ปัจจุบันมีงานวิจัยทั้งด้านนิเทศศาสตร์และการตลาดหลายชิ้นเผยข้อมูลว่า อุตสาหกรรม BL (รวมถึง GL) ไทยประสบความสำเร็จอย่างมากในการใช้กลยุทธ์คู่จิ้นและแฟนเซอร์วิส เพื่อดึงดูดผู้ชมให้เข้ามามีความสัมพันธ์แบบกึ่งมีส่วนร่วมทางสังคม (Parasocial Relationship) กับศิลปิน และแน่นอนว่าศัพท์ที่เราได้ยินบ่อยที่สุดคำหนึ่งเมื่อเกิดข้อถกเถียงเกี่ยวกับกลยุทธ์ดังกล่าว หนีไม่พ้นคำว่า ‘การเควียร์เบต’ (Queerbaiting)
จนถึงทุกวันนี้ บทความเรื่องการเควียร์เบตของคอลัมน์ Gender ที่เผยแพร่เมื่อปี 2565 (หน้าปกเป็นรูปศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์) ยังคงเป็นหนึ่งในบทความที่นักอ่านของเราอ้างอิงถึงบ่อยที่สุด นับจากวันนั้น ประเทศไทยได้เดินทางมาไกลขึ้นอีกขั้นในแง่ของความหลากหลายทางเพศ วันนี้เรามีทั้งวงไอดอล LGBTQIA+ วรรณกรรมเควียร์ดีกรีซีไรต์ และที่สำคัญที่สุด เรามีกฎหมายสมรสเท่าเทียมแล้ว
วนกลับมาหัวข้อเดิมคราวนี้ The Momentum จึงอยากพูดถึงการเควียร์เบตในบริบทที่เจาะจงและใกล้ตัวมากขึ้น ตลอดจนพาผู้อ่านไปสำรวจว่า คำนี้ยังคงมีความหมายแบบเดิมในสังคมไทยและสังคมโลกหรือไม่
และหากคนในชุมชนเควียร์เข้ามามีบทบาทในกิจกรรมที่เข้าข่ายเควียร์เบตเสียเอง เราจะยังเรียกมันว่าเควียร์เบตได้อยู่หรือเปล่า
วิวัฒนาการของคำว่า Queerbaiting
พจนานุกรมออกซฟอร์ดฉบับปัจจุบันระบุความหมายว่า หมายถึงแนวปฏิบัติในวงการบันเทิงและคอนเทนต์ที่มักใส่ตัวละครหรือความสัมพันธ์ให้ดูมีโอกาสเป็น LGBTQIA+ ลงในเนื้อหา เพื่อดึงดูด เอาใจ และทำกำไรจากผู้ชม LGBTQIA+ โดยไม่บอกชัดเจนถึงรสนิยมทางเพศหรือตัวตนของตัวละครเหล่านั้น จะได้ไม่สูญเสียกลุ่มเป้าหมายที่เป็นอนุรักษนิยมไป
จากนั้นความหมายก็เริ่มขยับขยายไปครอบคลุมเนื้อหาที่ไม่สนใจเรื่องการเป็นกระบอกเสียงให้ชาวเควียร์ แต่กลับเข้ามาฉวยใช้อัตลักษณ์เควียร์กอบโกยผลประโยชน์ทางการเงิน พร้อมทั้งสร้างภาพลักษณ์ก้าวหน้าให้เนื้อหาของตนเองไปด้วย
กรณีที่มีการประกาศว่า ตัวละครดัมเบิลดอร์เป็นเกย์ กลายมาเป็นประเด็นร้อนเมื่อหลายปีก่อนได้ก็เพราะชาวเน็ตลงความเห็นว่า ตัวละครนี้ถูก เจ.เค. โรว์ลิง (J.K. Rowling) ใช้เป็นเครื่องมือเควียร์เบตนั่นเอง

ที่มา: ภาพยนตร์ Harry Potter and the Deathly Hallows – Part 1
แล้วต่อมาโลกอินเทอร์เน็ตก็เริ่มนำคำว่า เควียร์เบต มาใช้กับคนจริงๆ ที่ไม่ใช่แค่เนื้อหาในสื่อหรือคอนเทนต์อีกต่อไป คนดังที่ถูกโจมตีประเด็นนี้บ่อยที่สุดคือ แฮร์รี สไตล์ส (Harry Styles) นักร้อง นักแต่งเพลง และแฟชั่นไอคอนชาวอังกฤษผู้สวมเสื้อผ้าแบรนด์ผู้หญิงออกสื่อบ่อยๆ แต่ค่อนข้างปิดเรื่องชีวิตรักเป็นส่วนตัว ไม่พูดถึงอัตลักษณ์ทางเพศของตน
ไปๆ มาๆ ก็ลามมาถึงคนดังที่เผยตัวว่าเป็นเควียร์ด้วย เช่น บิลลี ไอลิช (Billie Eilish) ที่โดนตั้งคำถามว่า หากเธอเป็นเควียร์จริง แล้วเหตุใดแฟนใหม่จึงยังเป็นผู้ชาย

ที่มา: นิตยสาร Vogue
เช่นเดียวกับคำว่า เฮตสปีช (Hate Speech), ‘แก๊สไลต์’ (Gaslighting) และ ‘เลิฟบอมบ์’ (Love Bombing) ดูเหมือนคำว่าเควียร์เบตในแบบฉบับชาวเน็ต จะสูญเสียความหมายตามนิยามเดิมไปมากพอสมควร กลายเป็นว่าชีวิตนอกจอของคนดังก็สามารถนำมาเป็นหลักฐานชั้นดีในการชี้ตัวคนร้ายคดีเควียร์เบตได้เช่นกัน
คนจริงๆ เควียร์เบตได้ด้วยหรือ
หากเราถอยกลับมาหนึ่งขั้นก่อนจะถามว่า คนเควียร์เควียร์เบตได้ไหม คำถามหนึ่งที่แม้แต่คนในชุมชน LGBTQIA+ ก็ยังคงมีในใจคือ คนจริงๆ ที่มีชีวิตจิตใจสามารถเควียร์เบตได้ด้วยหรือไม่ ในเมื่อตามนิยามเดิมของคำ เควียร์เบตเป็นคำที่นำมาใช้อธิบายปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจากคอนเทนต์ ไม่ใช่คนจริง
Pajiba สื่ออเมริกันเอียงซ้ายสายรีวิวเผยแพร่บทความที่มีชื่อว่า Human Beings Can’t Queerbait, You Total Weirdos! (แปลหยาบๆ ได้ว่า “ใช้คำว่าเควียร์เบตกับคนจริงๆ ไม่ได้หรอกนะ พวกเพี้ยนเอ๊ย!”)
เช่นเดียวกับนิตยสาร them ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ชาวเน็ต หลัง คิต คอนเนอร์ (Kit Connor) นักแสดงเยาวชน ถูกบีบบังคับผ่านข้อกล่าวหาเควียร์เบตให้ออกมาคัมเอาต์ว่าเป็นไบเซ็กชวล
“สุดท้ายแล้ว การกล่าวหาผู้อื่นว่าเควียร์เบตจึงมีแต่จะทำให้เรามองคนจริงๆ ที่มีชีวิตจิตใจโดยผิวเผินเกินไป จนเขากลายเป็นเพียงตัวละครในสายตาผู้บริโภค เป็นเนื้อหาที่เราเข้าไปร่วมเสพเพื่อความพึงพอใจ แต่ไม่มองเขาในฐานะมนุษย์คนหนึ่งซึ่งมีความซับซ้อนในตัวเอง”

ที่มา: แอปพลิเคชัน X
เควียร์เบตกับอุตสาหกรรมการจิ้น
นำมาสู่ข้อถกเถียงระนาบสุดท้ายในบริบทแบบไทยๆ ที่นับวันยิ่งซับซ้อนขึ้นทุกที เพราะปัจจุบันเราเริ่มเห็นชาว LGBTQIA+ เข้าไปมีส่วนร่วมในอุตสาหกรรม BL และ GL มากขึ้น ไม่ใช่แค่คนเบื้องหลังตัวเล็กตัวน้อยเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงผู้กำกับ ผู้จัด เจ้าของค่าย หรือแม้แต่นักแสดงด้วย
ความน่าสนใจคือ ผู้ผลิตสื่อในแวดวง BL จำนวนมากโดยเฉพาะค่ายใหญ่ๆ ไม่ได้ขายแค่เนื้อหาซีรีส์หรือภาพยนตร์อีกต่อไป แต่ขายแฟนเซอร์วิส ขายเคมีระหว่างนักแสดง ขายโมเมนต์คู่ ตลอดจนขายโอกาสในการเข้าไป ‘เติมเกย์’ และมีส่วนร่วมเชิงอารมณ์ จุดมุ่งหมายคือเพื่อเรียกต่ออายุความนิยมของซีรีส์และจุดประกายปฏิกิริยาในโลกออนไลน์
