เมื่อวานนี้ (24 พฤศจิกายน 2025) สำนักข่าว Xinhua ของจีนรายงานว่า สี จิ้นผิง (Xi Jinping) ประธานาธิบดีจีน ต่อสายตรงทางโทรศัพท์เพื่อหารือในประเด็นต่างๆ กับ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา พร้อมเน้นย้ำว่า ไต้หวันจะต้องกลับมาเป็นของจีน ซึ่งถือเป็น ‘ส่วนสำคัญ’ ของการรักษาระเบียบระหว่างประเทศหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
การพูดคุยนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ผู้นำของทั้ง 2 ชาติมหาอำนาจเพิ่งพบกันตัวต่อตัว นอกรอบการประชุมเอเปค (APEC) ที่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
การพูดคุยระหว่าง 2 ผู้นำ ประกอบไปด้วยประเด็นสำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งสี จิ้นผิงระบุว่า จีนจะสนับสนุนทุกทางที่จะนำไปสู่สันติภาพ รวมไปถึงการหารือเรื่องสารเฟนทานิล และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรอื่นๆ เช่น ถั่วเหลือง ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักของสหรัฐฯ สี จิ้นผิงยังระบุเพิ่มเติมอีกว่า จีนและสหรัฐฯ ควรรักษาความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันไว้ พร้อมก้าวไปข้างหน้าด้วยกันบนพื้นฐานของความเท่าเทียม ความเคารพ และผลประโยชน์ร่วมกัน
หนึ่งในประเด็นสำคัญของการพูดคุยในครั้งนี้คือ ประเด็นเรื่องไต้หวัน ซึ่งจีนยังคงถือว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของตน และยังไม่ตัดความเป็นไปได้ที่จะใช้กำลังเพื่อเข้าควบคุม
การพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นเรื่องไต้หวัน เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างจีนกับญี่ปุ่น หลังจาก ซานาเอะ ทาคาอิจิ (Sanae Takaichi) นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ระบุว่า ญี่ปุ่นจะสนับสนุนให้มีการใช้กองกำลังทหาร หากจีนบุกไต้หวัน ซึ่งรัฐบาลจีนมองว่า การกระทำดังกล่าวถือเป็นความพยายามในการสร้างความตึงเครียดภายในภูมิภาค และก่อให้เกิดการเผชิญหน้ากันทางการทหาร
ตามรายงานของกระทรวงการต่างประเทศของจีนระบุว่า ทรัมป์เข้าใจดีว่าไต้หวันมีความสำคัญต่อจีนมากเพียงใด แม้ว่าสหรัฐฯ จะมีความสัมพันธ์ทางการค้าที่ดีกับไต้หวันก็ตาม อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ไม่ได้พูดถึงประเด็นไต้หวันผ่านบัญชีส่วนตัวบน Truth Social แต่ระบุเพียงแค่ว่า การพูดคุยกับผู้นำจีนในครั้งนี้เป็นการพูดคุย ‘ที่ดีมาก’
“ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนเข้มแข็งมาก การพูดคุยในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการประชุมที่เกาหลีใต้เมื่อเดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่นั้นมาทั้ง 2 ฝ่ายมีความก้าวหน้าอย่างมาที่จะรักษาและดำเนินข้อตกลงต่างๆ ร่วมกัน” ทรัมป์กล่าว
นอกจากนี้ทรัมป์ยังระบุเพิ่มเติมอีกว่า เขาจะเดินทางเยือนจีนในเดือนเมษายน 2026 และผู้นำจีนจะเดินทางเยือนสหรัฐฯ ในช่วงปลายปี 2026 เช่นกัน
ในขณะเดียวกัน จั๋ว หรงไท่ (Cho Jung Tai) นายกรัฐมนตรีไต้หวัน ได้ออกมาโต้ตอบทันที เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (25 พฤศจิกายน 2025) ว่า ‘การหวนคืน’ สู่ประเทศจีน ไม่ถือตัวเลือกของชาวไต้หวัน และการรักษาสถานะของไต้หวันคือสิ่งที่ประชาคมทั่วโลกกำลังจับตามองอยู่
“พวกเราขอเน้นย้ำอีกครั้งว่า จีนหรือไต้หวันถือเป็นประเทศที่มีอิสระและมีอำนาจอธิปไตยเป็นของตัวเอง” จั๋ว หรงไท่ให้สัมภาษณ์กับสื่อ “ประชาชนราว 23 ล้านคนในชาติของเรา เข้าใจตรงกันว่า การกลับคืนสู่จีนไม่ใช่ทางเลือกแต่อย่างใด สิ่งนี้ถือว่าชัดเจนมากพอแล้ว”
ที่มา:
https://english.news.cn/20251125/cc33d5d5f75e476b88868b7fd2e873c4/c.html
https://www.theguardian.com/world/2025/nov/25/china-taiwan-xi-jinping-call-with-donald-trump
Tags: จีน, สหรัฐฯ, วันไชน่า, โดนัลด์ ทรัมป์, ไต้หวัน, สี จิ้นผิง




