ย้อนกลับไปเมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว เราคงมีโอกาสได้เห็นแคมเปญการตลาดของหลายๆ แบรนด์ที่ทำโฆษณาออกมาเป็นแนวซีรี่ส์ มีเรื่องราวให้ติดตามกันอยู่เป็นครั้งคราว แต่แทบจะไม่มีแบรนด์ไหนเลยที่ทำแล้วประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องจนซีรีส์นี้ดำเนินเข้าสู่ซีซันที่ 4 แล้ว อย่างแบรนด์ ‘ตราช้าง’ กับซีรี่ส์ Love Therapy บริษัทบำบัด ไม่จำกัดรัก
หยิบเรื่องราวจากชีวิตจริงมาเล่าให้ได้ข้อคิด
Love Therapy เป็นซีรี่ส์ที่สร้างขึ้นจากการหยิบยกเอาเรื่องราวในชีวิตจริงของคนทำงานในสมัยนี้มานำเสนอในแง่มุมที่หลากหลาย ทั้งเรื่องราวของครอบครัว ที่ทำงาน เพื่อนร่วมงาน ความรัก ซึ่งตลอดสามซีซั่นที่ผ่านมา ซีรี่ส์เรื่องนี้ก็ยังเล่าเรื่องราวชีวิตของคนในยุคนี้ได้อย่างหลากหลาย ตรงไปตรงมา และเข้าใจชีวิตคนทำงานจริงๆ
สิ่งที่น่าสนใจคือซีรี่ส์ของแบรนด์ตราช้างเรื่องนี้ เป็น Unbranded Campaign ที่แทบจะไม่มีการพูดถึงตัวโปรดักต์ของแบรนด์เลย แน่นอนว่ามีผ่านตาเข้ามาบ้าง เพราะเรื่องราวส่วนใหญ่เกิดขึ้นในออฟฟิศ และการเห็นข้าวของเครื่องใช้ในสำนักงานย่อมไม่ใช่เรื่องประหลาดอะไร จึงทำให้การปรากฏของสินค้าแบรนด์ตราช้างนั้น ไม่รู้สึกเหมือนถูกยัดเยียดหรือจงใจจนเกินไป
ประเด็นหลักๆ ที่สำคัญของซีรี่ส์ไม่ได้เน้นการขายของหรือสร้างซีนขึ้นมาเพื่อให้สินค้าสามารถอยู่ได้ แต่เน้นการเล่าเรื่องราวชีวิตจริงของเหล่าพนักงานออฟฟิศที่สามารถพบเจอได้ทั่วไป ดำเนินเรื่องผ่านตัวละครหลักอย่าง ‘ขุนทัพ’ HR หนุ่มหน้าตาดี ผู้มีหน้าที่เคลียร์ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับพนักงานในบริษัท ทั้งเรื่องของการทำงานและชีวิตส่วนตัว ซึ่งทำให้ผู้ชมสามารถเข้าถึงการใช้ชีวิตได้มากกว่าแง่ของการทำงาน เพราะในแง่ของชีวิตส่วนตัว ซีรี่ส์ก็สามรถเล่าเรื่องได้อย่างน่าสนใจ ดึงดูด มีอารมณ์ขัน และตรงไปตรงมาทีเดียว
ไม่ต้อง Hard Sale แต่ต้องเข้าใจชีวิตคนรุ่นใหม่
ตลอดสามซีซั่นที่ผ่านมา แคมเปญซีรี่ส์ Love Therapy ของแบรนด์ตราช้างนั้น ต้องการที่จะสื่อสารความเป็นแบรนด์ที่เข้าใจและรู้จริงเรื่องการใช้ชีวิตมากกว่าการขายสินค้าอย่างฮาร์ดเซล บวกกับแง่คิดที่จะสอดแทรกเข้ามาตลอดทั้งเรื่อง อย่าง #คำคมตรางช้าง เพื่อให้คนดูได้ข้อคิดดีๆ ที่สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้
ในขณะเดียวกัน แบรนด์ตราช้างได้สอดแทรกเกร็ดความรู้เกี่ยวกับเครื่องเขียนหรือเครื่องใช้สำนักงานของแบรนด์ผ่านการใช้งานจริงในซีรี่ส์ ยกตัวอย่างเช่น หากต้องการจะทดสอบว่ากรรไกรเล่มนั้นคมหรือไม่ ก็แค่ให้ลองเอาปลายสุดของกรรไกรตัดเพียงนิดเดียวก็จะรู้ได้ทันทีว่ากรรไกรเล่มนี้คมหรือไม่ รวมไปถึงการใช้งานของปากกาเน้นข้อความที่ถูกใช้งานในจังหวะที่เหมาะสมและตรงประเด็น ก็ช่วยสร้างความเข้าใจต่ออุปกรณ์นั้นๆมากยิ่งขึ้น โดยที่ไม่ต้องมานั่งอธิบายกันอย่างจริงจังเรื่องการใช้งานอุปกรณ์นั้นๆ สอดคล้องกับ tag line ตอนท้ายของซีรี่ส์ที่ว่า “รู้จริงเรื่องชีวิต รู้จริงเรื่องเครื่องเขียน”
จากกระแสตอบรับที่ดีตลอดสามซีซั่น และกำลังดำเนินเข้าสู่ซีซั่นที่ 4 นั้นเป็นเสมือนเครื่องยืนยันว่า การที่แบรนด์เลือกนำเสนอเรื่องราวของการใช้ชีวิตมากกว่าตัวสินค้า ไม่ได้ช่วยแค่ทำให้คนรับรู้ว่าแบรนด์ตราช้างเป็นแบรนด์เครื่องเขียน เครื่องใช้สำนักงานเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นแบรนด์ที่เข้าใจชีวิตคนจริงๆ
