ในปี 2568 เราอาจได้รู้จักผลงานการออกแบบจากผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่หลากหลายมากขึ้น เพราะกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ (DITP) ที่เดินหน้าส่งเสริมอย่างต่อเนื่องหลายปี ด้วยโครงการ Prime Minister’s Export Award 2025 (PM’s Export Award 2025) และ T MARK (Thailand Trust Mark) เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการส่งผลงานออกแบบเข้ามาประกวด
ซึ่ง Prime Minister’s Export Award (PM’s Export Award) คือรางวัลสูงสุดของรัฐบาล ที่มอบให้แก่ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาศักยภาพธุรกิจส่งออก ทั้งด้านคุณภาพสินค้าและบริการ การสร้างแบรนด์ การสร้างนวัตกรรม และการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
วันนี้ The Momentum ได้พูดคุยกับ THINKK Studio ที่สร้างผลงานการออกแบบ ‘Stamping Chair’ หรือเก้าอี้ Stamping ให้ได้รางวัลในสาขา Best Design หรือรางวัลการออกแบบยอดเยี่ยม (DEmark) และไม่เพียงแค่สตูดิโอดีไซเนอร์เท่านั้น เพราะแบรนด์ SAUCE COFFEE ร้านกาแฟที่เปิดหน้าร้านเล็กๆ ใน FRIEND FRIEND ห้างเอ็มโพเรียม ก็ส่งผลงาน ‘Drip Bag’ เข้าร่วมโครงการและได้รับรางวัลเช่นกัน ซึ่งทั้ง 2 แบรนด์เล่าให้ฟังว่า DITP ได้ช่วยส่งเสริมและผลักดันผู้ประกอบการให้ไปได้ไกลกว่าที่เคย ไม่เพียงแค่ในประเทศแต่ยังได้สร้างโอกาสและเสริมศักยภาพด้านการส่งออกไปยังต่างประเทศด้วย
ความยั่งยืน คือแนวคิดในการออกแบบของคนรุ่นใหม่
หากเราเข้าไปที่หน้าเว็บของ PM’s Export Award 2025 แล้วไปที่รางวัลการออกแบบยอดเยี่ยม (DEmark) จะพบผลงานการออกแบบมากมายจากผู้ประกอบการหรือดีไซเนอร์ไทย สะท้อนถึงความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่แพ้ใครในโลก และหนึ่งในนั้นคือ เจ้าเก้าอี้ Stamping จาก THINKK Studio ที่มี เดชา อรรจนานันท์ เป็นผู้ออกแบบ โดยความตั้งใจแรกในการออกแบบเพราะอยากช่วยเหลือผู้ประกอบการโรงงานที่ประสบปัญหาในการผลิต
“เราเป็นดีไซน์สตูดิโอ ทำดีไซน์เซอร์วิสร่วมงานกับผู้ประกอบการ และโรงงานต่างๆ โดยใช้ความคิดสร้างสรรค์เป็นตัวผลักดัน ที่ให้ผู้ผลิตที่เราทำงานด้วยสามารถแสดงศักยภาพออกมาในผลงานใหม่ๆ ซึ่งขอบข่ายการทำงานของเราก็จะมีตั้งแต่ออกแบบเฟอร์นิเจอร์ ออกแบบสินค้า ไปจนถึงอินทีเรียสเปซ (Interior Space)
“โดยแนวคิดการผลิตเก้าอี้ Stamping คือ เราอยากสร้างมูลค่าให้สินค้า ใช้ความคิดสร้างสรรค์การออกแบบเข้าไปช่วยเติมเต็มโรงงาน เพราะเราไปเจอโรงงานที่เขาปั๊มอะไหล่โลหะ แล้วถูกของนำเข้าจากจีนที่ราคาถูกมากๆ มาตีตลาด โรงงานไทยเลยต้องขายแบบไม่มีมูลค่า ด้วยเครื่องจักรต่างๆ ที่เขามีมันเป็นเครื่องจักรพื้นฐาน เราเลยพยายามให้เขาลองทำชิ้นงานที่ท้าทายและน่าสนใจมากขึ้น เช่น เอาเครื่องจักรที่ปั๊มโลหะมาทำปั๊มชิ้นส่วนของพนักพิงเก้าอี้ โดยใช้เครื่องเดิม ทักษะเดิมที่มี แต่เปลี่ยนรูปแบบของโมเดล กับรูปแบบของวัสดุ กลายเป็นเก้าอี้ Stamping และสร้างผลงานที่มีมูลค่าได้” เดชาเล่าถึงที่มาของผลงาน
