Photo: wikipedia.org

นี่คือหนังสารคดีที่ได้รับการจับตามองจากนักดูหนังมากที่สุดเรื่องหนึ่ง ส่วนหนึ่งเพราะเป็นผลงานจากทีมผู้สร้างหนังสารคดีรางวัลออสการ์อย่าง Amy ที่ยังประทับใจนักดูหนังและแฟนเพลงของ เอมี ไวน์เฮาส์ อยู่ และอีกส่วนหนึ่งเพราะว่ามันเป็นสารคดีที่เล่าเรื่องวงดนตรีที่มีชื่อว่า Oasis

ถ้าคุณรู้จัก Oasis ดีอยู่แล้ว คุณอ่านข้ามตรงนี้ไปก็ได้ แต่สำหรับคนที่โตไม่ทันความรุ่งเรืองของวงดนตรีจากแมนเชสเตอร์วงนี้แล้วละก็ ขอบอกเพียงว่าในช่วงต้นยุค 90s วงการเพลงร็อกจากฝั่งอังกฤษ ได้รับความนิยมอย่างสูงเป็นครั้งที่สอง (นับตั้งแต่ยุค 60s ที่เกิดกระแส British Invaders โดยวงอย่าง The Beatles, The Who และ The Rolling Stones) และกระแส British Invaders ครั้งที่สองนี้ วงอังกฤษที่เป็นหัวหอกในการบุกยึดตลาดเพลงโลกมีอยู่จำนวนหนึ่ง

แต่ Oasis เป็นวงที่อยู่หัวแถว เป็นวงอันดับหนึ่ง ของคอลเลกชันนี้ – เสมอ – ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนของ Blur หรือวงอื่น คุณจะไม่ยอมรับความจริงนี้ก็ตาม แต่คุณไม่อาจปฏิเสธได้ว่า พวกเขาคือเบอร์หนึ่งของเกาะอังกฤษ และเผลอๆ อาจจะเบอร์หนึ่งของโลก (อย่างน้อยก็ในช่วงเวลาระหว่างปี 1994-1996) และ Oasis: Supersonic คือสารคดีที่พูดถึงวงดนตรีวงนี้

 

Photo: youtube.com

ผู้กำกับ แมต ไวต์ครอส ไม่ได้เลือกช่วงเวลาทั้งหมดของวงมาใส่ในหนัง แต่เขาหยิบเอาช่วงเวลาสั้นๆ ราว 3 ปี (1993-1996 และก่อนหน้านั้นอีกเล็กน้อย) ของวงนับตั้งแต่ที่ เลียม กัลลาเกอร์ ก่อตั้งวง The Rain และไปลาก โนล ผู้เป็นพี่ชาย ซึ่งเป็นเทคนิคเชียนให้กับวง Inspiral Carpets มาเป็นผู้จัดการวงและเป็นคนแต่งเพลง จนกลายมาเป็น Oasis แล้วค่อยๆ สร้างชื่อเสียง เดิมพันครั้งแล้วครั้งเล่าจนได้ไปพบอลัน แม็กกี ผู้บริหารค่ายครีเอชัน เร็กคอร์ดส์ สู่การเซ็นสัญญาออกอัลบั้มแรก Definitely Maybe ในปี 1994 ที่เปลี่ยนประวัติศาสตร์วงการเพลงร็อก และไปจบที่คอนเสิร์ตครั้งสำคัญที่เน็บเวิร์ธ ที่มีผู้ชมรวมแล้วกว่า 250,000 คน หลังจากออกอัลบั้มที่สอง (What’s The Story) Moring Glory? ในปี 1995 ซึ่งเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของวงก็ว่าได้ เหมือนเป็นดอกไม้ไฟที่พุ่งขึ้นแล้วเปล่งประกายสว่างไสวในท้องฟ้ายามค่ำ ส่องแสงค้างไว้เพียงชั่วพริบตา แล้วหายวับดับไปในความมืด เรื่องราวหลังจากนั้น แม้วงจะเดินทางไปต่อ แต่ว่ากันให้ถึงที่สุดมันไม่ใช่สาระสำคัญของ Oasis อีกเลย

หนังเลือกวิธีการเล่าเรื่องผ่านการสัมภาษณ์ หลักๆ คือคู่พี่น้องมหาประลัยแห่งบ้านกัลลาเกอร์ เสริมด้วยคนที่เกี่ยวข้องตามช่วงเวลา ใช้เทคนิคฉูดฉาดในช่วงแรก (เนื่องจากน่าจะยังไม่มีคลิปที่เป็นฟุตเทจมากพอ) ก่อนจะมีฟุตเทจที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในช่วงครึ่งหลังของเรื่อง

 

Photo: youtube.com

ผู้ชมจะได้เห็นความแสบสันต์ของโนล และเลียม เห็นความรักความชังความผูกพันในแบบ ‘Love-Hate Relationship’ ของพี่น้องคู่นี้ เห็นว่าเพลงแต่ละเพลงของพวกเขาที่กลายมาเป็นเพลงฮิตคลาสสิกแต่ละเพลงนั้นมันมีเลือดมีเนื้อ มีความเมาความมั่ว มีความบ้าๆ บอๆ ที่งดงาม และไปจบด้วยนาทีประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของวงการเพลง

ความยอดเยี่ยมของ Oasis: Supersonic ไม่ได้อยู่ที่การนำเสนอรูปแบบที่หวือหวา หากอยู่ที่การเลือกจับประเด็นเฉพาะที่ทำให้ผู้ชมเห็นความงดงามในมุมที่ไม่เคยเห็นจากวงดนตรีวงนี้ เห็นแรงขับเคลื่อนของวง เห็นอุปสรรคที่พวกเขาทั้งก้าวข้ามได้และทั้งหกล้มหัวคะมำ

มันคือหนังสารคดีที่จะทำให้เราฟังเพลงของพวกเขาไพเราะขึ้น ในความอหังการแบบร็อกแอนด์โรล มันมีเลือดและเนื้อ มีรักและหวังมวนอยู่ในนั้น

 

FACT BOX:

Oasis: Supersonic
จัดหน่ายโดย: Documentary Club
กำกับภาพยนตร์: แมต ไวต์ครอส
ประเภท: สารคดี
ความยาว: 122 นาที

Tags: ,