วันนี้ (17 พฤศจิกายน 2025) หุ้นการท่องเที่ยวและการค้าของญี่ปุ่นร่วงหนัก หลังรัฐบาลจีนออกคำเตือนไม่ให้ประชาชนเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่าง 2 ประเทศ หลัง ซานาเอะ ทาคาอิจิ (Sanae Takaichi) นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น หนุนไต้หวันในการใช้กองกำลัง
รายงานการซื้อขายหุ้นในช่วงเช้านี้พบว่า หุ้นของกลุ่มบริษัทเครื่องสำอางชื่อดังของญี่ปุ่นอย่าง Shiseido ร่วงลง 9% และกลุ่มห้างสรรพสินค้า Takashimaya ร่วงลงมากกว่า 5% รวมไปถึง Fast Retailing ซึ่งเป็นเจ้าของ Uniqlo ร่วงลงมากกว่า 4%
สำหรับการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นพบว่า จีนติดอันดับประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมามากที่สุดอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปีติดต่อกัน
ทั้งนี้สถานการณ์ความตึงเครียดทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นหลังจากนายกฯ ญี่ปุ่น ตอบคำถามในรัฐสภาเกี่ยวกับประเด็นไต้หวัน เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
“หากจีนใช้กองกำลังทางทหารกับไต้หวันจริง นี่ถือเป็น ‘สถานการณ์ที่คุกคามต่อความอยู่รอด’ ของญี่ปุ่น” ทาคาอิจิกล่าวในรัฐสภา
สถานการณ์คุกคามการอยู่รอด (Survival-threatening Situation) เป็นคำบัญญัติภายใต้กฎหมายความมั่นคงของญี่ปุ่นในปี 2015 ซึ่งหมายความว่า หากเกิดการโจมตีหรือใช้กำลังด้วยอาวุธต่อพันธมิตรซึ่งก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อการดำรงอยู่ของญี่ปุ่น กองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น (self-defence Forces) สามารถถูกเรียกรวมตัวกันเพื่อรับมือกับภัยคุกคามได้
ต่อมาจีนออกมาตอบโต้กับคำกล่าวของนายกฯ ญี่ปุ่น โดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนถือว่า คำพูดของนายกฯ ญี่ปุ่นเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของจีน นอกจากนี้ เสวี่ย เจี้ยน (Xue Jian) ผู้แทนกงสุลจีนในโอซาก้า ยังออกมาโพสต์ข้อความบน X ผ่านบัญชีส่วนตัวว่า “หัวที่สกปรกนั้นต้องถูกตัดออก” ซึ่งอาจหมายถึงนายกฯ ของญี่ปุ่น ก่อนที่ในเวลาต่อมาข้อความดังกล่าวจะถูกลบ เมื่อได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสาธารณชนของญี่ปุ่นว่าไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (14 พฤศจิกายน 2025) รัฐบาลจีนประกาศเตือนไม่ให้ประชาชนเดินทางเข้าญี่ปุ่น เนื่องจากความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่อาจมุ่งเป้ามาที่พลเมืองชาวจีนมากขึ้น ด้านสายการบินของจีนยังเสนอคืนเงินเต็มจำนวนให้กับผู้โดยสารที่จะเดินทางไปญี่ปุ่นในสิ้นปีนี้ ท่าทีข้างต้นของรัฐบาลจีนส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น
นอกจากนี้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (16 พฤศจิกายน 2025) สถานการณ์ระหว่าง 2 ประเทศได้ตึงเครียดมากขึ้น เมื่อหน่วยยามชายฝั่งของจีนได้ส่งเรือรบเข้าลาดตระเวนบริเวณหมู่เกาะเซ็งกากุ (Senkaku Islands) หรือหมู่เกาะเตียวหยู (Diaoyu Islands) ซึ่งเป็นพื้นที่ข้อพิพาทระหว่างจีนกับญี่ปุ่น อีกทั้งกระทรวงศึกษาธิการของจีนยังประกาศเตือนให้นักศึกษาวางแผน ‘อย่างรอบคอบ’ สำหรับการเดินทางไปศึกษาต่อที่ประเทศญี่ปุ่น
มิโนรุ คิฮาระ (Minoru Kihara) เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น เรียกร้องให้จีนใช้ ‘มาตรการที่เหมาะสม’ ต่อการดำเนินการทางการทูตมากกว่านี้ แม้ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นยังคงยืนยันที่จะไม่เปลี่ยนแปลงจุดยืนในประเด็นไต้หวัน
สื่อญี่ปุ่นยังรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นเตรียมเดินทางเยือนจีนในวันนี้ เพื่อเตรียมหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ครั้งนี้
ทั้งนี้จีนกับญี่ปุ่นเป็นคู่ค้าที่สำคัญของกันและกัน โดยเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทาคาอิจิพบกับ สี จิ้นผิง (Xi Jinping) ประธานาธิบดีจีน ในการประชุมสุดยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือเอเปก (APEC) ซึ่งผู้นำทั้งสองตกลงที่จะสร้าง ‘ความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์ที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน’
อย่างไรก็ตามความไม่ไว้ใจกันซึ่งมีผลมาจากบาดแผลทางประวัติศาสตร์ ส่งผลให้ทั้ง 2 ประเทศมักมีเรื่องบาดหมางต่อกันเรื่อยมา ในขณะเดียวกันนายกฯ ญี่ปุ่นยังมีแนวคิดอนุรักษนิยม ซึ่งเธอพยายามผลักดันความสามารถด้านการป้องกันประเทศของญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลจีนที่พยายามแผ่ขยายกองกำลังในภูมิภาคเพิ่มมากขึ้นทุกปี
ที่มา:
– https://www.bbc.com/news/articles/c5y9n25r0qyo
– https://www.nytimes.com/2025/11/16/world/asia/china-japan-relations-coast-guard.html
Tags: ญี่ปุ่น, จีน, เกาะไต้หวัน, กองกำลังป้องกันตนเอง



