วันนี้ (10 พฤศจิกายน 2568) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมแถลงข่าวผลการดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี United Thailand Against Scammers ตอนหนึ่งว่า วันนี้อาชญากรรมไซเบอร์วันนี้สร้างความเดือดร้อนไปทั่ว ทั้งเยาวชน คนทำงาน แม่ค้าออนไลน์ ชาวบ้าน ไปจนถึงผู้สูงอายุ ที่ไว้ใจคนแปลกหน้าที่แทรกตัวเข้ามาได้ ถึงทุกพื้นที่ในบ้านประชาชน
“ความเดือดร้อนนี้มาถึงพวกเรา ให้เราต้องเร่งปราบปราม ป้องกัน และต้องทนต่อคำวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา เราต้องไม่ถือว่าสิ่งนี้ทำให้ขวัญกำลังใจลดน้อยถอยลง แต่จะเป็นยาชูกำลังให้เราต้องเร่งทำให้ความเดือดร้อนเหล่านี้สูญสิ้นไปจากประชาชน
“ความเสียหายไม่ใช่แค่เรื่องเงิน แต่เป็นเรื่องความเชื่อมั่นประชาชน ของประเทศ ต่อเศรษฐกิจ ต่อการค้าการลงทุน และเป็นตัวชี้วัดสำคัญของรัฐบาล รัฐบาลจึงได้ประกาศสงครามกับสแกมเมอร์ ให้สแกมเมอร์เป็นวาระแห่งชาติ”
นายกฯ กล่าวอีกว่า รัฐบาลจัดตั้งคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยมีตนเองเป็นประธาน ให้ทุกหน่วยงานทำงานในทิศทางเดียวกัน และได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่าง 15 หน่วยงานหลัก ทั้งรัฐ เอกชน สถาบันทางการเงิน เพื่ออุดช่องโหว่ทางการเงินและตัดเส้นทางเงินของขบวนการอาชญากรรมให้สิ้นซาก เปลี่ยนจากการตั้งรับมาเป็นการรุกไล่ และผลงานที่ผ่านมาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สะท้อนความก้าวหน้าอย่างชัดเจน
“เราได้อายัดทรัพย์สินหลายหมื่นล้านบาท เพิกถอนวีซ่า ผลักดันชาวต่างชาติออกนอกประเทศ ตลอดจนเพิกถอนสัญชาติ กำจัดบัญชีม้าได้แล้วเป็นจำนวนมาก เป็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง”
อย่างไรก็ตาม ในฐานะนายกฯ ทราบดีว่า ประชาชนยังมีคำถามและบางคนอาจตั้งข้อสงสัยว่าในเครือข่ายอาชญากรรมมีคนของรัฐไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
“ขอเรียนว่ารัฐบาลไม่เคยนิ่งนอนใจ และรับฟังเสียงสะท้อนที่เกิดขึ้น พร้อมกำชับให้ผู้บังคับบัญชาทุกหน่วยงานทำงานอย่างเต็มที่ในภารกิจนี้ หากท่านใดมีข้อมูลว่ามีนักการเมืองหรือมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาพัวพัน ขอให้ส่งข้อมูลถึงผู้บังคับบัญชาในหน่วยงานซึ่งมีอำนาจหน้าที่ที่จะดำเนินการเรื่องนี้โดยตรง
“ในฐานะนายกฯ หัวหน้ารัฐบาล และเป็นผู้ที่ต้องรับผิดชอบ เรื่องนี้เคลียร์ไม่ได้ เรื่องนี้ไม่มีการเคลียร์ เรื่องนี้ทำงาน ดูจากพฤติกรรม พฤติการณ์ และความเดือดร้อนของประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่ดูชื่อ คนไหนโผล่ออกมา ก็คนนั้นที่จะต้องถูกดำเนินคดีอย่างเฉียบขาดและเด็ดขาด ไม่มีข้อยกเว้น ขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลจะคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสอย่างเต็มที่ ให้แจ้งในช่องทางที่มีอำนาจหน้าที่โดยไม่รอช้า ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการได้ทันท่วงที และถูกต้องตามกฎหมาย”
ทั้งนี้นายกฯ ยังขอให้ประชาชนรวมพลังบอกเล่าเรื่องราว ให้ความรู้ความเข้าใจกับสังคม เกี่ยวกับกลเม็ด การล่อลวงต่างๆ ของสแกมเมอร์ เพราะอาชญากร จะใช้ความไม่รู้และความไม่เข้าใจเป็นอาวุธ ซึ่งวิธีสู้ได้ดีที่สุดคือทำให้ประชาชนรู้เท่าทัน ทั้งนี้ขอให้ประชาชนยึดหลักสามข้อ ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน ให้พิจารณาอย่างรอบคอบ ป้องกันการล่อลวงได้
“สิ่งที่ประเทศไทยทำให้เห็นชัดเจน คือเราเป็นศัตรูกับสแกมเมอร์อย่างชัดเจนที่สุด เพราะเราไม่มีศูนย์กลาง ไม่มีเซนเตอร์อยู่ในประเทศเรา เซนเตอร์เหล่านี้อยู่รอบประเทศของเราทั้งนั้น เพราะว่าการบังคับใช้กฎหมาย วิธีการปกครองไม่เหมือนกัน แต่ในประเทศไทยไม่มี นี่คือสัญญาณชัดเจนว่า ประเทศไทย โดยผู้รักษากฎหมาย ไม่ยอมให้เกิดการดำเนินการของสแกมเมอร์อย่างเป็นรูปธรรมได้”
Tags: อนุทิน ชาญวีรกูล, อนุทิน, สแกมเมอร์, วาระแห่งชาติ, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ




