วันที่ 2 ตุลาคม 2568 พรรคเพื่อไทยปล่อยคลิป แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ความยาว 23 นาที สรุปผลงานการทำงานในตำแหน่งนายกฯ ภายใต้ชื่อคลิป ‘พรรคเพื่อไทยจะกลับมา’ ซึ่งเป็นแคมเปญใหม่ของพรรคเพื่อไทย
ทั้งนี้แพทองธารกล่าวตอนหนึ่งว่า สิ่งที่น่าเสียดายคือ ‘ความไม่ต่อเนื่อง’ และความไม่มีเสถียรภาพของการเมืองไทย ซึ่งทำให้เปลี่ยนนายกฯ อยู่บ่อยครั้ง พร้อมกับระบุว่า ที่ผ่านมาวางรากฐานไว้หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการดึงโครงการ Data Center จากต่างประเทศเข้ามาลงทุน การริเริ่มโครงการแลนด์บริดจ์ (Landbridge) ที่มีการหาผู้ลงทุนไว้เรียบร้อย รวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยว เช่น การเสนอตัวให้ไทยเป็นเจ้าภาพการแข่งขันรถยนต์ฟอร์มูลาวัน หรือการเสนอตัวให้ไทยจัดมหกรรมคอนเสิร์ต Tomorrowland
นอกจากนี้พรรคเพื่อไทยยังริเริ่มโครงการสาธารณสุขอย่าง 30 บาท รักษาทุกที่ การสนับสนุนกองถ่ายภาพยนตร์จากต่างประเทศให้สามารถใช้มาตรการส่วนลดทางภาษีได้ ขณะเดียวกันในส่วนของซอฟต์พาวเวอร์ก็มีการสนับสนุนอุตสาหกรรมทั้งภาพยนตร์ มิวสิกวิดีโอ และงานที่เกี่ยวข้องกับความคิดสร้างสรรค์ผ่าน THACCA
อดีตนายกฯ ยังระบุถึงผลงานรัฐบาลในการจัดการข้อพิพาทชายแดน ผ่านการจัดการสแกมเมอร์ และการจับกุมแก๊งคอลเซนเตอร์ ซึ่งจัดการเครือข่ายนี้สำเร็จในฝั่งเมียนมา จนประธานาธิบดี สี จิ้นผิง (Xi Jinping) ของจีน เอ่ยปากชื่นชม อย่างไรก็ตามมีบางประเทศที่ไม่อยากให้ปราบสแกมเมอร์ เพราะมีผลประโยชน์บางอย่าง ทั้งนี้มีอีกหลายเรื่องที่อยากทำต่อ เช่น การจัดการกับยาเสพติด รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย บ้านเพื่อคนไทย ที่ไม่ได้ไปต่ออีกแล้ว
“เราเป็นคนที่เกิด Gen Y ถามว่ามันเปลี่ยนตรงนั้นได้ไหม มันเปลี่ยนไม่ได้หรอก เพราะเราก็เกิดใน Gen Y คนเกิดเจนไหนก็เจนนั้น แต่ถามว่ามายด์เซตความเข้าใจของตัวเองมันปรับได้แน่นอน คนเจนอื่นๆ อาจจะมองว่า Gen Y อายุน้อย แต่ไม่ Gen Y นี้ในอาชีพอื่นไม่น้อยนะ จะ 40 ปีแล้ว สมมติเป็นการทำงานประเทศอื่น มันต้องเป็นระดับที่เป็นเรื่องเป็นราวแล้ว มีครอบครัวก็เลี้ยงครอบครัวแล้ว สร้างอะไรให้สำคัญกับบริษัทได้แล้ว
“อันนี้ก็คือเป็นอายุที่มันไม่เด็กอยู่แล้ว การเมืองทั่วโลก ถึงมันจะเปรับเทรนด์ ส่วนใหญ่ก็เป็นอายุเยอะอยู่ดี ก็เข้าใจได้”
แพทองธารยังระบุด้วยว่า ตนเองมีเป้าหมายที่มั่นคง หนักแน่น ในการทำให้ประเทศชาติดีขึ้น ให้ประชาชนกินดีอยู่ดีมากขึ้น และความผูกพันกับพรรคเพื่อไทยก็คือ ตนเองโตมากับพรรคนี้ ได้เห็นความทุ่มเทของทั้งผู้ก่อตั้งพรรค ของนายกฯ คนอื่นๆ อย่างสม่ำเสมอ อีกทั้ง DNA ของพรรคนั้นชัดเจนว่า คือความผูกพันกับประชาชน และการคิดถึงพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง
“ดิฉันเอง พอช่วงการเมืองที่เปลี่ยนแปลงเยอะ ก็แน่นอน มีช่วงท้อใจบ้าง แต่ว่าก็มีกำลังใจอีกเยอะมากๆ และยังมีคนที่เชื่อในพรรคเราอย่างเต็มที่ว่าพรรคเรายึดโยงกับประชาชน แล้วก็ยังยึดโยงในเรื่องของนโยบาย ยึดโยงในเรื่องของการทำให้ปากท้องพี่น้องดีขึ้น
“ยอมรับเลยว่าการเป็นรัฐบาล ไม่สามารถแก้ทุกอย่างได้ภายใน 2-3 เดือน ใน 1 ปีที่ดิฉันทำ ดิฉันก็รู้สึกว่าได้วางรากฐานอะไรมากพอสมควร และให้กับอนาคตของประเทศ อันนี้เราฟังกันอย่างไม่ต้องมีไบแอส เอาตัวเลขของราชการมาดูเลยว่า จริงๆ แล้วมันได้ขยับขึ้นไปอย่างก้าวกระโดดพอสมควรโดยเฉพาะในเรื่องของเศรษฐกิจ อาจจะไม่รู้สึกไปทุกๆ หย่อมหญ้า แต่ว่ามันกำลังมา
“เพราะฉะนั้นดิฉันเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยได้กลับมามีโอกาสทำงานอีก ถึงตัวดิฉันเองจะไม่ได้เป็นนายกฯ แต่แน่นอนว่า DNA นี้ยังอยู่กับเพื่อไทยการที่จะให้พี่น้องประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด แล้วก็การวางรากฐานเผื่อลูกหลานในอนาคตของเรา นั่นคือสิ่งที่อยู่ในใจของพรรคเพื่อไทยวันนี้ แต่ตอนนั้นจนถึงวันนี้ 20 กว่าปีแล้ว และไปถึงอนาคต พรรคของเราก็ยังมี DNA ที่มั่นคง นั่นคือการทำเพื่อประชาชนคือสิ่งที่สำคัญที่สุด” แพทองธารระบุ
Tags: เพื่อไทย, แพทองธาร, เพื่อไทยจะกลับมา