กลยุทธ์นี้ดังกล่าวอาศัยสิ่งที่นักวิจัยเรียกว่า Parasocial Relationship ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อผู้ชมรู้สึกผูกพันและรู้จักกับคนดัง (และความสัมพันธ์หวานชื่นของพวกเขา) ดีมาก ราวกับเป็นเพื่อนหรือครอบครัว โดยที่ความรู้สึก ‘รู้จักดี’ นี้เกิดขึ้นเพียงด้านเดียวเท่านั้น ไม่ว่าศิลปินจะใส่ใจแฟนคลับแค่ไหน ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาไม่มีทางรู้จักแฟนๆ แต่ละคนได้ครึ่งหนึ่งของที่พวกเรารู้จักเขา
สารภาพว่าจนกระทั่งเขียนมาถึงย่อหน้านี้ ผู้เขียนเองก็ลังเลไม่น้อยเลยว่าจะขมวดจบอย่างไร ให้เกิดบทสนทนาที่มีคุณค่าต่อชุมชนคนสร้างสรรค์และ LGBTQIA+ มากที่สุด มีคำถามมากมายที่เรายังต้องถามไถ่กันและกันต่อ
แฟนเซอร์วิสนอกจอถือเป็นงานแสดง ซึ่งก็นับเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ของนักแสดงอยู่แล้วไม่ใช่หรือ
แต่ขณะเดียวกัน จุดมุ่งหมายของการออกมาต่อยอดนอกจอคือ เพื่อทำให้เส้นแบ่งระหว่างเนื้อหาที่สร้างขึ้นกับความเป็นจริงพร่าเลือนใช่หรือไม่
หากสัดส่วนทีมผู้สร้างเบื้องหลังเป็น LGBTQIA+ ไปแล้วกว่าครึ่ง นั่นก็น่าจะหมายความว่า เนื้อหาดังกล่าวก็เป็นผลงานฝีมือคนในคอมมูฯ เหมือนกันหรือเปล่า
แต่หากนิยายต้นฉบับถูกเขียนขึ้นโดยผู้หญิงสเตรทล่ะ แถมยังมีกลุ่มผู้เสพเป้าหมายเป็นหญิงสเตรทเช่นกัน แล้วจะมั่นใจได้อย่างไรว่า LGBTQIA+ มีอำนาจต่อรองในการตรวจสอบเนื้อหาจริงๆ ไม่ใช่การปล่อยให้ชิ้นงานผลิตเนื้อหาแนวเฟติช (Fetish) ซ้ำ
ที่สำคัญคือในกระบวนการทั้งหมดทั้งมวลนี้ มีการดูแลความปลอดภัยทางอารมณ์ของนักแสดง ที่ต้องทำกิจกรรมส่งเสริมการจิ้นมากน้อยเพียงใด
และอีกสารพัดคำถามที่ประดังประเดเข้ามาในหัว ผู้เขียนเห็นว่า ในการที่จะขบคิดคำตอบกันต่อไป เราทุกคนที่มีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมนี้ควรระลึกถึงคำถามสำคัญจากหัวข้อที่แล้วเอาไว้เสมอ
คนจริงๆ เควียร์เบตได้จริงๆ ใช่ไหม
คนคนหนึ่งอาจต้องสำรวจและหาคำตอบเรื่องอัตลักษณ์ของตนไปตลอดชีวิตก็ได้ และพวกเขายังเป็นเพียงฟันเฟืองหนึ่งของกลยุทธ์การตลาดที่หล่อเลี้ยงวัฒนธรรมการจิ้น ซึ่งถูกออกแบบมาโดยองค์กรต้นสังกัด ฉะนั้นการตั้งคำถามเรื่องการเควียร์เบตกับปัจเจกจึงส่งผลดีน้อยกว่าการตั้งคำถามต่อ ‘ระบบ’ อย่างไม่ต้องสงสัย
เพราะไม่ว่าชาว LGBTQIA+ คนหนึ่งจะเควียร์เบตได้หรือไม่ แต่บทประพันธ์และแผนการโปรโมตที่ผ่านขั้นตอนการวางแผน และผ่านมือคนมาแล้วมากมายหลายคู่นั้น ถูกใช้เป็นเครื่องมือเควียร์เบตได้อย่างแน่นอน
Tags: เควียร์เบต, เควียร์ LGBTQIA+, คอนเทนต์, Queer, คู่ชิป, การตลาด, ซีรีส์วาย, คู่จิ้น, Queerbaiting, วาย, Queerbait