โดยเขาเล่าต่อไปว่า งานออกแบบที่ดี นอกจากจะช่วยให้การใช้ชีวิตสะดวกสบายขึ้นแล้ว ในอีกแง่หนึ่งยังสามารถช่วยพัฒนาระบบเศรษฐกิจได้ และการออกแบบที่ดีต้องคำนึงถึงความยั่งยืนด้วย
“การออกแบบส่งผลดีทั้งระบบเศรษฐกิจ เช่น ช่วยผู้ประกอบการ เพราะหากระบบเศรษฐกิจดี ภาพรวมของทั้งประเทศก็ดี รวมถึงเรื่องสิ่งแวดล้อม โดยการออกแบบต้องใช้ปริมาณวัสดุที่เหมาะสม ไม่เหลือเศษทิ้งมากเกินไป หรือนำเศษวัสดุกลับมาจัดการใหม่ได้เพื่อสิ่งแวดล้อม เพราะเราคือมนุษย์ที่อยู่กับสิ่งแวดล้อม ถ้าสิ่งแวดล้อมดี ชีวิตเราก็ดี” ดีไซเนอร์กล่าว
เมื่อพูดถึงงานออกแบบ เรามักนึกถึงสตูดิโอออกแบบกับดีไซเนอร์ แต่สำหรับ SAUCE COFFEE ที่เป็นแบรนด์กาแฟก็ได้ส่งผลงานออกแบบเข้าประกวดเช่นกัน โดย รตา วงศ์บุษราคัม เล่าว่า ในปี 2023 SAUCE COFFEE เคยส่งผลงานการออกแบบกล่องเมล็ดกาแฟเข้าประกวดแล้วได้รางวัล และได้รับโอกาสที่ดี เมื่อออกผลงานบรรจุภัณฑ์ใหม่ในปีนี้อย่าง Drip Bag จึงได้ส่งเข้าประกวดอีกครั้ง โดยยังคงไว้ซึ่งแกนหลักของแบรนด์คือ ความยั่งยืน
“ความตั้งใจแรกของ SAUCE COFFEE คืออยากนำเสนอกาแฟที่ดี เราเสาะหาจากแหล่งเกษตรกรที่ปลูกเอง แล้วนำมาคั่วเอง และพยายามเชื่อมโยงความยั่งยืนในทุกส่วน ทั้งเรื่องกาแฟที่เฟ้นหามา บรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบให้ใช้ซ้ำได้ หรือของที่ใช้ในร้าน อย่างแก้วหรือถาด เราก็เอาวัสดุเหลือใช้มาใช้ อยากให้ทุกองค์ประกอบมันเชื่อมโยงและสื่อสารในเรื่องเดียวกัน
“เราจึงนำเสนอบรรจุภัณฑ์ที่ผ่านการคิด และทดลองมาแล้วว่ามีความยั่งยืน หลักๆ มีฟังก์ชันที่หลากหลาย เพื่อย้ำแนวคิดเรื่องการใช้ซ้ำ หรือยืดอายุบรรจุภัณฑ์ด้วย ไม่อยากให้แค่แกะเสร็จแล้วก็ทิ้ง และล่าสุดตัว Drip Bag ได้รางวัล ตอนนั้นมองว่า Drip Bag ที่มีอยู่ในตลาดยังไม่ตอบโจทย์เรา ใส่กาแฟได้ไม่เยอะ ทำให้รสชาติไม่เข้มข้น หรือรูปทรงที่ใช้ได้อาจเหมาะกับแก้วบางแบบเท่านั้น จึงเกิดการออกแบบของเราขึ้นมา” รตาเล่า
ทั้งเก้าอี้ Stamping จาก THINKK Studio และ ถุงกาแฟ Drip Bag ของ SAUCE COFFEE เป็นการออกแบบที่เริ่มต้นจากแนวคิดที่ต้องการสร้างประโยชน์ให้กับระบบเศรษฐกิจทั้งต้นน้ำสู่ปลายน้ำและความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม เพื่อนำเสนองานออกแบบไปสู่วงกว้าง สู่ตลาดต่างประเทศ รวมถึงขยายการตระหนักรู้ของคนรุ่นใหม่ให้มากขึ้น จึงจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
DITP เปิดประตูหลายบานให้ผู้ประกอบการไทย
สำหรับแบรนด์ดีไซเนอร์หรือผู้ประกอบการรุ่นใหม่ บางคนอาจมองว่า การเข้าร่วมโครงการรัฐเป็นเรื่องยุ่งยากหรือซับซ้อน รวมถึงเกิดข้อกังวลว่าผู้ใหญ่ในหน่วยงานต่างๆ อาจไม่เข้าใจแนวคิด ทำให้พลาดโอกาสที่จะเข้าร่วมโครงการนี้ไปอย่างน่าเสียดาย
