วันนี้ (3 ธันวาคม 2568) ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, พลตำรวจตรี โสภณ สารพัฒน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, เทพสุ บวรโชติดารา รองเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวยึดและอายัดทรัพย์สินขบวนการสแกมเมอร์และอาชญากรรมที่เกิดขึ้น
พลตำรวจตรีโสภณเริ่มแถลงว่า ปฏิบัติการที่เกิดขึ้นนี้เริ่มต้นจากการรับเรื่องจากประชาชนที่ถูกฉ้อโกงออนไลน์ จากนั้นจึงได้ส่งข้อมูลเข้ามาที่ศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ ซึ่งตั้งอยู่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อวิเคราะห์ข้อมูล โดยในปี 2564 มีผู้เสียหาย 700 ราย ถูกฉ้อโกง หลอกลวงให้ซื้อสินค้า เล่นการพนัน ตลอดจนหลอกให้ทำงานและหลอกให้กู้เงิน
พลตำรวจตรีโสภณยังเล่าต่อว่า หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสอบสวนจึงได้ไล่เส้นเงิน เพื่อตรวจสอบจนพบว่า มีเงินจากบัญชีของผู้เสียหายถูกโอนไปยังบัญชีม้าแต่ละทอด แบ่งออกเป็นแถวที่ 1 2 3 4 และ 5 ตามลำดับ โดยบัญชีม้าแถวที่ 5 ปรากD 2 บัญชีสำคัญคือ บัญชีธนาคารกรุงเทพและบัญชีธนาคารกสิกรไทย ซึ่งเชื่อมโยงไปยังบัญชีของ ยิม เลียก (Yim Leak) ผู้บริหารของ BIC Bank Cambodia
โดยบัญชีธนาคารกรุงเทพมียอดธุรกรรมประมาณ 3,000 ล้านบาท และที่บัญชีธนาคารกสิกรไทยมีมูลค่าความเสียหายอยู่ที่ 154 ล้านบาท และจากการรวบรวมพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ผ่านการสอบสวนผู้เสียหายกว่า 40 ปาก ยังพบอีกว่า ผู้เสียหายทั้งหมดถูกหลอกลวงจากการกู้ยืมเงินและสั่งซื้อสินค้า
ในเวลาต่อมาเมื่อมีการดำเนินการสอบสวนและรวบรวมหลักฐาน จึงได้ขอศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหาจำนวน 42 ราย ซึ่งมี 2 บุคคลสำคัญคือ ยิม เลียกและวิรินยา ยิม (Virinya Yim) ผู้เป็นภรรยา โดยปัจจุบันสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 29 ราย อยู่ระหว่างการหลบหนี 13 ราย
อย่างไรก็ตามเมื่อวานนี้ (2 ธันวาคม 2568) ได้มีการตรวจยึดทรัพย์สิน รวมถึงมีคำสั่งของคณะกรรมการธุรกรรม ป.ป.ง.ออกมา โดยทรัพย์สินที่ยึดไว้ได้ มีทั้งรถยนต์หรู เรือยอชต์ และเงินสดในบัญชี รวมมูลค่ากว่า 1.01 หมื่นล้านบาท
ด้านเทพสุระบุว่า จากการทำงานของ ป.ป.ง.ยังพบว่า แตงไทย บ้านมะหิงษ์ ได้รับมอบอำนาจให้ดำเนินธุรกรรมเงินฝากของ ‘กลุ่มยิม เลียก-ภรรยา-เบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์’ (Benjamin Mauerberger) โดยข้อมูลระหว่างปี 2560-2565 มีการรับโอนเงินรวมกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท โดยจากการไล่ตรวจสอบยังพบอีกว่า กลุ่มบุคคลเหล่านี้ยังมีการเปิดบริษัทบังหน้า (Shelf Company) ถือทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำผิดกฎหมายมาฟอก
ทั้งนี้คณะกรรมการธุรกรรม ป.ป.ง.จึงมีมติยึดและอายัดทรัพย์ทั้งรถยนต์ที่ดิน ห้องชุด หุ้นที่บริษัทบังหน้าถือครองอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ต.ล.ท.) ขณะเดียวกันยังมีมติให้ดำเนินการเอาผิดกับ ก๊ก อาน (Kok An) ที่มีพฤติการณ์หลอกลวงประชาชน โดยได้อายัดของกลาง 90 รายการ มูลค่า 467 ล้านบาท รวมถึงเอาผิดกับเฉิน จื้อ (Chen Zhi) ผ่าน Prince Holding โดยได้ยึดของกลาง 102 รายการ มูลค่า 373 ล้านบาท และยังอยู่ระหว่างการขยายผลต่อไป