Love Therapy ทั้งสี่ซีซั่น กำกับโดย คุณสุหฤท สยามวาลา ผู้บริหารรุ่นที่ 4 ของ ดี.เอช.เอ. สยามวาลา จำกัด ที่เล็งเห็นว่าศิลปะและเครื่องเขียนเป็นสิ่งที่สามารถพัฒนาไปด้วยกันได้ และเพื่อให้สินค้าตราช้างดูทันสมัยและเป็นที่ต้องการของคนรุ่นใหม่ ในยุคที่เปลี่ยนไป พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน พฤติกรรมการเสพสื่อเปลี่ยน ทุกคนเล่นโซเชียลมีเดียและเสพข่าวสารใหม่ๆ ตลอดเวลา การสร้างแคมเปญซีรี่ส์เรื่องนี้จึงเป็นอีกช่องทางการสื่อสารของแบรนด์ที่ทำเพื่อให้เข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้มากขึ้น
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2015 Love Therapy บริษัทบำบัด ไม่จำกัดรัก ซีซั่น 1 ได้ปล่อยให้รับชมกันในเฟซบุ๊กของแบรนด์ตราช้าง และได้รับผลตอบรับที่ดีมากมายจนทำให้มีซีซั่นต่อๆ มาอย่างต่อเนื่อง และในปี 2018 เรื่องราวก็ดำเนินเรื่องมาเป็นซีซั่นที่ 4 แล้ว
Love Therapy ซีซั่น 4 กับเรื่องความเปลี่ยนแปลง
ซีซั่น 4 ซีซั่นล่าสุดที่เพิ่งปล่อยตอนแรกไปเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2018 เล่าเรื่องราวต่อเนื่องจากซีซั่นก่อนๆ และยังได้นักแสดงชุดเดิมมาตั้งแต่ซีซั่นแรก ช่วยให้ผู้ชมยังติดตามเรื่องราวในเรื่องนี้และยังอินกับเรื่องอยู่ เหมือนกับผู้ชมซีรี่ส์และแบรนด์ตราช้างนั้นเติบโตไปพร้อมๆ กัน ค่อยๆเห็นความเปลี่ยนแปลงไปของตัวละคร การทำงาน ชีวิต และความสัมพันธ์
อย่างไรก็ตามในซีซั่นล่าสุด อย่างซีซั่น 4 แบรนด์ได้พูดถึงส่วนที่เป็นสินค้าของตนเองมากขึ้น จากที่เดิมทีมีการกล่าวถึงบ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ทำให้เนื้อหาในซีซั่นนี้มีอรรถรสที่ด้อยลงไปเลย อาจจะด้วยพฤติกรรมของผู้ชมนั้นเปลี่ยนแปลงไป และความเข้าใจต่อแคมเปญซีรีส์โฆษณานั้นมีมากขึ้น จึงทำให้บรรยากาศในซีรีส์ยังคงสามารถดำเนินต่อไปได้ แต่ก็ยังโฟกัสไปที่แกนหลักของเรื่องอย่างเรื่องราวชีวิตจริงของคนในยุคสมัยได้อย่างสนุกสนาน
ในซีซั่น 4 ที่ปล่อยมาให้ได้ชมกันนั้น เรื่องราวโฟกัสไปที่เรื่องของความเปลี่ยนแปลงในแง่มุมที่หลากหลาย และมีเนื้อหาสะท้อนสังคมยุคใหม่มากขึ้น ทั้งเรื่องของการใช้โซเชียลมีเดีย การกลั่นแกล้งและคุกคามในโลกออนไลน์ ซึ่งแบรนด์ตราช้างก็ยังนำเสนอแง่คิดดีๆ ต่อเหตุการณ์นั้นๆ ได้อย่างดี
แม้ว่าพฤติกรรมการเสพสื่อออนไลน์ของคนในปัจจุบันจะเสพอะไรที่สั้นลง มาไวไปไว และความยาวของซีรี่ส์ Love Therapy ที่มีความยาวเฉลี่ยตอนละ 20 นาที ดูเป็นเรื่องที่สวนทางกลับพฤติกรรมการเสพสื่อของคน แต่ซีรี่ส์ก็ยังสามารถดึงให้คนดูต่อจนจบได้ อาจเป็นเพราะผู้ชมไม่ได้มองว่าซีรี่ส์นี้คือแคมเปญโฆษณาที่กำลังขายของอยู่ แต่มองมันเป็นซีรี่ส์หรือละครจริงๆที่ฉายให้คนดูได้ติดตามต่อไปเรื่อยๆ
หากจะมองความเปลี่ยนแปลงของแบรนด์ที่ค่อยๆ มีภาพลักษณ์ที่ทันสมัย เข้าถึงคนรุ่นใหม่มากยิ่งขึ้นผ่านซีรี่ส์เรื่องนี้ แบรนด์ตราช้างก็ถือเป็นแบรนด์ที่กำลังบอกทุกคนว่า ช้างตัวนี้รู้ว่าตัวเองมีดีอะไร แถมกำลังพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ เลยอยากแชร์สิ่งเหล่านี้ให้กับทุกคน แล้วค่อยๆ หลงรักช้างตัวนี้ไปทีละนิดก็พอแล้ว
ติดตามซีรี่ส์ Love Therapy ได้ที่
season 4 EP.1 https://goo.gl/s74dPD
season 4 EP.2 https://goo.gl/xSLECU
Tags: แบรนด์ตราช้าง, สยามวาลา, DHAS, DHA Siamwalla, Office, love therapy, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน, Elephant Brand