ซึ่งในประเด็นนี้ SAUCE COFFEE กล่าวว่า การเข้าร่วมโครงการ Prime Minister’s Export Award (PM’s Export Award) ไม่ได้ยากอย่างที่บางคนวิตก
“เราไม่ได้รู้สึกว่า การเข้าร่วมโครงการรัฐเป็นเรื่องที่ยุ่งยากเลย เพราะพอทำอะไรขึ้นมาสักอย่างต้องใช้กระบวนการในการคิดและทำขึ้นมาแล้ว จากนั้นเราแค่แชร์สิ่งนั้นออกไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแนวคิดในการออกแบบ หรือผลิตภัณฑ์ของเรา ซึ่งรัฐเปิดกว้างกับแบรนด์รุ่นใหม่มากกว่าที่หลายคนคิด เราแค่ต้องแสดงความตั้งใจ และนำเสนอสิ่งที่มีคุณภาพ เชื่อว่ารัฐพร้อมสนับสนุนอยู่แล้ว” รตากล่าว
ในขณะนี้ที่ THINKK Studio เห็นตรงกันว่า รัฐหรือผู้ใหญ่ไม่ได้ปิดกั้นความคิดสร้างสรรค์ และโอกาสที่จะได้รับนั้นมีคุณค่า ทั้งในด้านการประชาสัมพันธ์และการจัดนิทรรศการ
“จริงๆ ภาครัฐก็พยายามดึงผู้เชี่ยวชาญ หรือนักออกแบบที่เป็นคนรุ่นใหม่เข้ามาช่วยในเรื่องของการคัดเลือก ช่วยให้ความรู้กับแบรนด์คนรุ่นใหม่ที่เข้ามา ซึ่งภาครัฐก็อาจมีขั้นตอนที่เป็นระบบระเบียบอยู่บ้าง ซึ่งทุกอย่างเป็นตามระบบราชการ แต่ก็ไม่ได้ยากลำบากจนเกินไป เพียงเราให้ข้อมูลหรือให้ความร่วมมือกับทางภาครัฐ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้อาจช่วยส่งเสริมให้เราไปได้ไกล มีช่องทางที่คนจะเห็นผลงานมากขึ้น ทั้งในเรื่องประชาสัมพันธ์ เช่นส่งให้สื่อต่างประเทศ เพราะสื่อต่างประเทศก็จะมีค่าใช้จ่าย ซึ่งทางกรมจะช่วยสนับสนุน รวมถึงในอนาคตอาจมีนิทรรศการทั้งในและต่างประเทศ แล้วเราก็มีโอกาสส่งผลงานไปร่วมแสดงในเวทีต่างประเทศด้วย” เดชาเน้นย้ำ
และในด้านของโอกาส รตาเล่าว่า SAUCE COFFEE ได้ไปไกลถึงการประกวดในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นความน่าภาคภูมิใจไม่น้อยที่ได้เห็นผลงานออกแบบสัญชาติไทยสู่เวทีโลก
“แบรนด์ของเราได้รับโอกาสทั้งในประเทศและต่างประเทศ ล่าสุด DITP ได้สนับสนุนผลงานดีไซน์ตัวนี้ให้ไปประกวด Good Design Award ที่ประเทศญี่ปุ่น เหมือนเป็นจุดเริ่มต้นให้เราได้เจอตลาดใหม่ๆ มีแพลตฟอร์มในระดับสากล” รตาเสริม
สุดท้ายนี้ เดชากล่าวทิ้งท้ายในฐานะดีไซเนอร์ว่า อยากให้ DITP หรือภาครัฐยังคงเดินหน้าสนับสนุนนักออกแบบไทยต่อไป
“เรามองว่าภาครัฐควรเป็นแบ็กอัปข้างหลังให้คนทำงานออกแบบหรือนักออกแบบรู้สึกอุ่นใจที่จะไปแสดงงาน หรือไปโชว์ฝีมือในเวทีต่างประเทศ ซึ่งมีเรื่องค่าใช้จ่าย มีหลายเรื่องที่นักออกแบบต้องรับผิดชอบค่อนข้างมาก หากภาครัฐมาเป็นแบ็กอัปตรงนี้ แล้วมีระบบคัดกรองการเลือกคนที่มีทักษะมีคุณภาพ เชื่อว่าผลลัพท์ที่ได้กลับมาจะส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ของทั้งประเทศ”
Tags: Business, #DITP, PMs Export Award 2025