ขณะที่ประเด็นธุรกรรมของเบนจามินที่มีกิจการและบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ เลขาธิการ ป.ป.ง.ยืนยันต่อสื่อมวลชนว่า จะเดินหน้าตรวจสอบ โดยใช้ข้อมูลทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นธุรกรรมทางการเงิน ตลอดจนความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงระหว่างบุคคล
“ป.ป.ง.ตรวจสอบทุกมิติ บางอย่างอยู่ในชั้นสอบสวน เราไม่อาจบอกได้ว่า เราตรวจสอบใครบ้าง ท่านจะเห็นว่า ป.ป.ง.เงียบมากว่า 1 เดือน แต่เราไม่ได้นิ่ง แต่การสอบสวนมันต้องเป็นความลับ เราต้องนิ่งในการดำเนินการ และก็เป็นผลสัมฤทธิ์ที่เห็นอย่างเป็นรูปธรรม ยืนยันว่าต้องมีการขยายผลต่อไป” เทพสุกล่าว
โดยหนึ่งในหุ้นที่มีการยึดไว้ เลขาธิการ ป.ป.ง.เปิดเผยว่า เป็น ‘หุ้นบางจาก’ มูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท (มูลค่า ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2568) เป็นเวลา 90 วัน ซึ่งเบนจามินมีเวลาพิสูจน์ภายใน 30 วัน
ส่วนความเชื่อมโยงของเบนจามินกับ วรภัค ธันยาวงษ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อนุทินชี้แจงว่า การรู้จักกัน สามารถรู้จักกันได้ แต่นโยบายของตนได้มอบหมายให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่ดำเนินการทั้งหมด ไม่ว่าใครเชื่อมโยงกับใครก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ตามหลักฐานและการสอบสวนอย่างเคร่งครัด ไม่มีการละเว้น
“ถ้ากลัวว่าคนนี้มีชื่อเสียงจะมีการละเว้นหรือมีคำสั่งพิเศษหรือไม่ เวลาผมจะทำอะไร ไม่ต้องไปสนใจชื่อ แต่ดูที่พฤติกรรม ถ้าออกมาเป็นใครก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย เพราะถ้าไม่ดำเนินการพวกเราก็จะโดนข้อหาละเว้นเสียเอง” อนุทินระบุ
ทั้งนี้นายกฯ ยังเปิดเผยอีกว่า ได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยถอดถอนสัญชาติไทยของยิม เลียกเรียบร้อยแล้ว
“ในนามของหัวหน้ารัฐบาลขอชื่นชมฝ่ายปฏิบัติการ ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ป.ป.ง. กระทรวงยุติธรรม กระทรวง DE สิ่งนี้เป็นอีกหลักฐานว่า รัฐบาลไม่ได้เพิกเฉย ละเลย ต่อเรื่องการปราบปรามผู้ก่ออาญชากรรมข้ามชาติ สแกมเมอร์ทั้งหลายตามที่มีบุคคลหลายท่านวิจารณ์ว่า รัฐบาลไม่ได้ให้ความสนใจ
“รัฐบาลชุดนี้เพิ่งเข้ามาทำงาน 8 สัปดาห์ ผมแทบจะจำนับครั้งไม่ได้แล้วว่า ผมไปร่วมกับทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและทีมงานของท่าน พูดง่ายๆ ว่าคือทุกคนที่อยู่ในการแถลงข่าววันนี้ในการไปให้ข้อมูล เวลาจับกุมยาเสพติดทุกประเภท จับกุมยึดทรัพย์บ่อนพนัน เรื่องของการก่ออาชญากรรมทั้งหลาย
“อยากให้ประชาชนเชื่อถือและเชื่อมั่นว่า ในเรื่องของอาชญากรรมเหล่านี้ คนผิดกฎหมายเช่นนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลถือว่า มีความสำคัญและรัฐบาลให้การสนับสนุนหน่วยงานปฏิบัติทุกรูปแบบที่จะทำให้พวกเขาดำเนินการได้ทันที ไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ไม่มีการละเว้นให้กับผู้ใด” อนุทินทิ้งท้าย



