม่มี แต่เพราะเป็นมาร์เกซ ผู้ไม่ทิ้งลายการบรรยายอย่างบรรเจิดเห็นภาพ เปรียบเปรยท่วงท่าเหนือจริง จนทุกเหตุการณ์และสถานที่แจ่มชัดในจินตภาพ ตั้งแต่พ่อม่ายที่ตีค่าพรหมจารีอย่างทารุณ หรือเหตุบนกระบะเปิดประทุนของนักค้าของเถื่อน ไปจนถึงความหอบระโหยกลางทะเลทรายที่เธอต้องจ่ายค่าหนี้กับชายที่มาเข้าแถวรอคิว

ความไม่ซับซ้อนของเรื่องเล่าผสานกับภาษาของผู้แปลที่เรียบลื่น ไม่จำเป็นต้องอ้างหน้าหนาว แค่มีเวลาเพียงสั้นๆ ก็อ่านจบ คุณจะได้ประจักษ์ฝีมือของมาร์เกซที่มากไปกว่าวรรณกรรมชิ้นเอก หนึ่งร้อยปีแห่งความโดดเดี่ยว หรือ ความรักและปีศาจตัวอื่นๆ

ลัชไลฟ์ : ลัก-ลวง-ไร้

Kotaro Isaka – เขียน / กนกวรรณ เกตุชัยมาศ – แปล / สำนักพิมพ์กำมะหยี่

ภาพรอยเท้าหลายแบบบนปก สื่อถึงเรื่องราวของบรรดาคนแปลกหน้าในเมืองที่เดินผ่าน มองเห็น สบตา พบหน้าที่ต่างเกี่ยวข้องกัน ทั้งตกต่ำ ดำดิ่ง โดดเดี่ยว คล้ายสภาพที่เรากำลังเผชิญ

โคทาโร อิซากะได้สร้างตัวละครคนเมืองธรรมดาให้มีเสน่ห์ดึงดูดอย่างน่าประหลาด ผูกปมฆาตกรรมชวนติดตาม การดำเนินไปในแบบเดิมๆ กลายเป็นว่ามีบทสนทนาไม่เป็นเหตุเป็นผล โผล่ฉับพลันแบบไม่ตั้งตัวแต่ชวนคิดสะกิดใจ

เช่น “…ไม่แน่นะ พระเจ้าอาจจะหมายถึง ‘แผ่นดินไหว’ ‘ต้นไม้ใหญ่’ ‘พายุฝน’ ‘อุทกภัย’ หรืออะไรเทือกนั้น ฉะนั้นคนที่จะช่วยพวกเราซึ่งกำลังเดินอยู่บนถนนที่มืดมิดมองไม่เห็นปลายทาง จริงๆ แล้วอาจจะไม่ใช่ชายที่ยืนบนแท่นแล้วกล่าวปาฐกถาซ้ำๆ แต่อาจจะเป็น… ผู้ชายอย่างพ่อของเธอที่กางแขนกระโดดตึกตายก็ได้…”

หนังสือบอกกับเราว่า ไม่จำเป็นต้องหาเหตุผลให้กับบางเรื่อง เพราะเราไม่มีทางรู้หรอกว่าจะมีอะไรเกี่ยวข้องกับชีวิตของเราบ้าง แต่ถ้าจะหาเหตุผลว่าทำไมต้องอ่าน คือแค่อยากให้คุณปลดเปลื้องการงานหน้าที่ ลองทิ้งตัวไปกับเรื่องเล่า ปล่อยพวกมันปักปมจินตนาการ เอาตัวคุณเข้าไปอยู่ในโลกอื่นดูสักพัก

IFPOSSIBLE จริงเสมือนจริง

สโรชา ธารา / สำนักพิมพ์ P.S.

เหมือนพึมพำ เหมือนละเมอ เหมือนตื่นแต่ก็กำลังฝัน เป็นฝันร้าย ไม่มีอะไรในโลกนี้เลวร้ายไปกว่าฝันร้ายยามลืมตา

นี่คือนิยามของหนังสือที่เหมาะกับวันที่ว่างเปล่าในยามเช้าที่ไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี เริ่มจากนึกภาพตามจากเรื่อง

“หากวันหนึ่ง… คุณไม่มีตัวตนในกระจก (กระทั่งคุณเองก็พบว่าไม่รู้จะจัดวางตัวเองไว้ที่ไหน) / วันหนึ่งคุณไม่ยิ้มและไม่เห็นความจำเป็นของการยิ้ม (ความรักจะทำให้คุณมีความสุขและกลับมายิ้มได้อย่างไร) / วันหนึ่งคุณไม่มีแม้กระทั่งชื่อ ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร ไม่แม้จะระลึกความทรงจำครั้งอดีตได้ (อะไรจะทำให้คุณกลับไปพบตัวเองกับความรักอันสุดแสนยิ่งใหญ่ของวานวัน)”

คล้ายพล็อตการ์ตูนจิบลิภาคภาษาไทย ซึ่งถ้าไม่เป็นตัวคุณเองก็ประสบการณ์ความรู้สึกจากรักที่ผ่านมาแล้วนั่นแหละที่จะสั่นสะเทือนไปกับตอนจบของ 9 เรื่องสั้นในเล่มนี้

Italy Crafted ลีลาอิตาลี

พลอย จริยะเวช / สำนักพิมพ์ openbooks

“อิตาลี สรวงสวรรค์ของมนุษย์ธรรมดา ผู้มิปรารถนาจะครอบครองจักรวาล” เจ้าสำนักโอเพ่นบุ๊ค คุณภิญโญ ไตรสุริยธรรมา ออกปากนิยามอิตาลีไว้อย่างน่าสนใจ

ซิซิลีคือเมืองที่เกอเธ่ นักเขียนชาวเยอรมันมอบให้เป็นรากฐานงานฝีมือ และพลอย-จริยะเวชก็นำมาเล่าผ่านภาพเก่าของชีวิตผู้คน สีสันของสิ่งของ อาหารชื่อดังที่ต้องลิ้มลองทั้งหวาน-คาว และที่แน่ๆ คือแลนด์สเคปสุดชิลล์ของอิฐสีส้มของซากปราสาทและป้อมปราการ ตัดริ้วขอบฟ้าด้วยภูเขาไฟเอทน่าสีขาวโพลนที่ยังคงปะทุ

ตัวหนังสือชวนรับลม ท่องไปดินแดนที่ทุกส่วนประกอบล้วนมีชีวิต ยังมีเมืองปุลเญียที่แม้ข้นแค้นแต่กลับเป็นขุมพลังในการสร้างสรรค์ความงาม น้ำทะเลสีฟ้าตัดกับเหลืองมะนาวลูกยักษ์ในเมืองคัมปาเนียพาเคลิ้มหลง ยิ่งถ้าผสมสัมผัสเหล้าหวานนาม ลิมอนเชลโล บอกเลยว่าหนังสือเล่มนี้มอบสารพัดสีให้หนาวนี้ไม่เรียบนิ่งอีกเลย

หมายเหตุ: หนังสือทั้งหมดนี้หาซื้อได้ตามร้านหนังสือทั่วไป ยกเว้นเล่ม “ห้องเรียนแห่งร่องรอย” หาซื้อได้โดยตรงกับผู้เขียนทางเฟซบุ๊กเพจ อุเทน มหามิตร